วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558

IG หลุดจากกรอบจัตุรัสแล้ว - สถิติใหม่ เฟซบุ๊กมีผู้ใช้งานเกิน 1 พันล้านในวันเดียว


อินสตาแกรมได้อัพเดตโดยรองรับการโพสต์ภาพทั้งแนวตั้งและแนวนอน ด้านเฟซบุ๊ก สร้างสถิติใหม่ มีคนใช้งานเกิน 1 พันล้านคนในวันเดียวเป็นครั้งแรก
28 ส.ค. 2558 blognone.com รายงานความเคลื่อนไหวของ เฟซบุ๊ก และ อินสตาแกรม โดยระบุว่า แต่เดิม อินสตาแกรม จำกัดรูปภาพที่โพสต์ให้เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสมาตลอด วันนี้ อินสตาแกรม ได้ออกอัพเดตโดยรองรับการโพสต์ภาพทั้งแนวตั้งและแนวนอน โดยวิธีการสั่งให้โพสต์ภาพแนวตั้งหรือแนวนอน คือตอนที่เลือกภาพหรือวิดีโอแล้วให้กดปุ่ม format และสามารถเลือกว่าจะโพสต์ภาพแบบแนวตั้งหรือแนวนอนแทนภาพแบบจัตุรัสได้ โดยฟีเจอร์นี้ก็สามารถใช้งานกับวิดีโอได้ด้วยเช่นกัน
ส่วนฟิลเตอร์นั้น Instagram บอกว่าจากเดิมจะแยกระหว่างภาพกับวิดีโอ ต่อไปนี้จะไม่แยกแล้ว ฟิลเตอร์ภาพทุกอันสามารถใช้ร่วมกับวิดีโอได้ ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลกับแอพ อินสตาแกรม เวอร์ชัน 7.5 ทั้งบน iOS และ Android
สถิติใหม่ เฟซบุ๊กมีผู้ใช้งานเกิน 1 พันล้านในวันเดียว
ขณะที่เฟซบุ๊กเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (24 ส.ค.58) เป็นครั้งแรกที่ เฟซบุ๊กมีผู้ใช้งานล็อกอินเข้ามาเกิน 1 พันล้านคนภายในวันเดียว ซึ่งก็ถือเป็นประชากรจำนวน 1 ใน 7 ของโลกเลยทีเดียว
ทั้งนี้สถิติล่าสุดของ เฟซบุ๊กมีผู้ใช้งานประมาณ 1.5 พันล้านคน แต่ผู้ใช้เหล่านี้ไม่ได้ใช้งานพร้อมกันทั้งหมด ซึ่งทางเฟซบุ๊กก็ไม่เคยเผยจำนวนผู้ใช้งานจริง (active users) ว่ามีเท่าไรกันแน่ และจำนวนก็แปรผันไปตลอดเวลา

 

รณรงค์ประชามติ ร่าง รธน. ห้ามส่งไลน์ ห้าม SMS ห้ามส่งคลิปยั่วยุ


‘วิษณุ’ ชมเขียนดีกว่า รธน.40–50 ระบุห้ามส่งไลน์- SMS ยั่วยุ ถือว่าผิดกฎหมายถ้าจับได้ก็จับ แต่แสดงความคิดเห็นธรรมดาคงไม่เป็นไร ด้านกกต. โยน รบ.-คสช. พิจารณา แจงหลักการประชามติเหมือนลต.
เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนักการเมืองออกมาเรียกร้องให้สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โหวตคว่ำรัฐธรรมนูญว่า ไม่ใช่ความผิดอะไร ต่อให้ สปช. โหวตไปแล้วก็ยังไม่กล้าชี้ชัดว่าการออกมาเรียกร้องไม่เอาร่างรัฐธรรมนูญของนักการเมืองจะเป็นความผิด เนื่องจากยังไม่เห็นระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าเขียนไว้อย่างไร ดังนั้น ช่วงนี้จึงเป็นการแสดงความเห็นทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและคัดค้าน แต่จะสมควรหรือไม่ขึ้นอยู่กับความพอใจ หากพูดจายั่วยุจนไม่เกิดความแตกแยกร้าวฉานก็ไม่เป็นไร มีหลายคนที่ออกมาพูดในเชิงสร้างสรรค์ เช่น อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ระบุว่า ไม่อยากให้เสียเวลาเถียงกันเรื่องคำปรารภ แต่ขอให้เลือกพิจารณาในเนื้อหา
วิษณุ กล่าวว่า เรื่องการทำประชามติต้องมีการทำความเข้าใจให้กับประชาชน โดย กกต. เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ แต่ที่เป็นปัญหาคือ คนที่ไปจัดกันเองจะทำได้หรือไม่ ขึ้นอยู่ 2 อย่าง คือ พ.ร.บ. ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ และ ระเบียบว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เป็นของใหม่ที่ กกต. มีอำนาจกำหนด คาดว่า จะส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจาณาในเดือน ก.ย. นี้ ระเบียบดังกล่าวจะมีข้อห้ามมากแค่ไหนยังไม่ทราบ แต่จากการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สนับสนุนให้มีการปลุกระดม ไม่ว่าจะให้ผ่านหรือไม่ผ่าน เพราะอาจเข้าข่ายผิดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หากมีการส่งไลน์หรือเอสเอ็มเอสในลักษณะยั่วยุ ปลุกระดม ใช้คำพูดหยาบคาย รุนแรง ข่มขู่ ก้าวร้าว คำตอบคือทำไม่ได้ ผิดกฎหมาย เช่นเดียวกับคลิป ที่ส่งกันอย่างผิดกฎหมายถ้าจับได้ก็จับ แต่ หลักอยู่ที่ว่าอย่าเป็นการปลุกระดมยั่วยุ ให้เกิดความแตกแยกหรือไม่ ถ้าเป็นการแสดงความคิดเห็นธรรมดาคงไม่เป็นไร เช่นการร่วมรายการโทรทัศน์แสดงความเห็นนั้นสามารถทำได้
ชมเขียนดีกว่า รธน.40–50
สำหรับข้อดีข้อเสียของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เมื่อเปรียบเทียบกับฉบับก่อนๆ นายวิษณุ กล่าวว่า ดีกว่าฉบับปี 40 และ 50 อย่างน้อยเราก็ได้เรียนรู้คนที่ตบมือทีหลังดังกว่า รัฐธรรมนูญปี 40 และ 50 เขาก็เขียนไว้ดี แต่พอเกิดปัญหาเคลือบแคลงสงสัยว่าคำนี้แปลว่าอะไร เราก็พบว่ายุ่งยาก วันนี้เขามีบทเรียนก็ทำให้มันชัดขึ้น เวลานี้หากมีปัญหาก็ส่งศาลรัฐธรรมนูญช่วยชี้ขาด แต่ไม่ใช่ถึงขนาดว่าไม่รู้จะเลือกทำอย่างไรดีแล้วให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ อย่างนั้นไม่ใช่ มันเป็นการให้ศาลรัฐธรรมนูญปกครองประเทศ การจะถามนั้นไม่ใช่ประชาชนเพ่นพ่านไปถามเอง ต้องเป็นองค์กรหรือสภา คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นคนถาม ส่วนเรื่องรักษาการก็มีการแก้ไขให้แล้ว ถ้า ครม.ลาออกหมดก็ให้ปลัดกระทรวงรักษาการ เพราะคงไม่ยอมให้ คปป.มารักษาการแน่ ซึ่งเรื่องนี้ก็ดี
กกต. โยนรัฐบาล-คสช. พิจารณา
วันนี้(28 ส.ค.58)บุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้งกล่าวถึงกรณีที่ วิษณุ ระบุว่า หากมีการส่ง ไลน์ หรือ เอสเอ็มเอส ในลักษณะยั่วยุ ปลุกระดม ใช้คำพูดหยาบคาย รุนแรง ข่มขู่ ก้าวร้าว ในการรณรงค์ร่างรัฐธรรมนูญทำไม่ได้ ผิดกฎหมาย ว่า ที่ประชุมไม่ได้มีการหารือในเรื่องดังกล่าว โดยเรื่องนี้เห็นว่าผู้มีอำนาจ คือ รัฐบาล และ คสช. ต้องไปพิจารณา ว่าจะทำอย่างไร โดยผู้มีอำนาจอาจจะเสนอแก้ไข พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2552 เพื่อเพิ่มความผิดดังกล่าวใน พ.ร.บ. ดังกล่าว หรืออาจจะมีการเสนอให้ออกเป็นกฎหมายพิเศษก็ได้
แจงหลักการประชามติเหมือนลต.
สำหรับหลักเกณฑ์ในการออกเสียงประชามติ บุณยเกียรติ กล่าวว่า จะมีลักษณะเหมือนการเลือกตั้งทั่วไป ส่วนการจัดสรรเวลาในการแสดงความเห็นของฝ่ายที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยผ่านโทรทัศน์และวิทยุ นั้น จะมีลักษณะคล้ายกรณีการนำเสนอนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ก่อนเลือกตั้ง โดยจะให้ฝ่ายที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ส่งตัวแทนมาอัดเทปแสดงความเห็นในเวลาเท่ากัน และเผยแพร่ในเวลาที่เท่าๆ กัน
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่น่ากังวลสำหรับ กกต. ขณะนี้คือ การออกระเบียบ กกต. เกี่ยวกับการเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญ เพราะ กกต. ต้องเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญ และขณะเดียวกัน ก็ต้องวางตัวเป็นกลาง เพื่อไม่ให้เป็นการสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จึงทำให้เขียนกฎหมายได้ยาก

เดินหน้าค่าย ป.4-ม.3 ไม่ขออนุญาต ทหารลั่นใช้ พ.ร.บ.ชุมนุม “ไม่ขอก่อน ห้ามจัด”


เยาวชนคนรุ่นใหม่ยืนยันจัดค่ายเยาวชน “เยาวชนฮักบ้านเจ้าของ” ที่วังสะพุง จ.เลย จะไม่ขออนุญาตทหาร หลังถูกสกัด ทหารเจ้าของพื้นที่ลั่น “ไม่ขออนุญาต ห้ามจัด” ขู่เจอพ.ร.บ.ชุมนุม ถือเป็นภัยความมั่นคง
27 ส.ค.2558 หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทหารค่ายศรีสองรัก จ.เลย สั่งห้ามจัดค่ายเยาวชน “เยาวชนฮักบ้านเจ้าของ” ซึ่งเป็นกิจกรรมในโครงการพัฒนาคนรุ่นใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.) เมื่อปลายเดือน มิ.ย.ไปครั้งหนึ่งแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่าสถานการณ์ในพื้นที่ ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย ไม่ปกติ เนื่องจากการเข้ามาของนักศึกษากลุ่มดาวดิน เกรงว่าจะมีการปลุกปั่นเยาวชนให้ต่อต้านอำนาจรัฐ และยุยงให้ชาวบ้านแตกแยกกัน (อ่านรายละเอียด) ทำให้ต้องเลื่อนมาจัดค่ายระหว่างวันที่ 28-30 ส.ค.นี้แทน
ล่าสุด วศินี บุญที หนึ่งในทีมค่ายเยาวชนฮักบ้านเจ้าของ เครือข่ายคนรุ่นใหม่ฯ กล่าวว่า เมื่อวาน(26 ส.ค.58) ทหารจากค่ายศรีสองรักชุดเดิม เดินทางไปทั้งวัดโนนสว่างและวัดป่านาหนองบงเพื่อถามถึงทีมที่จะมาทำค่ายนี้ พร้อมกับฝากแจ้งผ่านชาวบ้านมาด้วยว่าหากจะจัดค่ายต้องขออนุญาตกับทหารก่อน
“เราไม่เข้าใจว่าทำไม หรือเงื่อนไขอะไรที่เราจะต้องขออนุญาต เรามาทำค่ายเด็กและเยาวชน ครั้งที่แล้วเราก็แจ้งไปแล้วว่าจะทำค่ายลักษณะนี้” วศินีกล่าวพร้อมยืนยันว่าจะจัดค่ายต่อและไม่เห็นความจำเป็นจะต้องขออนุญาตทหารเนื่องจากค่ายนี้เป็นเพียงค่ายเด็กและเยาวชน มีเป้าหมายที่การเรียนรู้ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ภูมิปัญญาท้องถิ่นตัวเอง เรียนรู้วิถีชีวิตตัวเอง ชื่อตอนของค่ายคือ ‘นักสืบสายน้ำ’ โดยจะพาไปศึกษาลำน้ำฮวย ต.เข้าหลวง ว่าบริเวณพื้นที่นั้นมีอะไรอยู่บ้าง
วศินี กล่าวว่า ความยุ่งยากในการทำค่ายส่งผลทำให้เด็กที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ถอนตัวออกไปจำนวนมาก  ครั้งแรกที่ไปในพื้นที่มีกระบวนการรับสมัคร มีเด็กที่ไม่มากันเยอะพอสมควร เพราะภายในพื้นที่ก็มีความขัดแย้งในประเด็นเรื่องเหมืองแร่อยู่ นอกจากนี้ยังมีทหารและผู้ใหญ่บ้านที่อ้างถึงการรักษาความสงบและความมั่นคง
สำหรับความยากลำบากในการหาพื้นที่สำหรับจัดค่าย วศินี กล่าวว่า ตอนแรกวางไว้ว่าจะจัดที่โรงเรียนบ้านห้วยพุก แต่ถึงวันเกิดเหตุวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ใหญ่บ้านไม่อนุญาตทำให้โรงเรียนปฏิเสธการให้ใช้สถานที่ดังกล่าวด้วย จึงเปลี่ยนไปวัดถ้ำโนนผาพุง ในตอนแรกเจ้าอาวาสวัดก็ตกลงให้จัดเหมือนเดิม แต่ก็ถูกสกัดอีกทำให้ต้องเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนไปอีกวัดก็ถูกสกัดอีกเพราะทหารมาขอร้อง ทำให้ต้องเปลี่ยนมาจนล่าสุดเป็นวัดโนนสว่างซึ่งคุยกับเจ้าอาวาสแล้วเรียบร้อย แต่เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาเจ้าอาวาสก็โทรมาแจ้งว่าทหารติดต่อมาขอความร่วมมือไม่ให้ใชสถานที่ ทางกลุ่มจึงปรึกษาชาวบ้านและชาวบ้านอาสาว่าจะไปคุยกับเจ้าอาวาสอีกครั้งเพื่อยืนยันการจัดค่ายดังกล่าว
ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับค่ายนี้ วศินี อธิบายว่า มาจากเยาวชนอาสาสมัครที่ผ่านการอบรมโครงการพัฒนาคนรุ่นใหม่เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม ของ มอส. ซึ่งสนใจทำค่ายเด็กและเยาวชนในพื้นที่ ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย  สำหรับสาเหตุที่จัดค่ายในพื้นที่นี่นั้น วศินี ระบุว่า เนื่องจากมีคนในเครือข่ายได้เข้ามาในพื้นที่นี้และเห็นว่ามีเด็กและเยาวชนอยู่จำนวนไม่น้อยจึงสนใจที่จะมาทำค่ายเรียนรู้ธรรมชาติ วิถีชีวิต เรียนรู้บ้านตัวเอง โดยเด็กที่จะเข้าร่วมเป็นเด็กในพื้นที่ 6 หมู่บ้าน ต.เขาหลวง อายุ 10-15 ปี หรือ ป.4 ถึง ม.3 และมีพี่เลี้ยงที่อายุ 15 ปีขึ้นไป เป็นนักเรียน ม.ปลาย ส่วนเครือข่ายคนรุ่นใหม่ฯ จะไปช่วยเรื่องกระบวนการและทักษะวิธีการเรียนรู้
โฆษก คสช. ระบุจัดกิจกรรม ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพื้นที่
เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. บีบีซีไทย - BBC Thai รายงานว่า พ.อ.อำนวย จุลโนนยาง รองผู้บัญชาการจังหวัดทหารบกเลย ผบ.จทบ.ล.ย.(1) ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าวระบุว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งของ คสช. อย่างเคร่งครัด โดยหน่วยงานการศึกษาหรือหน่วยงานอื่นๆ หากมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ต้องแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ทหารทราบรายละเอียดของกิจกรรมและผู้เข้าร่วมกิจกรรม และเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีความขัดแย้งสูง การมีบุคคลภายนอกเข้ามาจึงต้องพิจารณาด้วยว่าจะส่งผลให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มขึ้นหรือไม่ แต่ที่ผ่านมายังไม่เห็นหน่วยงานใดมาติดต่อขออนุญาตจัดกิจกรรม ทั้งนี้ กลุ่มกิจกรรมที่ไม่ใช่หน่วยงานราชการก็สามารถประสานมาได้
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. ระบุว่าไม่ได้มีนโยบายเพิ่มเติมในเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อย เป็นเรื่องของหน่วยงานในพื้นที่พิจารณา เบื้องต้นยืนยันว่าการจัดการกิจกรรมต่างๆ ต้องได้รับอนุญาตจากทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพื้นที่
ชาวบ้านหวั่นถูกสกัดร่วมเวทีต่ออายุเหมืองแร่
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังตัวแทนชาวบ้านกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิด 6 หมู่บ้าน อ.วังสะพุง จ.เลย ซึ่งระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ (28 ส.ค.58) การประชุมสมัยสามัญของสภาองค์การบริหารส่วนตำบลเขาหลวง ซึ่งจะเปิดให้มีการพิจารณาอนุญาตขอต่ออายุการใช้พื้นที่ป่าไม้และพื้นที่ ส.ป.ก. เพื่อทำเหมืองแร่ทองคำของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด  
ตัวแทนกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดฯ ระบุด้วยว่าในพื้นที่เส้นทางที่จะเดินทางเข้าไปยังสถานที่จัดประชุมมีการจัดตั่งด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงสร้างความกังวลว่าจะเป็นด่านสกัดกั้นไม่ให้ชาวบ้านกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิด เข้าไปร่วมการประชุมดังกล่าวเหมือนเวทีรับฟังความคิดเห็นเมื่อปี 56 อีก
ขู่ถ้าไม่ขออนุญาต ห้ามจัด ขัดพ.ร.บ.ชุมนุม
ล่าสุด เว็บไซต์นักข่าวพลเมืองของ TPBS รายงานว่า  พ.อ.อำนวย จุลโนนยาง หัวหน้าชุดปฏิบัติการเขาหลวง มีคำสั่งเด็ดขาดว่า หากทีมงานค่ายยังดื้อรั้นไม่ยอมยกเลิกการจัดค่ายเยาวชนฯ จะใช้กฎหมายห้ามชุมนุมจัดการกับทีมงานที่เข้ามามาจัดค่ายครั้งนี้ เพราะถือเป็นภัยต่อความมั่นคง
ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวมีปัญหาความขัดแย้งจากกรณีการทำเหมืองทองคำมาอย่างยาวนาน (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ : เหมืองแร่เมืองเลย )