วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2559

2 จำเลยคดีแจกเอกสารประชามติที่ภูเขียวขึ้นศาล ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา-ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม


2 จำเลยประชามติภูเขียวให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยันการรณรงค์โหวตโน ไม่ใช่เรื่องผิด พร้อมยื่นหนังสือถึงอัยการจังหวัดขอความเป็นธรรมในคดีดังกล่าว
29 ก.ย. 2559 เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ได้นัดสอบคำให้การของ ไผ่ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา และ วศิน พรหมมณี สองจำเลยคดี พ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 61(1) ฐานแจกเอกสารรณรงค์โหวตไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ
โดยจุตภัทร์ และวศิน ได้รับทราบข้อกล่าวพร้อมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยจำเลยทั้งสองกล่าวว่า ขอเรียนต่อศาลว่า รัฐธรรมนูญมีสถานะเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ซึ่งจะเข้ามาวางกรอบการใช้อำนาจขององค์กรของรัฐ และรับรองสิทธิ และเสรีภาพของประชาชน กฎหมายดังกล่าวจึงถือว่ามีความสำคัญโดยตรงต่อชีวิตทางสังคม การเมืองของจำเลยกับพวก การบัญญัติหรือการออกเสียงประชามติของประชาชนชาวไทยในการรับรองหรือคัดค้าน จึงต้องอาศัยการมีส่วนร่วมทางการเมืองและการแสดงความคิดเห็นของประชาชนอย่างเปิดกว้าง รวมทั้งเปิดกว้างในการใช้เสรีภาพในการแสดงความเห็นเพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวมีความชอบธรรมทางประชาธิปไตยและเป็นที่ยอมรับอย่างแท้จริงจากผู้คนในสังคมอย่างแท้จริง ซึ่งตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 มาตรา 7 ก็ได้รับรองเสรีภาพของบุคคลในการแสดงความคิดเห็นและเผยแพร่ความคิดเห็นเกี่ยวการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญโดยสุจริตและไม่ขัดต่อกฎหมายไว้ด้วย
จำเลยทั้งสองเรียนว่า ในระหว่างการใช้เสรีภาพในการให้ความรู้เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญแก่ประชาชนในวันที่ 6 ส.ค. 2559 ณ อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ไม่ปรากฏเหตุการณ์ว่าจำเลยทั้งสองได้แสดงออกทางกิริยาหรือวาจาในการปลุกปั่นให้ประชาชนกระทำใดๆ อันจะนำไปสู่การก่อความวุ่นวายเพื่อให้การออกเสียงประชามติไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมทั้งข้อความที่ปรากฏในเอกสารที่เจ้าพนักงานตรวจยึดนั้น ล้วนแต่เป็นข้อมูลทางวิชาการที่ตั้งอยู่ฐานของข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายซึ่งสามารถพิสูจน์ความจริงได้ ไม่ได้มีลักษณะบิดเบือน หรือเป็นข้อมูลที่ลักษณะรุนแรง ก้าวราว หยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่ให้ประชาชนไม่ไปใช้สิทธิออกเสียง หรือออกเสียงในทางหนึ่งทางใด การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นการใช้เสรีภาพที่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นความผิดตามกฎหมายแต่อย่างใด
คดีดังกล่าว จตุภัทร์ และวศิน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบจับกุมเมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2559 เวลา 16.30 น. หลังจากเดินแจกเอกสารรณรงค์โหวตโนของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ในตลาดภูเขียวได้เพียง 300 เมตร
ทั้งนี้ วศินได้ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว เนื่องมีความจำเป็นในด้านการศึกษา หลังศาลภูเขียวอนุญาตให้ฝากขังตามคำร้องขอฝากขังของพนักงานสอบสวน ส่วน จตุภัทร์ ยืนยันในสิ่งที่ทำว่าไม่ได้เป็นการกระทำความผิด โดยยอมถูกฝากขังเป็นเวลา 12 วัน พร้อมทั้งอดอาหารเพื่อยืนยันหลักการต่อสู้อย่างสันติวิธี ก่อนจะประกันตัวออกมาหลังจากอัยการส่งฟ้อง และศาลรับฟ้อง ประกอบกับความจำเป็นเรื่องการลงทะเบียนเรียน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีแรกในกลุ่มผู้ถูกจับกุมโดย พ.ร.บ.ประชามติ ที่ศาลรับฟ้อง
ต่อมาในเวลา 11.00 น. จำเลยทั้งสอง พร้อมทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้เดินไปยังอัยการจังหวัดภูเขียว เพื่อไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมให้ถอนฟ้องคดี 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น