วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2560

'เรืองไกร' ร้องสอบภาษี 'พล.อ.ประวิตร ' กรณีเช็ค 1 ล้าน


'เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ' เตรียมร้องสรรพากรตรวจภาษี 'พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ' ที่เคยแจ้งบัญชีตอนเป็น รมว.กลาโหม ปี 2551 ว่ามีทรัพย์สินอื่นเป็นเช็คจำนวนเงิน 1 ล้านบาท ชี้การตรวจสอบต้องเป็นบรรทัดฐานเดียวกันกับนักการเมืองที่กำลังถูกดำเนินการเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง
 
19 มี.ค. 2560 เว็บไซต์บ้านเมือง รายงานว่านายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากการติดตามข่าวการจัดเก็บภาษีในช่วงนี้ มีบุคคลสำคัญทางการเมือง 60 คนที่ถูกตรวจสอบ และพบเพิ่มเติมว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็อาจเข้าข่ายที่ควรตรวจสอบด้วย ทั้งนี้จากการเปิดเผยของสำนักข่าวอิศราก่อนหน้านี้ พบว่า พล.อ. ประวิตร เคยแจ้งบัญชีคราวรับตำแหน่ง รมต.กลาโหม เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2551 พล.อ.ประวิตร ได้แจ้งว่ามีทรัพย์สินอื่นเป็นเช็คจำนวนเงิน 1 ล้านบาท
 
นายเรืองไกร กล่าวว่า หากพิจารณาจากข้อมูลที่คนของรัฐบาลเปิดเผยออกมาเกี่ยวกับมาตราต่าง ๆ ในประมวลรัษฎากรแล้ว ก็ทำให้เข้าใจได้ต่อว่า กรณีเช็ค 1 ล้านบาท ของพล.อ.ประวิตร ก็ควรมีการตรวจสอบเช่นกันว่า เช็คดังกล่าวถือเป็นเงินได้พึงประเมินหรือไม่ ได้มีการเสียภาษีจากเช็คดังกล่าวหรือยัง หากยังไม่เสีย จะต้องออกหมายเรียกต่อไปหรือไม่ อย่างไรจะนำเรื่องเช็คจำนวน 1 ล้านบาทนี้ไปร้องขอให้อธิบดีกรมสรรพากรตรวจสอบโดยเร็วต่อไป โดยจะไปยื่นหนังสือที่กรมสรรพากร ในวันที่ 20 มี.ค.นี้

ประวิตร จ่อขอตัว 'โกตี๋' จากทางการลาว


โกตี๋ อัดถูกยัดเยียดข้อหาก่อการร้าย ชี้อาวุธขนาดนั้นมีแต่ทหารที่ทำได้ ยันไม่ได้เป็นเครือข่ายหรือกองกำลังติดอาวุธ แต่เป็นการติดความคิด ด้านประวิตรระบุพบวางแผนลอบสังหารตน ขณะที่ โฆษก ทบ. ชี้โยงกับธรรมกายไม่สมเหตุสมผล โดย ตร.กำลังสอบขยายผล
20 มี.ค. 2560 จากรณีเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ฝ่ายความมั่นคงและทหารบุกค้นบ้าน วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำเสื้อแดง พร้อมเป้าหมายอื่น รวมจำนวน 9 จุด ซึ่งในบางจุดพบอาวุธแต่บางจุดไม่พบนั้น (อ่านรายละเอียด
วันนี้ (20 มี.ค.60) สำนักข่าวไทย รายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า เนื่องจากมีบุคคลให้ข้อมูล และเจ้าหน้าที่ได้ติดตามข่าวอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่การจัดฉาก ยืนยันต้องขอตัวโกตี๋ จากทางการลาว เพราะเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
พล.อ.ประบิตร ยอมรับว่าขณะนี้ยังไม่ทราบผู้บงการใหญ่ ย้ำที่ผ่านมาไม่ได้กล่าวหาใคร เพราะอาจไม่ใช่กลุ่มคนเสื้อแดง และมั่นใจว่าเรื่องนี้จะไม่กระทบกับการเดินหน้าสร้างความปรองดอง

ประวิตรระบุพบวางแผนลอบสังหารตน

ขณะที่ บีบีซีไทย รายงานไว้วานนี้ (19 มี.ค.60) ซึ่ง พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีนี้ด้วยว่า การตรวจค้นและพบอาวุธ เป็นการติดตามสืบค้นมาอย่างต่อเนื่องแล้วจึงขยายผลการจับกุม ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีการตรวจค้นแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่เจอเพราะมีการโยกย้ายถ่ายเทออกไป จนกระทั่งมีการนำกลับมาอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงติดตามมาจนสามารถจับกุมได้ ก็ต้องย้อนถามไปว่า อาวุธสงครามจำนวนมากขนาดนี้จะนำไปทำอะไร และพบว่ามีการวางแผนลอบสังหารตนเองด้วยอาวุธนี้ด้วย เพราะสถานที่ที่พบอยู่ใกล้กับบ้านของตนเอง

โฆษก ทบ. ชี้โยงกับธรรมกายไม่สมเหตุสมผล

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า อาวุธและวัตถุระเบิดที่จับได้ ถูกพบในสถานที่เป้าหมาย โดยมีการหลบซ่อนไว้อย่างมิดชิดในพื้นที่ส่วนบุคคล ซึ่งคนภายนอกไม่สามารถจะเข้าถึงได้ และการตรวจค้นก็อาศัยกระบวนการสืบสวนที่เป็นระบบ ควบคู่กับงานการข่าว เมื่อมีข้อมูลชัดเจนในแง่ของพยานหลักฐานแล้ว เจ้าหน้าที่จึงเข้าดำเนินการ และครั้งนี้สื่อมวลชนก็เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ที่บันทึกภาพการปฏิบัติไว้อย่างละเอียด เพื่อเป็นหลักฐานป้องกันผู้ไม่หวังดีนำไปทำลายความน่าเชื่อ
พ.อ.วินธัย กล่าวว่ากรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเชื่อมโยงกับปัญหาวัดพระธรรมกายนั้น ขอชี้แจงว่า ปัจจุบันเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการเกี่ยวกับงานรักษากฎหมาย งานดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่วัดพระธรรมกายและโดยรอบได้อยู่แล้ว ข้อสังเกตดังกล่าวจึงดูไม่สมเหตุสมผล และเรื่องของการเชื่อมโยงบุคคลในทางคดี ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ซึ่งยังอยู่ในระหว่างสอบสวนบุคคลต่าง ๆ

โกตี๋ อัดถูกยัดเยียดข้อหาก่อการร้าย ชี้อาวุธขนาดนั้นมีแต่ทหารที่ทำได้

วานนี้ (19 มี.ค.60) วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ ให้สัมภาษณ์ Thaivoice กรณีดังกล่าวว่า ทั้งหมดเป็นการจัดฉาก เพื่อยัดเยียดข้อหาก่อการร้ายให้กับตน แต่เป็นฉากที่ไม่เนียน เป็นการขายความโง่ของทหารไทย เหมือนกับหลายครั้งที่ทำกับคนที่ต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหาร ยืนยันว่า ตนไม่ได้เป็นเจ้าของอาวุธสงครามเหล่านั้น ประชาชนธรรมดาไม่สามารถหาอาวุธสงครามแบบนั้นมาถือครองได้ ยกเว้นทหารเท่านั้นที่จะมีอาวุธสงครามร้ายแรงแบบนี้ได้ ซึ่งเรื่องนี้ พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 รู้ดีว่าอาวุธดังกล่าวมาจากไหน
วุฒิพงศ์ ยืนยันว่า ตนไม่ได้เป็นเครือข่ายหรือกองกำลังติดอาวุธ แต่เป็นการติดความคิดให้กับประชาชนที่ต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหารเท่านั้น อีกทั้งข้อกล่าวหาว่าจะก่อเหตุร้ายหลายจุดในประเทศไทยนั้น ยืนยันว่าไม่มี แต่ในฐานะประชาชนที่ถูกกระทำมาโดยตลอดจะไม่ยอมตกเป็นผู้ถูกกระทำอีกต่อไป ส่วนแผนการลอบสังหาร พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตรนั้น ก็ไม่มีเช่นกัน แต่จากการเป็นผู้นำที่ไร้วุฒิภาวะ ไร้ความสามารถ พูดจาไม่ดี ของผู้นำทั้งสองคนนี้ เชื่อว่าคนไทยจำนวนมากไม่พอใจแน่นอน 

ตร.สอบขยายผล

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รายงานด้วยว่า วันนี้ (20 มี.ค.60) เมื่อเวลา 10.40 น. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญผกก.ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา ในฐานะ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการปฏิบัติการตรวจค้นแหล่งสะสมอาวุธสงคราม 9 จุด ในพื้นที่ 7 จังหวัด เครือข่าย วุฒิพงศ์ หรือ “โกตี๋” ว่า ตำรวจมีพยานหลักฐานชัดเจนจึงได้ดำเนินการ ตรวจค้นและควบคุมตัวเครือข่ายนายโกตี๋ทั้ง 9 คน ซึ่งการตรวจค้นยังไม่ได้สิ้นสุด หากการข่าวพบความเชื่อมโยงไปถึงใคร กลุ่มใด หรือพื้นที่ต้องสงสัยใด ก็ต้องดำเนินการตรวจค้นอีกครั้ง ส่วนที่มาของอาวุธปืนอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าอาวุธยุทโธปกรณ์มาจากที่ใด ใครเป็นท่อน้ำเลี้ยง ตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ถ้าหากพยานหลักฐานไปโทษใครก็ต้องดำเนินการ

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า อาวุธจำนวนมากที่เจ้าหน้าที่ยึดได้ ทราบว่าเป็นการสะสมมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่พบพิรุธแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่วนจะมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มเสื้อแดงบางกลุ่มหรือไม่นั้น ต้องตรวจสอบอีกครั้ง แต่ปกติโกตี๋มีความชัดเจนเรื่องจุดยืนอยู่แล้ว พร้อมกันนี้ต้องมีการตรวจสอบว่ามีกลุ่มนักการเมือง เข้ามาเกี่ยวข้องกับการขู่ลอบสังหารผู้นำประเทศ การขัดขวางการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย หรือการสะสมอาวุธด้วยหรือไม่

ส่วนกรณีที่มีข้อสงสัยว่ากลุ่มคนดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับเหตุวินาศกรรมก่อนหน้านี้หลายครั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครหรือไม่นั้น พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ตนไม่ทราบแต่ส่วนตัวเชื่อว่าเจ้าหน้าที่มีการสอบสวนขยายผลอยู่แล้ว ซึ่งทั้ง 9 ราย จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขู่สังหารผู้นำประเทศด้วยหรือไม่นั้น ขณะนี้กำลังซักถามอยู่ แต่ไม่ขอลงรายละเอียด โดยปกติเจ้าหน้าที่จะมีการซักถามทุกประเด็นอยู่แล้ว โดยทั้ง 9 คน ก็ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อทางการ เพื่อนำไปขยายผลต่อ สำหรับนายโกตี๋ เจ้าหน้าที่มีหลักฐานที่ชัดเจนอย่างหนึ่ง คือ การโพสต์ข้อความผ่านโลกโซเชี่ยลข่มขู่ว่าจะสังหารผู้นำประเทศ ซึ่งการกระทำในลักษณะนี้ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการกระทำความผิด

ทั้งนี้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้รายงานเรื่องดังกล่าวไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี และพล.อ. ประวิตร รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไปก่อนหน้านี้แล้ว

'หมอเหวง' ระบุไม่สนับสนุนความรุนแรง อย่าเหมารวม 'โกตี๋' เป็นแกนนำ นปช.


         'นพ.เหวง โตจิราการ' ตั้งข้อสงสัยทำไมรัฐบาลมาค้นเอาตอนนี้ ทั้งที่ผ่านมาแล้ว 3 ปี ระบุ 'โกตี๋' ไม่ใช่ นปช. เพราะเคลื่อนไหวในแนวทางที่รุนแรง แค่ใส่เสื้อแดงและอย่าเหมารวมว่าเป็นแกนนำ นปช.
 

         18 มี.ค. 2560 เว็บไซต์แนวหน้า รายงานว่านพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ บุกเข้าตรวจค้นบ้านพักเครือข่ายของ นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำคนเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ จ.ปทุมธานี และพบว่ามีระเบิด อาวุธปืนสงคราม กระสุนปืน ซุกซ่อนอยู่เป็นจำนวนมาก ว่าโดยส่วนตัวตนไม่เคยติดต่อไม่เคยโทรหา และไม่เคยประชุมร่วมกันกับนายโกตี๋ ถ้าเรื่องนี้เจ้าหน้าที่เห็นว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมายก็ให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย และเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องไปสืบสวนข้อเท็จจริงและขอว่าอย่าสร้างเรื่องอย่ายัดเยียดความผิดให้ใคร




        ทั้งนี้ นพ.เหวง กล่าวต่อว่าแต่ที่น่าสงสัยคือทำไมรัฐบาลมาค้นเอาตอนนี้ ทั้งที่มันผ่านมาแล้ว 3 ปี ทำไมเพิ่งจะมาค้นตอนนี้ แกนนำ นปช.เราไม่สนับสนุนความรุนแรง และถ้าจะมาบอกว่าเป็นแกนนำ นปช.ก็ควรที่จะแยกแยะด้วย เพราะว่านายโกตี๋ไม่ใช่ นปช.เพราะเขาเคลื่อนไหวในแนวทางที่รุนแรง ซึ่งไม่ใช่แนวทางเดียวกันกับ นปช.ดังนั้น นายโกตี๋ไม่ใช่ นปช.เขาอาจจะใส่แค่เสื้อสีแดงและก็โปรดอย่าเหมารวมว่าเป็นแกนนำ นปช.ด้วย

'โกตี๋' โต้อาวุธไม่ใช่ของตัวเอง จวกรัฐจัดฉากไม่เนียน


         'โกตี๋' ชี้แจงผ่านยูทูปยืนยันอาวุธไม่ใช่ของตัวเองจวกรัฐบาลจัดฉากไม่เนียน ระบุออกจากเมืองไทยมา 3 ปีแล้ว และจะสะสมอาวุธไว้ทำไมในที่ใจกลางเมืองขนาดนั้น 
 

         19 มี.ค. 2560 มติชนออนไลน์ รายงานว่านายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีทหารบุกค้นบ้านแล้วอาวุธสงครามจำนวนมาก ผ่านช่องทางยูทูป ว่า วันนี้ตนเห็นลูกน้องที่โดนจับแล้วสงสารเขา เพราะตนไม่มีปัญญาไปช่วย เขาเป็นคนดีมาก วันนี้โดนยัดข้อหาขนาดนี้ นี่คือความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นตลอดซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเมืองไทย ไม่รู้ว่าโดนจับเข้าไปเขาจะโดนทำร้ายมากขนาดไหน ในการที่จะให้เขาใส่ร้ายป้ายสีมาให้ตนให้ได้ ถ้าเป็นไปได้พี่น้องช่วยตามข่าวแทนตนด้วย ทั้งนี้ กองทัพไม่ต้องซื้ออาวุธหรอก ไปบุกบ้านไหนก็ของโกตี๋ เจออาวุธที่ไหนก็ของโกตี๋ โยงเข้าหาแม้กระทั่งวัดธรรมกาย บ้ากันไปใหญ่แล้ว อาวุธที่ค้นเจอนั้นตนยืนยันว่าไม่ใช่ของตนแน่นอน มีการจัดฉากต้องการเล่นงานเครือข่ายของตนทั้งหมด ตนห่วงอย่างเดียวคือห่วงความปลอดภัยของหัวหน้าการ์ดตน เพราะวันนี้เขาได้เสียสละแทนตนทั้งที่เขาไม่รู้เรื่อง ชีวิตตนไม่เคยมีบ้านเป็นหลัง นอกสถานีมาตลอด และออกจากเมืองไทยมา 3 ปีแล้ว อาวุธถ้ามีมากขนาดนั้นผมถล่มพวกเขาไปนานแล้ว ตนไม่เอาไว้หรอก นอกจากนี้ ตนจะสะสมอาวุธไว้ทำไมในเมืองไทย ที่ใจกลางเมืองขนาดนั้น จัดฉากไม่เนียนในการพยายามที่จะให้ตนเป็นคนก่อการร้าย

สรุปค้น 9 จุดเครือข่าย 'โกตี๋' ภาคกลาง-อีสาน รวบ 8 ผู้ต้องสงสัย


          สรุปปฏิบัติการ ตร.- ทหาร สนธิกำลังลุยคุ้น 9 จุด ในภาคกลาง และ อีสาน เครือข่าย 'โกตี๋' ผู้ต้องสงสัยคดีครอบครองอาวุธ-อั้งยี่ซ่องโจร-เตรียมการสร้างสถานการณ์ ด้านโฆษกรัฐบาลปัดจัดฉากพบอาวุธสงครามบ้านเครือข่ายโกตี๋
 
 
           เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2560 ASTV ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป. หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมาย คสช. และกำลังทหารร่วมปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 9 จุด หลังสืบทราบว่า เป้าหมายทั้ง 9 จุดนั้น มีการซุกซ่อนอาวุธปืนและอาวุธสงครามจำนวนมาก
       
         โดยเป้าที่ 1 จับกุม นายธีรชัย อุตรวิเชียร (ระพิน) ได้เมื่อวันที่ 18 มีนาคม เวลา 06.00 น. หลัง ทหาร และ ตร. เข้าตรวจค้นบ้านพักของ นายธีรชัย อุตรวิเชียร (ระพิน) บ้านเลขที่ 1/16 หมู่ 6 ถ.ลำลูกกา 11 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี แนวร่วมหัวรุนแรงกลุ่มของ นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ (โกตี๋) เนื่องจากเป็นผู้ต้องสงสัยคดีครอบครองอาวุธสงคราม อั้งยี่ซ่องโจร และเตรียมการก่อเหตุสร้างสถานการณ์
       
         ทั้งนี้จากการตรวจค้นบ้านพักของ นายธีรชัย พบสิ่งของผิดกฎหมาย ได้แก่ 
  • 1. M16 จำนวน 4 กระบอก 
  • 2. เครื่องยิงลูกระเบิด M79 จำนวน 1 กระบอก 
  • 3. ปืนคาร์บิน จำนวน 1 กระบอก 
  • 4. ปืนลูกซองยาว จำนวน 1 กระบอก 
  • 5. กระสุนลูกซอง จำนวน 160 นัด 
  • 6. ลูกกระสุนปืนขนาด 5.56 มม.จำนวน 4,566 นัด 
  • 7. ลูกกระสุนปืนขนาด 7.62 มม. ซ้อมรบ จำนวน 8 นัด 
  • 8. ลูกกระสุนปืนขนาด .22 นิ้ว จำนวน 220 นัด 
  • 9. ลูกกระสุนปืนขนาด 7.62 มม. จำนวน 235 นัด 
  • 10. ลูกกระสุนปืนขนาด .45 นิ้ว (11 มม.) จำนวน 189 นัด 
  • 11. ลูกกระสุนปืนขนาด .38 นิ้ว จำนวน 78 นัด 
  • 12. ลูกกระสุนปืนขนาด .38 นิ้ว ซุปเปอร์ จำนวน 33 นัด 
  • 13. ลูกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 38 นัด 
  • 14. ปลอกลดเสียง เอ็ม 16 จำนวน 3 อัน 
  • 15. ซองกระสุนปืน จำนวน 7 ซอง 
  • 16. กล้องสไนเปอร์ จำนวน 1 อัน 
  • 17. ขาทรายปืน จำนวน 1 อัน 
  • 18. ลูกระเบิด M79 จำนวน 8 นัด (LOT 1-12) 
  • 19. ลูกระเบิดขว้าง SFG75 จำนวน 1 ลูก 
  • 20. ลูกระเบิดขว้าง RGD5 จำนวน 10 ลูก และ เรือนชนวน จำนวน 16 อัน 
  • 21. ซองปืนพกขนาด 11 มม. จำนวน 1 ซอง 
  • 22. มีดดาบ จำนวน 12 เล่ม 
  • 23. เครื่องช็อตไฟฟ้า จำนวน 1 เครื่อง 
  • 24. วิทยุสื่อสาร ว.ดำ จำนวน 7 เครื่อง 
  • 25. วิทยุสื่อสาร ว.เเดง จำนวน 1 เครื่อง 
  • 26. พลั่วสนาม จำนวน 1 อัน 
  • 27. ป้ายทะเบียน จำนวน 2 ป้าย หมายเลขทะเบียน ภศ 8064 กรุงเทพฯ และ กธ 5011 ลพบุรี 
  • 28. เสื้อเกราะกันกระสุน จำนวน 1 ตัว 
  • 29. ยาบ้า จำนวนหนึ่ง
       
           เป้าที่ 2 จับกุม นายประเทือง อ่อนละมูล ได้เมื่อเวลา 06.00 น. จนท.ทหาร เข้าตรวจค้นบ้านพักของ นายประเทือง อ่อนละมูล เลขที่ 18/2 หมู่ 8 ต.ยางช้าย อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการเตรียมการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ พบสิ่งของต้องสงสัย ที่ตรวจยึดไว้ ประกอบด้วย 1. เอกสาร รร.นปช. เมื่อ 9 ต.ค.52 2. วิทยุสื่อสารแบบพกพา (ICOM) จำนวน 2 เครื่อง 3. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง 4. เมมโมรี่การ์ด จำนวน 2 อัน
       
          เป้าที่ 3 จับกุม นางปาลิดา เรืองสุวรรณ ได้เมื่อเวลา 07.00 น. จนท.ทหาร เข้าตรวจค้นบ้านพักของ นางปาลิดา เรืองสุวรรณ เลขที่ 106/19 หมู่บ้านชวนชื่นบรู๊คไซด์ ซอยชวนชื่น 10 ต.บางคูวัด จ.ปทุมธานี ผู้ต้องสงสัยเตรียมก่อเหตุสร้างสถานการณ์ พบเอกสารต้องสงสัย ดังนี้ 1. เอกสารลายมือเกี่ยวกับการจัดตั้งกองกำลัง และ ใบบันทึกรายการอาวุธของกลุ่ม 2. ซีดีเพลงที่อาจจะเข้าข่ายหมิ่นสถาบัน 3. เอกสารเนื้อหาคำแถลงการณ์เกี่ยวกับ นักรบประชาธิปไตย 4. บัตรประจำตัว นปช. 5. บัตรกลุ่ม นปช.มหาสารคาม 6. รูปถ่ายร่วมกับกลุ่ม นปช. 7. เอกสารอื่นๆ จำนวนมาก
       
         เป้าที่ 4 จับกุม จ.ส.อ.ธนโชติ วงศ์จันทร์ชมภู เมื่อเวลา 05.30 น. จนท.ทหาร เข้าตรวจค้นบ้านพักของ จ.ส.อ.ธนโชติ วงศ์จันทร์ชมภู เลขที่ 8 หมู่ 6 บ้านสามขา ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการเตรียมการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง
       
         เป้าที่ 5 จับกุม นายสุริยศักดิ์ ฉัตรพิทักษ์กุล ได้เมื่อ เวลา 06.30 น. จนท.ทหาร / ตร. ได้นำหมายจับที่ 10/2560 แสดงต่อ นายสุริยศักดิ์ ฉัตรพิทักษ์กุล ชาวสุรินทร์ อายุ 49 ปี ที่อยู่ตาม ทร.14 เลขที่ 273,275 ถ.เทศบาล 3 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ในฐานความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ ที่บ้านเลขที่ 21/1 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์
       
        ทั้งนี้ จากการตรวจค้นภายในบ้าน ปรากฏสิ่งของดังนี้ 
  • 1. แผ่นซีดีกิจกรรมเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง 
  • 2. แผ่นตราสัญลักษณ์ นปช.จังหวัดสุรินทร์ 
  • 3. อาวุธปืนลูกโม่ .38 ขนาดลำกล้อง 4 นิ้ว 1 กระบอก ไม่มีลูกกระสุน 
  • 4. โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง รุ่น DUOS จำนวน 1 เครื่อง 
  • 5. สมุดธนาคารกรุงเทพ จำนวน 1 เล่ม 
  • 6. กระเป๋าสตางค์ พร้อมบัตร ปชช. และใบขับขี่ 

      โดย จนท. ได้เชิญตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม และนำวัตถุพยานส่งตรวจสอบต่อไป
       
เป้าที่ 6 จับกุม นายบุญส่ง คชประดิษฐ์ ได้ จนท. เข้าตรวจค้นบ้าน นายบุญส่ง คชประดิษฐ์ ที่ จ.นครราชสีมา พบ 1. อาวุธปืนยาว จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 2. อาวุธปืนพกสั้น จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 3. ชิ้นส่วน และส่วนควบอาวุธปืนจำนวนหลายรายการ อาทิ พลุส่องสว่าง และ กล้องสไนเปอร์ 4. เอกสารและซีดีกิจกรรม กลุ่ม นปช. ในบ้านพักจำนวนหนึ่ง ปัจจุบันกำลังตรวจสอบพื้นที่รอบบ้านโดยละเอียด และจะใช้เครื่องตรวจโลหะเพื่อคันหาอาวุธที่อาจซุกซ่อนฝังดินในฟาร์มของนายบุญส่งต่อไป
       
        เป้าที่ 7 จับกุม นายวันไชยชนะ ครุฑไชยันต์ เมื่อเวลา 06.00 น. จนท.ทหาร และ ตร. เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 119/116 (หมู่บ้านสวัสดิการศูนย์การทหารราบ) หมู่ 9 ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นที่พักของ นายวันไชยชนะ ครุฑไชยันต์ อายุ 56 ปี เครือข่ายบุคคลเป็นภัยต่อความมั่นคง ภายในบ้านพบ นายวันไชยชนะ พักอาศัยอยู่กับ นางษุศรา สง่าเพ็ชร (ภรรยา) และ มารดา (มารดานางษุศรา) ผลการตรวจค้นพบ 
  • 1. สิ่งเทียมอาวุธปืน (บีบีกัน) จำนวน 8 กระบอก 
  • 2. แม็กกาซีน (บีบีกัน) จำนวน 25 ซอง 
  • 3. อาวุธปืนลูกซอง ขนาด เบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก 
  • 4. ปืนพกสั้น ยี่ห้อกล็อก ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก 
  • 5. ซองปืนพกสั้น จำนวน 3 ซอง 
  • 6. เครื่องกระสุนปืน ขนาด เบอร์ 12 จำนวน 29 นัด 
  • 7. เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 26 นัด 
  • 8. เครื่องกระสุนปืน ขนาด .22 มม. 50 นัด 
  • 9. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน 4S จำนวน 1 เครื่อง 
  • 10. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง จำนวน 1 เครื่อง 
  • 11. แท็บเล็ต ยี่ห้อซัมซุง จำนวน 1 เครื่อง 
  • 12. โน้ตบุ๊ค ยี่ห้อ HP จำนวน 1 เครื่อง 
  • 13. เครื่องคอมพิวเตอร์ (PC) จำนวน 4 เครื่อง 
  • 14. แอร์การ์ด จำนวน 1 อัน 
  • 15. เมมโมรีการ์ด จำนวน 1 อัน 
  • 16. ฮาร์ดดิสก์บันทึกกล้องวงจรปิด 3 เครื่อง 
  • 17. พลุควัน (ไปร์ทบอม) 5 อัน จนท. 

      จึงได้ทำการตรวจยึด และควบคุมตัวนายวันไชยชนะ เพื่อสอบสวนขยายผลต่อไป
       
         เป้าที่ 8 จับกุม นายอุดมชัย นพสวัสดิ์ (แสนรัก) ได้ เมื่อเวลา 07.00 น. จนท.ทหาร และ ตร. ได้ร่วมกันตรวจค้นที่พัก และยานพาหนะ หมายเลขทะเบียน ชฐ 3822 กรุงเทพฯ ซึ่ง นายอุดมชัย อ้างว่า ซื้อต่อมาจาก นายธีรชัย อุตรวิเชียร (ระพิน) ในราคา 30,000 บาท ซึ่งจอดอยู่หน้าที่พักในซอยรังสิต-นครนายก 33 ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถทะเบียนปลอม และพบยาบ้า 1 ถุง ซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะด้านหลังคนขับ และจะตรวจค้น จยย. อีก 2 คันที่เหลือต่อไป
       
      ขณะที่เป้าหมายที่ 9 นั้น ไปค้นแถวบางพลี จ.สมุทรปราการ 
 
โฆษกรัฐบาลปัดจัดฉากพบอาวุธสงครามบ้านเครือข่ายโกตี๋
 
         19 มี.ค. 2560 สำนักข่าวไทย รายงานว่าพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงบุกเข้าตรวจค้นบ้านพักของเครือข่ายนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำกลุ่มการเมืองฮาร์ดคอร์ จ.ปทุมธานี และพบระเบิด อาวุธสงคราม เครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก รวมทั้งเอกสารสำคัญ เช่น สมุดบัญชีธนาคาร พาสปอร์ต ว่า ของกลางทั้งหมดเป็นสิ่งที่สะท้อนว่า มีการครอบครองสิ่งผิดกฎหมายซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการนำไปใช้ในทางที่ผิด และเป็นอันตรายต่อสังคม โดยเจ้าหน้าที่จะต้องรวบรวมไว้เป็นหลักฐานและสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อนำไปสู่การดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ การครอบครองอาวุธสงคราม ระเบิด และเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวถือเป็นภัยด้านความมั่นคงของประเทศ  รัฐบาลจึงต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดเช่นเดียวกับคดีอื่น ๆ ที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน
 
         โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ปฏิบัติการอย่างตรงไปตรงมาและหาตัวผู้ครอบครองมาดำเนินคดีตามกฎหมาย  ไม่อยากจะเชื่อมโยงหรือกล่าวถึงเหตุการณ์ความรุนแรงในอดีต ซึ่งเป็นความทรงจำที่เจ็บปวดของคนไทย ประเทศไทยต้องเดินหน้าต่อไปด้วยกฎหมาย ผู้กระทำผิดทุกคนจะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
 
       ส่วนความเห็นที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าหน้าที่อาจมีการจัดฉากใส่ร้ายนายโกตี๋ เนื่องจากอาวุธสงครามและกระสุนปืนมีลักษณะค่อนข้างใหม่ และเจ้าของบ้านไม่ได้อาศัยอยู่นานแล้วนั้น พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนและเก็บข้อมูลมาระยะหนึ่ง และขณะเข้าปฏิบัติการก็มีสื่อมวลชนร่วมเป็นพยานจำนวนมาก รวมทั้งผู้ที่ครอบครองอาวุธเหล่านี้ได้เก็บทุกอย่างไว้ในกล่องที่ปิดผนึกและซุกซ่อนไว้ในที่ลับเฉพาะ ทำให้ของกลางทั้งหมดดูใหม่ จึงไม่ใช่การจัดฉากแต่อย่างใด