วันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เลื่อนไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล 7 นศ. อาจารย์ มข.ใช้ตำแหน่งประกัน “จ่านิว”


ทนายร้องขอถามค้านพยานโจทก์ ต่อศาล เนื่องจากเป็นการไต่สวนโดยที่จำเลยไม่ได้ร่วมรับฟัง ศาลอนุญาตพร้อมให้นัดไต่สวนพยานผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหาในวันเดียวกัน ด้านจ่านิว หลังรับทราบข้อกล่าวหา ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาและพร้อมต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม
31 พฤษภาคม 2560 เวลา 10.00 น.นักศึกษานักกิจกรรมทั้ง 7 ราย ผู้ถูกกล่าวหาในคดีละเมิดอำนาจศาล เดินทางไปที่ศาลจังหวัดขอนแก่น ตามที่ศาลนัดหมายซึ่งรวมถึง สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือที่เป็นที่รู้จักในนาม ‘จ่านิว’ อดีตนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ และนักกิจกรรมกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ก็ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้  เนื่องจากกำหนดนัดครั้งที่ผ่านมา สิรวิชญ์ ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาคดีเนื่องจากตนยังไม่ได้รับหมายจากศาล
จากนั้น ศาลได้ให้สิรวิชญ์ดูภาพถ่ายที่ถูกใช้เป็นหลักฐานเอาผิดจำนวน 3 ภาพ  สิรวิชญ์ได้ยอมรับว่า ภาพถ่ายจำนวน 2 ภาพ คือภาพตนเอง ส่วนอีก 1 ภาพ ไม่ยืนยันว่าเป็นตนหรือไม่เพราะใส่หน้ากาก อย่างไรก็ตาม แต่ศาลได้พิจารณาจากภาพทั้งสาม และตัวสิรวิชญ์ที่ปรากฏตัวต่อหน้าศาลแล้ว เชื่อว่าภาพบุคคลที่ใส่หน้ากากดังกล่าวเป็นสิรวิชญ์จริง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 10.00 น. มีกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งมากล่าวปราศรัย ร้องเพลง แสดงท่าทาง และนำอุปกรณ์มาเป็นสัญลักษณ์แสดงความไม่พอใจการพิจารณาคดีของศาล บริเวณหน้าที่ทำการของศาล ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาล แต่สิรวิชญ์ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา และยื่นคำร้องคัดค้านข้อกล่าวหา
ทนายจำเลยได้แถลงต่อศาลว่า ต้องการที่จะถามค้านพยานผู้กล่าวหาทั้ง 3 ปาก ที่ศาลได้ไต่สวนไปโดยที่ไม่มีผู้ถูกกล่าวหาร่วมรับฟังด้วย ศาลจึงให้เลื่อนไปไต่สวนพยานทั้ง 3 ปาก ไปเป็นวันที่ 29 มิถุนายน 2560 เวลา 09.00 น. เนื่องจากบุคคลทั้งสามไม่อยู่ในห้องพิจารณาในวันนี้  Z31 พฤษภาคม 2560)  โดยในนัดหน้าจะให้ไต่สวนพยานจำเลยรวม 10 ปาก ไปในครั้งเดียวกันเลย

จากนั้น สิรวิชญ์ได้ร้องขอประกันตัว โดยให้เหตุผลว่าได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาไม่มีเจตนาที่จะหลบหนี  ศาลได้อนุญาตให้ประกันโดยใช้ตำแหน่ง ดร.เอกศักดิ์ ยุกตะนันทน์ อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.ขอนแก่น เป็นผู้ประกันในวงเงิน 50,000 บาท เช่นเดียวกับผู้ถูกกล่าวหาคนอื่นที่ยื่นประกันตัวไปในนัดที่แล้ว เมื่อ 24 เมษายน 2560

หลังสิ้นสุดการพิจารณา ภานุพงศ์ นักกิจกรรมกลุ่มดาวดิน 1 ใน 7 ผู้ต้องหากล่าวว่า ไม่ได้มีเจตนาที่จะดูหมิ่นหรือขัดขวางการทำงานของศาล สิ่งที่เราต้องการจะสื่อคือ หลังจากรัฐประหาร กระบวนการยุติธรรม มีการแทรกแซงจากทหารอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นการนำพลเมืองขึ้นศาลทหาร หรือการใช้ ม.44 ในกระบวนการทางกฎหมายต่าง ๆ อีกทั้ง “ไผ่ ดาวดิน” ก็ได้ร่วมเคลื่อนไหวในปัญหาชุมชนและปัญหาทางโครงสร้างทางการเมือง และหลังการรัฐประหาร 2557 ได้ถูกดำเนินคดีที่ทหารมีส่วนเกี่ยวข้องหลายคดี พวกเราอยากสะท้อนให้เห็นปัญหานี้ รวมถึงอยากสะท้อนให้เห็นว่า ไผ่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรมขั้นตอนอื่น ๆ ด้วย
สิริวิชญ์หรือนิวได้ ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่า วันนั้นผมไปรับฟังการพิจารณาคดีของไผ่จรอง เมื่อเห็นนักศึกษาทำกิจกรรม ผมก็เข้าไปยืนดู เมื่อทางผู้จัดกิจกรรมกล่าวเชิญชวนให้ผู้ชมวางดอกไม้ให้กำลังใจ ไผ่ ผมก็เดินเข้าไปวางด้วย ในส่วนของภาพที่เป็นหลักฐานที่จะเอาผิดผมๆ จำไม่ได้ว่าเป็นเหตุการณ์ตอนไหน แต่เข้าใจว่าน่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดคนละช่วงเวลากับที่ศาลได้แจ้งข้อหาเอาผิดต่อกลุ่มนักศึกษาที่จัดกิจกรรมในเวลาดังกล่าวแน่ๆ

คดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการรณรงค์ของเครือข่ายนักศึกษา 4 ภาค บริเวณฟุตบาทหน้าศาลจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 จากกรณีที่ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” ถูกอัยการจังหวัดขอนแก่นยื่นฟ้อง ในข้อหา ม.112 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ จากการแชร์รายงานข่าวประวัติ ร.10 ของสำนักข่าวบีบีซีไทย และได้ถูกถอนประกันด้วยเหตุผลที่ยังมีข้อกังขาว่าเป็นไปตามกรอบกฎหมายหรือไม่ และจากการรณรงค์ดังกล่าวได้มีนักกิจกรรมนักศึกษาถูกตั้งข้อหาละเมิดศาล 7 คน ได้แก่ อภิวัฒน์ สุนทรารักษ์ นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง, พายุ บุญโสภณ, อาคม ศรีบุตตะ, จุฑามาส ศรีหัตถผดุงกิจ, ภานุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์ นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (กลุ่มดาวดิน) และณรงค์ฤทธิ์ อุปจันทร์ นักศึกษาคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ (กลุ่มพลเมืองคนรุ่นใหม่) และสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ ‘นิว’ อดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนักกิจกรรมกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ (NDM)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น