วันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2560

“ไม่ควรแม้แต่จะคิดว่ามีคนอย่างนี้อยู่” วิษณุ ตอกนักข่าวหลังถาม กรณีสอบคุณสมบัติ 9 รมต.


“ไม่ควรแม้แต่จะคิดว่ามีคนอย่างนี้อยู่”  รองนายกรัฐมนตรีตอกกลับนักข่าว หลังถูกถามว่ากรณีที่ กกต. ยกเรื่องตรวจสอบคุณสมบัติ 9 รมต. จะส่งผลต่อการตัดสินใจเรื่องเซ็ตซีโร่ กกต. หรือไม่ เผยเรื่องเซ็ตซีโร่ได้ให้ความเห็นไปหลายครั้งแล้ว

7 มิ.ย. 2560 มติชนออนไลน์ รายงานว่า  ที่ทำเนียบรัฐบาล วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ยังมีข้อขัดแย้งเรื่องการเซตซีโร่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รวมถึงองค์กรอิสระอื่นๆ โดยอ้างเหตุผลเรื่องปลาสองน้ำว่า รับทราบเสียงวิจารณ์แต่ไม่ขอตอบอะไร เพราะถ้าพูดออกไปก็จะกลายเป็นการปะทะคารม ทั้งนี้ ไม่ตั้งใจจะไปโต้เถียง โต้แย้งใดๆ กับใคร เพียงแต่ก่อนหน้านี้ได้เล่าให้ฟังถึงเหตุผลของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วย กกต. ส่วนคำว่าปลาสองน้ำนั้นก็มาจากคำถามของผู้สื่อข่าวที่ตั้งคำถามขึ้นมา ไม่ได้อุปมาขึ้นมาแต่อย่างใด แต่ถ้าคำนี้จะทำให้เกิดความเข้าใจได้ก็ไม่เป็นอะไร ทั้งนี้ ไม่ขอตอบอะไรในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกกังวลหรือไม่ว่าเมื่อ กกต.ระบุว่าจะหยิบยกเรื่องการตรวจสอบคุณสมบัติของ 9 รัฐมนตรีให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ถือเป็นเงื่อนไขต่อประเด็นเซตซีโร่ กกต.หรือไม่ วิษณุกล่าวว่า เรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรี 9 คนนั้น ได้มีผู้นำไปร้องเรียนต่อ กกต.มาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว ซึ่ง กกต.ก็ต้องดำเนินการตรวจสอบ และคิดว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องเดียวกัน เพราะ กกต.เขาก็ต้องทำตามหน้าที่
เมื่อถามว่า คิดว่าเหตุใดจึงเพิ่งจะหยิบขึ้นมาพิจารณาในช่วงนี้ วิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ตอบ ไม่พูด และไม่คิดว่าเป็นการตั้งเงื่อนไขเพื่อต่อรองอะไร รู้สึกเฉยๆ เพราะคิดว่าเป็นการทำหน้าที่ตามปกติ เมื่อมีคนไปร้องเรียน กกต.ก็ต้องตรวจสอบ ตนยังนึกว่าเขาตั้งกรรมการตรวจสอบเสร็จไปตั้งนานแล้วเพียงแต่ยังไม่ได้วินิจฉัยอะไร แต่ปรากฏว่าเขายังไม่ได้ตั้งกรรมการขึ้นมาก็ไม่เป็นไร
เมื่อถามถึงกรณีที่ 9 รัฐมนตรีถูกร้องให้ตรวจสอบเรื่องการถือหุ้นนั้นจะเป็นปัญหาได้หรือไม่ วิษณุกล่าวว่า กรณีของคนอื่นตนไม่สามารถตอบแทนเขาได้ แต่กรณีของตนไม่ได้มีปัญหาเรื่องการถือหุ้น แต่ถูกทักท้วงในเรื่องอื่น ซึ่งผู้ที่ทักท้วงก็ไม่ใช่ กกต. แต่เป็นบุคคลอื่นที่ไปยื่นร้อง แต่กรณีของตนถูกนำไปพูดปะปนกับของคนอื่น
ผู้สื่อข่าวถามว่าการนำเรื่องตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี 9 คนนี้มาเป็นเงื่อนไขกับการไม่เซตซีโร่ กกต.หรือไม่ วิษณุย้อนถามว่า “แล้วคุณมองอย่างนั้นหรือไม่” ผู้สื่อข่าวกล่าวกลับไปว่า ก็สามารถมองได้ วิษณุจึงกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไปเขียนว่าคุณมองอย่างนั้น แต่สำหรับผมไม่ทราบ ไม่สมควรคิด และไม่กล้าคิด ซึ่งทางพระใช้คำว่า อจินไตย ไม่ควรแม้แต่จะคิดว่ามีคนอย่างนี้อยู่”
เมื่อถามว่า กรณีของ กกต.จะมีผลกระทบต่อองค์กรอิสระอื่นๆ ด้วยหรือไม่ วิษณุกล่าวว่า ก็เอาไว้ให้ไปถึงกฎหมายองค์กรอิสระอื่นๆ ก่อนแล้วค่อยมาพูดกัน หรือมาถามตนอีกครั้ง แต่ตอนนี้ยังไม่ถึง เมื่อถามย้ำว่า จะเป็นบรรทัดฐานต่อองค์กรอิสระอื่นหรือไม่ วิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่สิ่งที่ตนเคยตอบแล้วก็ชัดเจน ถ้าใครยังไม่เข้าใจก็ไม่เป็นอะไร อีกไม่กี่วัน ในวันที่ 9 มิ.ย. นี้ สนช. ก็จะลงมติอยู่แล้ว
“ผมเคยตอบไปมากแล้วว่า ไม่ใช่เรื่องคุณสมบัติ เราพูดกันถึงเรื่องโครงสร้าง ดังนั้น คำว่าโครงสร้างแปลว่าอะไร ถ้าปัญหาเรื่องโครงสร้างเกิดขึ้นกับองค์กรอื่น ก็ต้องอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน ส่วนคุณสมบัติเป็นอีกเรื่องหนึ่ง โครงสร้างก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ช่วยไปศึกษาหน่อยนะครับ หรือไปถาม กรธ. ก็ได้เพราะเห็นไปนั่งสัมภาษณ์กันอยู่ทุกวัน ไปถาม กรธ.ดูว่า โครงสร้างของ กกต.ต่างกับโครงสร้างองค์กรอิสระอื่นๆ อย่างไรตามรัฐธรรมนูญ ถ้าเหมือนกันก็ต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน จะมาตรฐานซ้าย มาตรฐานขวา หรือมาตรฐานเซตซีโร่หรือมาตรฐานอื่นก็ต้องเป็นมาตรฐานเดียวกันถ้าอยู่ในโครงสร้างเดียวกัน” วิษณุกล่าว
เมื่อถามว่า กรธ.เคยระบุความเห็นแนบส่งให้ กมธ.ฯว่าไม่จำเป็นต้องเซตซีโร่ กกต. วิษณุกล่าวว่า วันนี้ (7 มิ.ย.) ก็รอฟังเขาแถลง เห็นว่าจะมีคนไปสัมภาษณ์เขา เมื่อถามว่า กกต.ระบุทำนองว่ามาเล่นแง่กับ กกต.เพียงองค์กรเดียว ทำไมไม่ทำกับองค์กรอิสระอื่นด้วย เช่น ป.ป.ช. วิษณุ กล่าวว่า เรื่องขององค์กรอื่นยังมาไม่ถึง ในเมื่อเรื่องของ กกต.มาถึงก่อนก็ต้องพูดถึงก่อน เช่นเดียวกับถ้าคุณไปจอดรถในที่ห้ามจอด แล้วตำรวจมาจับ คุณก็ถามตำรวจว่ามาจับผมทำไมทั้งที่มีรถอีกหลายคันที่จอดเหมือนกัน ตำรวจก็บอกว่ามาเจอรถของคุณก่อนเลยจับก่อน เดี๋ยวไปเจอรถคันอื่นก็ค่อยว่ากัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงว่าจะกลายเป็นมีเรื่อง มีปัญหามารุมเร้ารัฐบาลจนกระทบต่อการทำงานหรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่า แล้วจะให้ตนตอบว่ากลัวหรือไม่กลัว ตนไม่ตอบ
ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 9 มิ.ย. 2560 นี้ จะมีการนำผลการศึกษาและมติของคณะกรรมธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยกกต. เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม สนช. โดยในประเด็นเรื่องการเซ็ตซีโร่ กกต. นั้นมีสมาชิก สนช. ขอแปรญัตติถึง 10 คน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น