วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2559

พี่สาวผู้เสียชีวิตเหตุฆาตกรรมเกาะเต่าเตือนเมืองไทยไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด

พาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์ The Mirror (อ่านข่าว) เมื่อ 11 มกราคมที่ผ่านมา รายงานความเห็นของพี่สาว ฮันนาห์ วิทเธอริดจ์ ที่เขียนหลังเกิดเหตุนักท่องเที่ยวสหราชอาณาจักรมาเสียชีวิตล่าสุดที่เกาะเต่า ทั้งนี้ความเห็นล่าสุดของครอบครัวผู้เสียชีวิตเหตุฆาตกรรมเกาะเต่ากลายเป็นข่าวที่สื่อหลายฉบับในสหราชอาณาจักรนำเสนอในช่วงต้นสัปดาห์นี้

หลังมีนักท่องเที่ยววัย 26 ปี จากอังกฤษเสียชีวิตล่าสุดที่เกาะเต่า ทำให้ 'ลอว์รา วิทเธอริดจ์' พี่สาวของ 'ฮันนาห์' ผู้เสียชีวิตจากเหตุฆาตกรรมเกาะเต่า เขียนสเตตัสเตือนว่าเมืองไทยไม่ได้สวยงามอย่างที่มีคนกล่าวถึง โดยเปิดเผยถึงสิ่งที่ครอบครัวของเธอเผชิญเมื่อต้องมาเมืองไทยเพื่อพา “ฮันนาห์” กลับบ้าน การปฏิบัติของตำรวจและสื่อมวลชน การมีผู้เสนอ “ค่าชดเชย” เพื่อให้ครอบครัวของเธอเงียบ รวมทั้งยังเปิดเผยด้วยว่าถูกขู่ฆ่า

12 ม.ค. 2559 หลังเกิดเหตุเสียชีวิตล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มกราคมที่เกาะเต่า โดยนักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรอายุ 26 ปีชื่อ ลุค มิลเลอร์ (Luke Miller) ถูกพบศพในสระว่ายน้ำของโรงแรมที่เขาพัก (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องในข่าวสด และ เทเลกราฟ) โดยนามสกุลของผู้เสียชีวิตนั้นพ้องกับ เดวิด มิลเลอร์ (David Miller) ซึ่งเป็นหนึ่งในสองผู้เสียชีวิตจากเหตุฆาตกรรมเกาะเต่าเมื่อเดือนกันยายนปี 2557 นั้น
ต่อมา ลอว์รา วิทเธอริดจ์ (Laura Witheridge) พี่สาวของฮันนาห์ วิทเธอริดจ์ (Hannah Witheridge) ผู้เสียชีวิตจากเหตุฆาตกรรมเกาะเต่า ได้โพสต์สเตตัสในเฟซบุ๊คเมื่อวันที่ 10 มกราคม โดยอ้างถึงเหตุล่าสุดที่มีนักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรเสียชีวิตที่เกาะเต่า โดยเขียนเตือนถึงความอันตรายของประเทศไทย สิ่งที่เธอและครอบครัวเผชิญเมื่อมาเมืองไทยเพื่อ “พาฮันนาห์กลับบ้าน” รวมไปถึงมีผู้เสนอ “ค่าชดเชย” เพื่อให้ครอบครัวนี้เงียบ รวมทั้งการถูกขู่ฆ่า การส่งภาพในที่เกิดเหตุมารบกวน โดยท้ายสเตตัสลอว์ราขอให้ผู้ที่เห็นข้อความแชร์ได้ตามอัธยาศัย สำหรับสเตตัสของลอว์รา วิทเธอริดจ์ มีดังนี้
“อย่างที่พวกท่านอาจจะได้เห็นแล้ว – มีเหตุเสียชีวิตเกิดขึ้นกับบุคคลจากสหราชอาณาจักรที่เกาะเต่า ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้จะโพสต์อะไร จนกระทั่งล็อกอินเข้ามาในเช้านี้เพื่อที่จะเห็นเพื่อนคนหนึ่งได้แชร์ลิ้งเตือนผู้คนว่าอย่าไปที่นั่นเลย … ซึ่งไม่ใช่การแชร์ลิ้งหรือคำเตือนที่ชักนำให้เกิดสเตตัสยาวๆ นี้ โดยที่ฉันหวังว่าผู้คนจะแชร์สิ่งนี้และพยายามและเตือนผู้คนไปให้ไป … แต่กลับเป็นความเห็นจากบางคนที่ไม่ยอมรับรู้อะไร เขียนบอกว่าประเทศไทยนั้น 'เป็นดินแดนที่สวยที่สุดในโลก' สิ่งนี้ทำให้ฉันขุ่นเคืองมากในเช้านี้
อาจจะเป็นความสวยงามสุนทรียะ แบบในโปสการ์ดหรือภาพถ่ายหรือ … อย่างไรก็ตาม แท้จริงแล้ว … ฉันขอไม่เห็นด้วย หลายสิ่งที่ 'ดู' สวยงาม คุณเพียงแค่พิจารณาถึงสิงโต หรือเสือ … สวย เวลาที่มองเห็น, ใช่ … แต่เมื่อเข้าไปใกล้เกินไป และพวกมันก็จะฉีกเธอเป็นชิ้น และป้อนให้ลูกกินเป็นอาหาร ประเด็นของฉันก็คือความงามสุนทรียะสามารถทำให้คุณติดกับดักสุดอันตราย
นับตั้งแต่ฮันนาห์ถูกพรากจากพวกเราไป ฉันเองยังถูกสอบถามเรื่อยมาว่าเมื่อไหร่ฉันจึงจะเตือนชาวโลกเกี่ยวกับความอันตรายของประเทศไทย … ฉันถูกถามว่าฉันจะเตือนผู้คนหรือไม่ เพียงเพื่อที่จะ 'รักษาชีวิตใครบางคน' เอาไว้ ความเห็นของบุคคลนี้เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์หนึ่งว่า เพราะเหตุใดฉันถึงอาจจะเสียเวลาของฉัน ผู้คนสามารถที่จะเมินเฉยและบางทีคนส่วนใหญ่ก็อาจจะมีความทรงจำที่สั้นมากๆ เป็นเวลานับครั้งไม่ถ้วนที่ฉันล็อคอินเข้ามาเฟซบุ๊คและเห็นสเตตัสที่เกิดจากคนที่รู้จักทั้งฮันนาห์และฉัน ผู้ที่ออกไปจากที่นั่นแล้ว พวกเขาอาจจะคิดว่าสิ่งนี้ไม่อาจเกิดขึ้นกับพวกเขา … ดี, ทายสิ? ทายไม่ถูกใช่ไหม ไม่มีใครที่ได้รับการยกเว้น คนไทยจำนวนมากเกลียดชาวตะวันตก และพวกเขาก็ไม่คำนึงถึงชีวิตมนุษย์ ฉันไม่ได้พูดถึงสิงนี้อย่างไม่เอาใจใส่หรือไม่มีเหตุผล โปรดให้ฉันแสดงข้อมูลเล็กน้อยให้คุณเกี่ยวกับสถานที่ “สวยงาม” แห่งนี้ที่พวกคุณกล่าวถึง ...
“คุณจะประหลาดใจไหม หากฉันจะบอกกับคุณว่า ในความเห็นของคนไทย การมียาเสพติดไว้ในครอบครองครอบครองเป็นสิ่งผิดกฎหมายกว่าการข่มขืนและฆาตกรรม? หรือว่าส่วนใหญ่ของตำรวจไทยคอร์รัปชั่น? ถ้าหากฉันบอกคุณว่า เมื่อฉันเดินทางไปประเทศไทยเพื่อพาฮันนาห์กลับบ้าน เราได้รับเชิญจากกองบัญชาการตำรวจสำหรับ “การอัพเดตอย่างเป็นทางการ” … แต่ว่า เมื่อเราไปถึง เราถูกนำไปที่ห้องขนาดใหญ่ ทิ้งเราไว้ 5 นาทีก่อนที่ประตูจะเปิดและมีนักข่าวราว 200 คนได้รับอนุญาตให้เข้ามาในห้อง แะพวกเราก็ถูกถล่มด้วยม็อบนักข่าวผู้หิวโหยเอากล้องกระแทกหน้าพวกเรา … ผู้บัญชาการตำรวจไทยไม่ได้ตั้งใจจะอัพเดตอะไรให้พวกเราฟังเลย และในที่สุด การสืบสวนที่ล้มเหลวทำให้เขาไม่มีอะไรที่จะบอกพวกเรา คำเชิญนั่นก็เป็นโอกาสให้กับสื่อมวลชนมาถ่ายรูปครอบครัวของเรา ลิ้งนี้แสดงให้เห็นหลักฐานของเรื่องนี้ http://bangkok.coconuts.co/2015/12/24/we-need-digest-trial-outcome-says-hannah-witheridges-family 
ถ้าหากฉันบอกคุณว่า นับตั้งแต่ที่พวกเราสูญเสียฮันนาห์ ก็ได้เกิดเหตุเสียชีวิตแบบน่าสงสัยขึ้นอีกบนเกาะเต่า คุณอาจจะไม่เคยได้ยินทุกเหตุการณ์ เพราะทุกเหตุการณ์ไม่ได้เกิดกับคนสัญชาติบริเตนใหญ่ ผู้ที่เสียชีวิต ถ้าเป็นไปได้ ก็ถูกปกปิดไปเสียว่าฆ่าตัวตาย หรืออุบัติเหตุ สิ่งนี้อาจจะเกิดกับฮันนาห์ก็ได้ ถ้าไม่ได้เกิดกับสิ่งที่โหดร้ายป่าเถื่อนขึ้นกับความตายของเธอ ฉันสงสัยอย่างยิ่งว่า กับโศกนาฏกรรมล่าสุดนั้น คนไทยจะพูดว่าเป็นอุบัติเหตุจนถึงแก่ชีวิตสาเหตุมาจากยาเสพย์ติด พยายามซ่อนความจริงและสร้างเรื่องที่สอดคล้องอย่างที่พวกเขาทำบ่อยๆ … ขอส่งกำลังใจของฉันให้กับครอบครัวและมิตรของลุค มิลเลอร์
ถ้าหากฉันบอกคุณว่า ฉันถูกขู่ฆ่าจากคนไทย นับตั้งแต่น้องสาวของฉันถูกฆาตกรรมล่ะ? พวกเขาขีดเขียนรูปของฉันและบอกว่า ฆาตกรรมเพิ่งทำสำเร็จไป “ครึ่งหนึ่ง” … ถ้าหากฉันบอกคุณว่ามีคนแสดงความเห็นในภาพเหล่านี้ และบอกว่า “ยังมีเวลา” และ “ติ๊กต็อกติ๊กต็อก” ถ้าหากฉันบอกคุณว่าฉันได้รับภาพจากที่เกิดเหตุล่ะ? ถ้าหากฉันบอกคุณว่าฉันถูกไล่ตามในรถของฉันล่ะ? ถ้าหากฉันบอกคุณว่ามีคนไทยเสนอ “ค่าชดเชย” ให้กับพวกเรา เพื่อพยายามทำให้พวกเราเงียบล่ะ? พวกเรารู้สึกสะอิดสะเอียนอย่างยิ่งและได้ปฏิเสธพวกเขา
ถ้าหากฉันบอกคุณว่า เดี๋ยวนี้ฉันกลัวเงาของตัวเองเพียงไหน? เงาซึ่งฉันมองข้ามไหล่อยู่เป็นนิจ? ฉันเหนื่อย แต่ฉันกลัวที่จะหลับเพราะฝันร้าย? ฉันคิดถึงน้องสาวเหลือเกิน หัวใจของฉันหนักอึ้ง และจิตใจก็อ่อนล้า ถ้ายังคุณยังคงคิดว่าประเทศไทยสวยงาม? คำตอบของคุณยังคงบอกว่า 'ใช่' ฉันขอแนะนำให้คุณชมคลิปนี้"
ทั้งนี้ในตอนท้าย ลอว์ราได้แชร์คลิปแถลงการณ์ “Koh Tao Murder - Thai Police, their scapegoates and tourist trade - Exposed by Anonymous” ของกลุ่ม anonymous4justice ซึ่งเผยแพร่หลังคำพิพากษาเกาะเต่าเมื่อ 3 ม.ค. ด้วย และเชิญชวนให้แชร์โพสต์นี้ตามอัธยาศัย
อนึ่งสเตตัสของลอว์รา มีการแก้ไขด้วยโดยมีการตัดข้อความ 3 ประโยคออก ที่ระบุว่าเป็นข้อความจากศาลและเจ้าหน้าที่ศาลพูดกับครอบครัวของเธอในวันที่มีการพิจารณาคดี ในขณะที่สื่อของอังกฤษซึ่งเห็นข้อความดังกล่าว ได้รายงานข่าวนี้โดย Skynews พาดหัวข่าวว่า "เจ้าหน้าที่ไทยพูดจาดูถูกครอบครัวผู้ถูกฆาตกรรมชาวบริเตน" The Mirror พาดหัวข่าวว่า "พี่สาวของ ฮันนาห์ วิทเธอริดจ์ แบคแพคเกอร์ผู้ถูกฆาตกรรมอ้างว่าเจ้าหน้าที่ไทยซึ่ง "คอร์รัป" บอกเธอว่า "อย่าจู้จี้" ส่วน The Sun พาดหัวข่าวว่า "'ก็มีใหม่อีกคน': 'เจ้าหน้าที่ไทย' ตอบอย่างแปลกๆ ต่อพ่อแม่ของฮันนาห์ วิทเธอริดจ์ หลังจากเธอถูกข่มขืนและฆ่าบนเกาะเต่า" ... ฯลฯ
ทั้งนี้เป็นท่าทีล่าสุดจากครอบครัวผู้เสียชีวิตคดีฆาตกรรมเกาะเต่า ภายหลังมีคำพิพากษาศาลชั้นต้น ประหารชีวิตจำเลย 2 รายที่เป็นชาวพม่าเมื่อ 24 ธันวาคม 2558 โดยก่อนหน้านี้ครอบครัววิทเธอริดจ์ ออกแถลงการณ์หลังจากศาลอ่านคำพิพากษาความว่า "ในโอกาสที่การพิจารณาคดีสิ้นสุดและศาลได้มีคำพิพากษา ครอบครัวของเรารู้สึกอยู่ในหนทางของลมพายุของอารมณ์และความยากลำบากอีกครั้ง หนึ่ง ในช่วงเวลาที่ท้าทายเหล่านี้ เราจะมุ่งพยายามจดจำความสวยงามของฮันนาห์ ผู้เป็นคนที่สนุกสนาน มีชีวิตชีวาและน่าเหลือเชื่อ
หากว่าชีวิตของเธอไม่ได้พบกับ โศกนาฏกรรมและถูกตัดให้สั้นโดยใช่เหตุ ตอนนี้เธอคงจะจบปริญญาโทด้านอรรถบำบัดและเริ่มทำงานที่มีคุณค่า และเธอคงสามารถเข้าไปเปลี่ยนชีวิตของหลายๆ คน จากจุดเริ่มต้นของการอุทิศและความหลงใหลด้านอรรถบำบัด ประกอบกับเสียงตอบรับที่เธอเคยได้รับระหว่างการเรียน มหาวิทยาลัยแห่งเอสเส็กซ์ยังมอบรางวัลด้านการรักษายอดเยี่ยมเพื่อเป็นการระ ลึกถึงฮันนาห์ โดยใช้ชื่อว่า "รางวัลการรักษายอดเยี่ยม ฮันนาห์ วิทเธอร์ริดจ์" ซึ่งฮันนาห์จะเป็นคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้ ในฐานะครอบครัวของเธอ พวกเรารู้สึกซาบซึ้งสำหรับคำยกย่องที่สวยงามสำหรับฮันนาห์นี้ ในฐานะที่เธอเป็นผู้อุทิศตนและตั้งใจทำงาน
ปีที่ผ่านมาเป็น เวลาที่แทบจะคาดไม่ถึงสำหรับครอบครัวของเรา เราเห็นว่ากระบวนการพิจารณคดีนั้นมีความยากอย่างที่สุด และการเดินทางมาประเทศไทยเพื่อขึ้นศาลยังสร้างประสบการณ์ที่เจ็บปวด มันเป็นความท้าทายอย่างยิ่งในการรับฟังการพิจารณาคดี และเรายังต้องอดทนต่อความเจ็บปวดและข้อมูลที่สับสน และในฐานะครอบครัว ในตอนนี้เราต้องการเวลา เพื่อทำความเข้าใจผลของการพิจารณาคดี และหาทางที่เหมาะสมที่สุดในการบอกเรื่องราวของเรา" (อ่านใน ข่าวสด, 25 ธ.ค. 2558)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น