วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

สมชัย วิจารณ์ พ.ร.ป. ส.ส. ฉบับมีชัย ล้าหลัง ประชาชนสับสน พรรคการเมืองหาเสียงยาก





สมชัย ศรีสุทธิยากร เผยกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ฉบับมีชัย เป็นกฎหมายที่ล้าหลัง ชี้จะทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกิดความสับสน พรรคการเมืองหาเสียงยาก เสี่ยงเกิดบัตรปลอม และทำให้การรวมคะแนนล่าช้า วุ่นวาย





2 พ.ย. 2560 สำนักข่าวไทย รายงานว่า สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ว่า การกำหนดเรื่องหมายเลขผู้สมัครของพรรคการเมืองจะแตกต่างกันไป ในแต่ละเขตเลือกตั้ง จะทำให้เกิดความสับสนอลหม่าน เพราะข้ามเขตเบอร์พรรคก็เปลี่ยนไป ทำให้ผู้มีสิทธิต้องจดจำหน้าผู้สมัครแทน หัวหน้าพรรคการเมืองเวลาหาเสียงทางทีวี คงบอกได้แค่ชื่อพรรค ไม่สามารถบอกว่าให้เลือกเบอร์ใดได้ บัตรเลือกตั้ง หากมีชื่อพรรคอยู่ในบัตร ต้องพิมพ์แตกต่างกัน 350 แบบ การรักษาความปลอดภัยในการจัดพิมพ์บัตรทำได้ยากขึ้น โอกาสปลอมบัตรมีมากขึ้น การนับคะแนนที่หน่วยไม่มีปัญหา แต่การรวมคะแนนพรรคการเมืองทั้งประเทศด้วยเบอร์ที่แตกต่างกันของแต่ละพรรคในแต่ละเขต คงวุ่นวาย ใช้เวลามากขึ้นหลายเท่า และมีโอกาสผิดพลาดในการประกาศผล การติดตามตรวจสอบจากพรรคการเมืองและองค์กรเอกชนสังเกตการณ์เลือกตั้งทำได้ยากยิ่ง


ส่วนการกำหนดให้วิธีการเลือกตั้งต้องใช้บัตรเลือกตั้ง เพราะหากจะใช้วิธีการอื่นได้ กกต.ต้องพิสูจน์ให้ได้ ว่าเป็นวิธีการที่สามารถป้องกันการทุจริตได้ดีกว่า มีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า และเป็นการเลือกโดยตรงและลับ สมชัย กล่าวว่า ขณะนี้เทคโนโลยีการจัดการเลือกตั้งในประเทศต่าง ๆ ก้าวไปไกลเช่นในสหรัฐอเมริกา มีการใช้เครื่องลงคะแนนอีเล็กทรอนิกส์ในทุกหน่วยเลือกตั้ง ประเทศในเอเชีย เช่น อินเดีย เนปาล ภูฏาน มีการใช้เครื่องลงคะแนนอีเล็กทรอนิกส์ทั้งประเทศ ฟิลิปปินส์ มีการใช้เครื่องอ่านบัตร นับและส่งผลคะแนนทางอีเล็กทรอนิกส์ ออสเตรเลีย มีการเปิดให้คน 4 กลุ่ม คือ คนในต่างประเทศ คนในพื้นที่ห่างไกล คนพิการ และบุคคลที่มีเหตุจำเป็นสุดวิสัยสามารถใช้สิทธิ์ทางอินเตอร์เน็ตได้


"กรรมการการเลือกตั้งไทย ได้พัฒนาระบบการใช้เครื่องลงคะแนนอีเล็กทรอนิกส์ และเตรียมนำร่องให้คนไทยในต่างประเทศบางประเทศสามารถใช้สิทธิ์ทางอินเตอร์เน็ตได้ หลังจากที่ร่าง พ.ร.ป.ส.ส. ออกมาคงต้องถอยหลังไปใช้บัตรเลือกตั้งต่อไปอีกนาน เพราะ กกต.คงไม่เสี่ยงไปอยากพิสูจน์อะไร ทำแบบเดิมต่อไป ไม่ผิดดีกว่า" สมชัย กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น