วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2559

ผบ.ตร.รับย้ายรองผบช.ภ.2 ผิดคน ระบุตามบัญชีคสช.เอี่ยวผู้มีอิทธิพล แม้ชื่อเดียวกันแต่นามสกุลไม่ตรง


เมื่อวันที 21 มี.ค. ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยจากการตรวจสอบรายชื่อ  พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ที่มีคำสั่งให้มาช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปก.ตร. เกี่ยวข้องกับบัญชีรายชื่อผู้มีอิทธิพลของ คสช. จากการตรวจตรวจสอบประวัติทั้งกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และ 4  ยอมรับว่ามีชื่อ พล.ต.ต.สุรพล จริง แต่นามสกุลไม่ตรงกับรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ที่มีคำสั่งให้มาช่วยราชการ และจากการสอบถามปรากฎว่าข้อมูลอาจมีความคลาดเคลื่อน จึงเตรียมลงนามคำสั่งให้กลับไปปฎิบัติหน้าที่ตามเดิมภายในสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตาม หาก พล.ต.ต.สุรพล เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงก็สามารถฟ้องดำเนินคดีกับตนเองได้ เนื่องจากตนเองเป็นผู้ลงนามในคำสั่งยืนยันพร้อมรับผิดชอบส่วนนายตำรวจ ยศ พล.ต.ท. ที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล ซึ่งตนได้มีการพูดคุยแล้วนั้น ไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งให้ออกนอกพื้นที่ เพราะดำรงตำแหน่งอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่แล้ว
ส่วนการตรวจสอบบัญชีรายชื่อนายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลกว่า 200 นาย พบว่าขณะนี้เหลือเพียงร้อยกว่านาย เพราะบางข้อมูลเป็นข้อมูลเก่า ซึ่งสัปดาห์นี้จะมีการสรุปรายชื่อทั้งหมดส่งให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ต่อไป 

ผบ.ทบ. ย้ำเร่งปราบปราบปัญหาผู้มีอิทธิพล กำชับ จนท.ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวหรือเอื้อประโยชน์
ขณะที่วันเดียวกัน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช.กล่าวว่า วันนี้ (21 มี.ค.) พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ คสช. เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการ คสช. ที่กองบัญชาการกองทัพบก โดยได้กล่าวขอบคุณทุกส่วนงานที่ทุ่มเทปฏิบัติภารกิจตามนโยบายของ คสช. โดยได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งปราบปราบปัญหาผู้มีอิทธิพล บ่อนการพนัน อาวุธสงคราม สินค้าผิดกฎหมาย พร้อมกำชับไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการเอื้อและเรียกรับผลประโยชน์ในทางผิดกฎหมายในทุกเรื่อง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น