วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ปธ.กกต. ยันเพลงไม่เหยียดคนภาคใด วอนอย่านำประเด็นเล็กน้อยมาจับผิดประชามติ


9 มิ.ย.2559 กรณีที่มีการเผยแพร่มิวสิควีดีโอเพลง “7 สิงหาประชามติร่วมใจ ประชาธิปไตยมั่นคง” ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง จนก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีเนื้อหาเหยียดคนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น  
โดยเนื้อเพลงบางท่อนระบุว่า

“พี่น้องอีสานบ้านเฮา อย่าให้ใครเขาชี้ซ้ายชี้ขวา ใช้สติพิจารณา เนื้อหาถ้อยความหลักการสำคัญ ออกไปใช้เสียงใช้สิทธิ์ ร่วมรับผิดชอบบ้านเมืองนำกัน ให้ฮู้เขาฮู้เฮาเท่าทัน เฮาคนอีสานอย่าให้ไผมาตั๊วได้”
“ปักษ์ใต้คนใต้แหลงใต้ รักประชาธิปไตยรักความเสรี ไปลงประชามติ เป็นพลเมืองดีหน้าที่ของชาวไทย ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ ช่วยนำพาชาติให้เจริญก้าวไกล ดอกไม้ประชาธิปไตย หกสิบห้าล้านใจคนไทยบานสะพรั่ง”
“ปี้น้องชาวเหนือหมู่เฮา อย่าหื้อใครเขาชักจูงจี้นำ ต้องหมั่นเฮียนฮู้ติดตาม ศึกษาเนื้อความฮื้อมันกระจ่าง บ้านเมืองจะค้ำจะจุน รัฐธรรมนูญต้องเป็นที่ตั้ง หนึ่งเสียงหนึ่งใจหนึ่งพลัง ฮ่วมกันสรรค์สร้างบ้านเฮาเมืองเฮา”

วันนี้ (9 มิ.ย.59) สำนักข่าวไทย รายงานว่า ศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ผู้ประพันธ์เพลงได้เก็บข้อมูลจาก กกต.  โดยอ้างอิงมาจากคำขวัญที่อยู่ในหน้าสุดท้ายของบุ๊คเล็ต ระบุว่า เตรียมตัวให้พร้อม ไม่ยอมให้ใคร ชี้นำ ตัดสินใจอย่างอิสระ เพื่อประชามติเที่ยงธรรม  จึงนำไปแต่งเป็นเพลง
“ขอย้ำว่าเนื้อเพลงดังกล่าวไม่มีการชี้นำหรือเหยียดคนภาคใดภาคหนึ่ง ตามที่มีการกล่าวหา ขอร้องอย่านำประเด็นเล็กประเด็นน้อยมาจับผิดกระบวนการการทำประชามติ  เพราะเป้าหมายเราต้องการให้ประชาชนออกใช้สิทธิโดยไม่มีการชี้นำ ทุกคนมีเสรีภาพ ออกมาแสดงความคิดเห็นได้ภายใต้กรอบกฎหมาย” ศุภชัย กล่าว
 
ประธาน กกต. กล่าวถึงความคืบหน้าการทำประชามติวันที่ 7  สิงหาคมด้วยว่า  กกต.จะทำหน้าที่คุมนโยบายให้การออกเสียงประชามติเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า หากเรารักประเทศชาติจริง ๆ อย่าทำให้เป็นปัญหา ไม่ใช่เรื่องสำคัญอย่านำมาเป็นประเด็น ต้องทำให้บ้านเมืองสงบ  เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
 
ต่อกรณีคำร้องที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)  ส่งมาให้ กกต.พิจารณากรณีการบิดเบือนว่าหากร่างรัฐธรรมนูญผ่านจะยกเลิกโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค จะดำเนินการอย่างไร  ศุภชัย กล่าวว่า ถ้าส่งเรื่องมาก็จะให้สำนักกฎหมายสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยตรวจสอบ ถ้าข้อกล่าวหามีมูล กกต.จะส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีต่อไป  เบื้องต้นยังไม่เห็นรายละเอียด  ยังวินิจฉัยไม่ได้  จะถูกหรือผิดอย่างไร ศาลยุติธรรมจะเป็นผู้ชี้ขาด  ขอย้ำว่าการพิจารราจะไม่ล่าช้าเพราะความล่าช้าคือความไม่ยุติธรรม ตามที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งกล่าวไว้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น