วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

‘อาชีวะช่วยชาติ’ ขู่จะรวมตัวแสดงพลัง หาก น.ศ.ไม่หยุดต้าน คสช.


30 มิ.ย.2558 เฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘กลุ่มอาชีวะช่วยชาติ’ เผยแพร่แถลงการณ์ลงวันที่ 30 มิ.ย.2558 ระบุการเคลื่อนไหวของนักศึกษากลุ่มดาวดิน มีกลุ่มบุคคลที่เสียผลประโยชน์คอยให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง และเรียกร้องให้กลุ่มนักศึกษาหยุดการเคลื่อนไหวต่อต้านคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยระบุว่า หากไม่หยุดทำลายความน่าเชื่อถือและความมั่นคงของชาติ กลุ่มอาชีวะทั้งศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่าจะออกมาแสดงพลังเพื่อสนับสนุนการทำงานของ คสช.  


 

......................
แถลงการณ์ฉบับที่ 2/2558
กลุ่มอาชีวะช่วยชาติ ณ ราชดำเนิน 56

          จากการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้เข้ามาบริหารประเทศ ทำให้ประเทศสงบขึ้นเป็นอันมาก แต่ก็มีบุคคลบางกลุ่มที่เสียผลประโยชน์ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยอยู่เบื้องหลังให้การสนับสนุนนักศึกษาบางกลุ่ม (กลุ่มดาวดิน) ดังนั้น ในนามนักศึกษาด้วยกันจึงอยากให้กลุ่มนักศึกษาดังกล่าวหยุดการกระทำ หากยังมีนักศึกษาที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ออกมาทำลายความน่าเชื่อถือและความมั่นคงของชาติ ทางกลุ่มอาชีวะช่วยชาติที่ประกอบไปด้วยศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่าจะออกมาแสดงพลังเพื่อสนับสนุนการทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เช่นกัน

กลุ่มอาชีวะช่วยชาติ ณ ราชดำเนิน
30 มิถุนายน 2558

พล.อ.ประยุทธ์ย้ำไม่ชี้แจงอียู-ถามสื่อจะต้องนำ 14 นักกิจกรรมมาแห่หรือไง?

กรณีอียูเรียกร้องปล่อยตัว 14 นักกิจกรรม "ประชาธิปไตยใหม่" พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำจะไม่ชี้แจงเพราะกฎหมายคือกฎหมาย ประเทศไทยคือประเทศไทย ใครเรียกร้องประชาธิปไตยให้รอวันเลือกตั้งโน่น นักศึกษาทั้งประเทศไม่ได้มีแค่ 14 คน ที่เคยคุยด้วยกันดีๆ ยังมีอีกเยอะ ที่ผ่านมาใช้อำนาจถูกต้อง-ยังไม่ได้ทำผิดรัฐธรรมนูญ คสช. - ส่วนที่ จ.เลย ชาวบ้านชูป้ายไล่ "ดาวดิน" ถึงศาลากลาง
วิษณุ เครืองาม ย้ำว่า 14 ผู้ต้องหาฝืนคำสั่ง คสช. ต้องขึ้นศาลทหารเท่านั้น
1 ก.ค. 2558 - กรณีที่นักศึกษาและนักกิจกรรม "ขบวนการประชาธิปไตยใหม่" ที่ถูกจับกุมทั้ง 14 คน โดยไม่ขอประกันตัว และต้องถูกดำเนินคดีที่ศาลทหารในความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 3/2558 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 นั้น มติชนออนไลน์ รายงานคำให้สัมภาษณ์ของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนร่วมประชุม ครม.สัญจร ที่เชียงใหม่เมื่อวานนี้ (30 มิ.ย.) ว่า ถ้าหากไม่มีการยื่นประกันตัวต้องอยู่ในการควบคุมของศาลทหารที่มีการกำหนดไว้อยู่แล้วว่าจะมีการควบคุมตัวไว้กี่ผลัดผลัดละกี่วันซึ่งเมื่อไม่ขอประกันตัวก่อนยื่นฟ้องก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอน และหากครบกำหนดควบคุมตัวแล้วศาลไม่ฟ้อง หรือ หากฟ้องไม่ทันก็จะต้องปล่อยตัว แต่หากมีการฟ้องร้องก็อยู่ในอำนาจของศาลที่จะควบคุมตัวได้ตลอดจนกว่าจะมีการตัดสิน นอกจากนี้กรณีที่นักศึกษาจะขอโอนย้ายคดีไปยังศาลพลเมืองแทนศาลทหารไม่สามารถทำได้เพราะกฎหมายกำหนดชัดเจนว่าคดีดังกล่าวจะต้องขึ้นศาลทหารเท่านั้น
พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ชี้แจงสหภาพยุโรป เพราะกฎหมายคือกฎหมาย ประเทศไทยคือประเทศไทย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรีแถลงข่าวหลังประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติฯ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2558 (ที่มา:เว็บไซต์รัฐบาลไทย)

สำหรับความเห็นของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี ซึ่งกล่าวระหว่างแถลงข่าวของการประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.เชียงใหม่ กรณีที่สหภาพยุโรป ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวนักศึกษาและนักกิจกรรม 14 คน ดังกล่าว (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวช่วงหนึ่งของการแถลงข่าวว่า "ผมไม่ชี้แจงอยู่แล้ว เพราะกฎหมายคือกฎหมาย ประเทศไทยคือประเทศไทย ผมให้โอกาสมาตลอดเวลานะ วันนี้ต้องนึกถึงคนอื่นเขาบ้างสิ นะ กฎหมายถ้าอันนี้ทำ อันนี้ไม่ทำมันจะได้ไหมล่ะ แล้ววันหน้ามันจะมีอีกไหมเล่า เขาทำอะไร เขาแสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ไหม เกี่ยวกับเรื่องพัฒนากับผมไหม เรื่องปฏิรูปประเทศไหมล่ะ มาสิ"
"แต่ถ้ามาโต้แย้งกับผม ไม่ใช่อย่างนั้น เขาไม่เรียกการแสดงความคิดเห็น ก็วันนี้ก็รู้อยู่มันเป็นสภาวะอะไร รู้ว่าผมอยู่อย่างไร ผมยังรู้เลย แล้วท่านไม่รู้หรือ? หา! ท่านไม่รู้หรือว่าประเทศชาติมันมีปัญหาตรงไหนหรือไง นะวันหน้าพอเขาเลือกตั้งกันมาโน่นท่านไปทำตรงโน้น ที่ผ่านมาผมก็ให้ทำมาตลอดน่ะแหละ จนมาถึงว่ามันไปไม่ได้แล้ว ผมถึงต้องมาทำไง จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็เพราะคนถามนี่ถามโน่นที่ไม่เข้าใจผมนี่แหละ มันจะเสร็จได้ไงล่ะ วันสองวัน มันจะเสร็จได้ไหม ผมอยากจะให้มันเป็นอย่างนี้หรือ ผมไม่ได้อยากเลยนะ ไม่ได้อยากมายืนตรงนี้ด้วยซ้ำไป พูดไม่รู้กี่ครั้งแล้ว พูดอยู่นั่นแหละว่าต้องอำนาจ อำนาจ ไอ้พวกไปเขียนในสื่อ บางคนน่ะนะ แล้วหาว่าผมไปทะเลาะกับสื่ออีก
ถามสื่อจะให้นำ 14 นักกิจกรรม "มาแห่แหนชื่นชมหรือไง?" ย้ำนักศึกษาทั้งประเทศไม่ได้มีแค่ 14 คน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อไปว่า "ใช้อำนาจตรงไหนวะ อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินเขาเรียกว่าอำนาจหรือ การใช้อำนาจที่ผิดหรือ ใช้อำนาจในทางที่ถูกต้องด้วยนะ ไม่ได้ไปละเมิดอะไรใคร เว้นแต่คนที่ไม่ปฏิบัติตามกติกา ที่ผมจำเป็นต้องใช้ เท่านั้นเอง คุณจะให้ผมทำอย่างไร เอามาแห่แหนชื่นชมหรือไง?"
"ผมต้องขอบคุณนักศึกษาทุกองค์กรนะ ไม่ได้มีแค่ 14 คน ทั้งประเทศมีเท่าไหร่ เขาร่วมมือกับผมแค่ไหน คุณไปดูสิคนดีๆ ผมไปไหนมาไหนก็มาชื่นชม ขอให้ผมทำให้เขา เด็กนักเรียน ประถม มัธยม มหาวิทยาลัยก็เยอะส่วนดีๆ ไป ลุงดูหนูด้วยนะคะ ดูการศึกษาให้หนูด้วย ดูอนาคตให้หนูด้วย ดูเรื่องอาชีพ เรื่องรายได้ แต่พวกนี้จะเอาประชาธิปไตยอย่างเดียว เลือกตั้ง ก็ไปเลือกเอานั่น เดี๋ยวเขาก็มีเลือกนะ ตอนนี้รัฐธรรมนูญผมผิดตรงไหนไหม ผมทำอะไรผิดรัฐธรรมนูญหรือยัง (ชี้ไปทางนักข่าว) รู้ไหมว่ารัฐธรรมนูญเขียนว่าอย่างไร รู้หรือยัง ไม่รู้อีก แล้วอย่างนี้จะไปกันเจอไหมวะเนี่ย"
ยันยังไม่ได้สืบทอดอำนาจ ทุกอย่างเป็นตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว
"รัฐธรรมนูญชั่วคราวเขียนว่าอย่างไร ประเทศจะไปสู่ประชาธิปไตยก็เมื่อมีรัฐธรรมนูญ ตอนนี้เสร็จหรือยัง ยัง ผ่านหรือไม่ผ่าน สปช. ยังไม่รู้ เมื่อผ่าน สปช. แล้ว รัฐธรรมนูญเขียนว่าอย่างไร ต้องไปทำประชามติใช่ไหม ตอนนี้อยากทำใช่ไหม ก็ไปทำ พอแก้ให้ ก็บอกว่าผมต้องการสืบทอดอำนาจ ใช่ไหม เขียนแบบนี้ใช่ไหม ก็ถ้าท่านอยากให้ผ่านรัฐธรรมนูญ ท่านก็ผ่านประชามติมา"
"พอท่านบอกต้องทำประชามติ ประชาชนต้องมีส่วนร่วม ก็ทำไปสิ ทำไปอีก 3 เดือน ผมเป็นคนยื่นหรือ ผมเป็นคนยื่นว่าอยากอยู่หรือ กฎหมายเขาเขียนอย่างนั้น ให้มันรู้เสียบ้าง อะไรคือกฎหมาย จากนั้นทำกฎหมายลูกอีกสองเดือน มันก็อยู่ในแผนของรัฐธรรมนูญชั่วคราวทั้งสิ้น ยังไม่ได้แก้อะไรสักตัวเลย แต่ถ้าจะทำประชามติ ท่านต้องไปแก้รัฐธรรมนูญตรงนั้นให้ทำประชามติได้ เพราะรัฐธรรมนูญยังไม่ได้เขียนว่าให้ทำประชามติ อย่ามาพันกันสิ พันกันไปกันมาปวดหัว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงขั้นตอนร่างรัฐธรรมนูญ
ส่วนเรื่องที่ผู้สื่อข่าวถามว่า ห่วง สปช. หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ไม่ห่วงอะไรเลย จากนั้นชี้ไปยังนักข่าวที่ถามว่า "ถามมาตั้งแต่อยู่กรุงเทพฯ แล้ว" "ไม่ห่วง ถ้าห่วงจะมายืนตรงนี้ไหม เลิกถามว่าห่วงไม่ห่วง พอแล้ว"
ทั้งนี้หลังเสร็จสิ้นภารกิจที่ จ.เชียงใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรีได้เดินทางต่อไปยัง จ.พิษณุโลก
13 ผู้ต้องหาคดีฝืนคำสั่ง คสช. เขียนจดหมายอธิษฐานให้ พล.อ.ประยุทธ์ รู้จักหลักประชาธิปไตยใหม่ 5 ข้อ
โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. นักศึกษาและนักกิจกรรมชาย 13 คน ที่ถูกคุมขังภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้เขียนข้อความด้วยลายมือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า "จดหมายจาก 13 เชลย ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)"
"นับเป็นวันที่ 3 แล้ว ที่เราถูกคุมขังภายใต้คำสั่งของหัวหน้าคสช. ที่ 3/2558 ภายในเรือนจำแห่งนี้ แม้เราจะมีอาหารกินครบสามมื้อ แต่ทุกๆ มื้อ ก็เป็นการกินที่ปราศจากเพื่อน และคนที่เรารู้จักที่เคยร่วมโต๊ะอาหาร เราไม่เห็นแววตาพวกเขา และแน่นอนว่าพวกเราคิดถึงพวกเขา แม้ว่าพวกเราจะมีที่หลับนอน มีชายคากันแดดและฝน แต่มันจะไม่เป็นเหมือนบ้าน ไม่มีรอยยิ้มของพ่อแม่ ไม่มีอ้อมกอดอบอุ่นจากคนที่เรารัก แม้ว่าเรายังมีลมหายใจ แต่ก็เป็นลมหายใจที่ไกลห่างจากหนทางของความฝัน ลมหายใจที่เรามีอยู่ในวันนี้ เป็นลมหายใจที่รอคอยการพบกับเสรีภาพในวันข้างหน้า โดยที่เราไม่รู้ เมื่อวันนั้นมาถึง เราจะยังมีความฝันอยู่หรือไม่ แม้เรามีกำลังใจที่เต็มเปี่ยม เมื่อนึกถึงการต่อสู้ของเพื่อน ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ โดยหวังหลักการ 5 ข้อ คือ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ความยุติธรรม การมีส่วนร่วม และสันติวิธี ทั้งนี้ เราอธิษฐานให้พล.อ.ประยุทธ์ ผู้ออกคำสั่งในการจองจำเราได้ตระหนัก และเข้าใจถึงความสำคัญของหลักการดังกล่าว"
กำนันเขาหลวงยื่นหนังสือศาลากลาง จ.เลย ไม่ต้อนรับ "ดาวดิน"
กำนัน ต.เขาหลวง และมวลชนเดินทางมาประท้วงกลุ่มดาวดินที่ศาลากลาง จ.เลย เมื่อ 30 มิ.ย. 58 (ที่มาของภาพ: หนังสือพิมพ์เลยไทม์ออนไลน์)
ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆ เพจของหนังสือพิมพ์เลยไทม์ออนไลน์ รายงานด้วยว่า เมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้ (30 มิ.ย.) ที่ศาลากลาง จ.เลย ชาวบ้าน ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง มาชุมนุมต่อต้านกลุ่มดาวดิน ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของ "ขบวนการประชาธิปไตยใหม่" โดยระบุว่าขอให้หยุดแอบอ้างชาวเขาหลวงเคลื่อนไหวทางการเมือง
ทั้งนี้ใน มติชนออนไลน์ ระบุว่า ผู้ที่เคลื่อนไหวคือ สมบัติ ต้นคำ กำนัน ต.เขาหลวง ในนาม "ชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำบลเขาหลวงและชาวบ้าน" โดยมายื่นหนังสือต่อ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผวจ.เลย พล.ต.เถลิงศักคิ์ พูลสุวรรณ ผบ.จทบ.เลย พล.ต.ต.ศักดา วงศ์ศิริยานนท์ ผบก.ภจว.เลย
ผู้สื่อข่าวประชาไท รายงานเพิ่มเติมว่า ชาวบ้านที่เดินทางมาศาลากลาง จ.เลย กลุ่มดังกล่าว เป็นคนละกลุ่มกับ "กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด" ซึ่งเคลื่อนไหวต่อต้านกรณีที่บริษัททุ่งคำได้รับประทานบัตรทำเหมืองทองคำที่ภูทับฟ้า อ.วังสะพุง จ.เลย ซึ่งกลุ่มดังกล่าวเห็นว่าการผลิตและขุดแต่งแร่ ทำให้ชุมชนได้รับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะการปนเปื้อนของลำน้ำสาธารณะจากสารเคมีที่ใช้ในเหมืองแร่

‘ประยุทธ์’ ไม่สบายใจใช้กฎหมายกับกับนักศึกษา เผยกำลังตรวจสอบความบริสุทธิ์


1 ก.ค.2558 กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ และ ไทยโพสต์ รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาว่า ขณะนี้กำลังหามาตรการเปิดช่องทางการพูดคุยเพื่อให้เกิดการยุติ เพราะตนก็ไม่สบายใจในการใช้กฎหมายกับนักศึกษา ขณะเดียวกันก็ต้องมองอีกแง่มุมหนึ่งว่า พฤติกรรมที่แสดงออกมานั้นเป็นอย่างไร เป็นกิริยาของเด็กที่บริสุทธิ์หรือไม่ มีการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ซึ่งต้องมีการพิสูจน์กันอีกครั้ง โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อเสนอจากบางฝ่ายต้องการให้ใช้รัฐธรรมนูญ มาตรา 44 นิรโทษกรรมความผิดให้แก่นักศึกษา จะมีความเป็นไปได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ผมไม่ทำ ทำไม่ได้ เพราะถ้าทำแล้วก็จะต้องมีการใช้มาตรา 44 เพื่อนิรโทษกรรมให้กับบุคคลคนอื่น และจะทำให้ไม่มีวันจบสิ้นกระบวนการ”
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา สำนักข่าวไทย รายงาน ความเห็นของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษานักกิจกรรมดังกล่าวว่า การเคลื่อนไหว ไม่น่าจะเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์  เพราะมีการเมืองอยู่เบื้องหลัง หากสื่อต้องการทราบว่าเป็นกลุ่มใดให้ไปสืบหาดูในโลกโซเซียลมีเดีย ตนเป็นห่วงการเรียนของนักศึกษาและขอให้นักศึกษาห่วงบ้านเมือง คำนึงถึงประเทศเป็นหลัก การออกมาต่อต้านขณะนี้ไม่เหมาะสมกับห้วงเวลา เพราะบ้านเมืองอยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติ
‘ครูหยุย’ จับนักศึกษาเป็นเรื่องธรรมดา กฎหมายก็คือกฎหมาย ถามกลับมีสิทธิประกันตัวทำไมไม่ทำ
วันเดียวกัน(1 ก.ค.58) มติชนออนไลน์ รายงานว่า วัลลภ ตังคณานุรักษ์ หรือ ครูหยุย สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)กล่าวถึงกรณี นักศึกษากลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ถูกจับกุมจำนวน 14 คน ว่า การออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการรัฐประหารจนถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำตัวไปดำเนินคดีนั้นเป็นเรื่องธรรมดา เพราะกฎหมายก็คือกฎหมาย ส่วนกรณีหลายฝ่ายออกมาระบุจะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ตนมองว่าต้องคิดและมองในอีกมุมด้วยว่า นักศึกษาที่ถูกจับมีสิทธิยื่นประกันตัวได้ แต่ทำไมเขาไม่ทำ เมื่อไม่ประกันตัวก็ต้องถูกกักตัวไว้ ซึ่งกฎหมายมีอยู่ก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว
เมื่อถามว่า กรณีนี้จะจุดติดเป็นกระแสสังคมหรือไม่ นายวัลลภ กล่าวย้ำว่า ไม่หรอก ถ้ายึดตามกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
‘สรรเสริญ’ ชี้หากทำตามเสียงเรียกร้อง โดยไม่คำนึงถึงกฎหมาย ก็จะเกิดลัทธิเอาอย่าง
ต่อกรณีองค์กรต่างประเทศทั้งสํานักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) และสหภาพยุโรป (EU) เรียกร้องรัฐบาลปล่อยตัวนักศึกษาที่ถูกจับกุมเหตุต่อต้านรัฐบาล โดยวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมามติชนออนไลน์ รายงานว่า พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้มีปัญหากับใครไม่ว่าจะเป็นผู้เห็นแย้งหรือว่านักศึกษา แต่ถ้ามีการทำผิดกฎหมาย ต้องว่าไปตามกระบวนการ ทั้งทหาร ตำรวจ หรือพลเรือน ต้องไม่มีข้ออ้างใดๆ ทั้งสิ้น รัฐบาลยึดตามข้อกฎหมาย หากทำตามเสียงเรียกร้องจากองค์กรต่างๆ โดยไม่คำนึงถึงกฎหมาย ก็จะเกิดลัทธิเอาอย่าง นักศึกษาเป็นมนุษย์คนหนึ่ง และยังมีการศึกษาค่อนข้างสูง ถือว่าเป็นปัญญาชน ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย 
อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้เป็นกังวลว่าการเคลื่อนไหวของนักศึกษาจะขยายตัวออกไป เพราะเมื่อครั้งที่ คสช. เข้ามาใหม่ๆ ก็มีเหตุการณ์ลักษณะนี้ ดังนั้น สังคมต้องตระหนักและร่วมกันคิดเพื่อที่จะเข้าสู่การเป็นประชาธิปไตยแบบเต็มใบ ที่สำคัญหากไม่หยิบยกสิ่งที่ไม่เป็นประเด็นมาเป็นประเด็น รับข่าวร้ายแล้วไม่ส่งต่อ ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง

‘LLTD’ จัดนอนกรงวอนปล่อย 14 ประชาธิปไตยใหม่ เจอ ‘เทศกิจ’ เชิญไปจ่ายค่าปรับ




Wed, 2015-07-01 20:18

1 ก.ค.2558 เมื่อเวลา 14.41น. ที่ผ่านมา บริเวณฟุตบาทหน้ากำแพงประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย หรือ LLTD จัดกิจกรรมนอนในกรงขัง ร่วมต่อสู้คู่ขนานไปกับเพื่อน 14 นักศึกษานักกิจกรรมขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ที่ถูกฝากขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไม่มีกำหนดสิ้นสุด เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัว 14 คน โดยไม่มีเงื่อนไข หลังถูกดำเนินคดีฝ่าฝืนประกาศ คสช.และ ม.116 ในกิจกรรมรำลึก 1 ปี รัฐประหารและกิจกรรมต่อเนื่องจากนั้น

โดย LLTD อธิบายถึงกิจกรรมกรงขังจำลองดังกล่าวในเฟซบุ๊กแฟนเพจกลุ่ม ว่า เพื่อให้บุคคลทั่วไปที่สนใจร่วมกิจกรรมเข้าไปนั่งอยู่ด้านใน เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงการไม่เห็นด้วยต่อการที่คสช. ได้จับกุมนักศึกษาและนักกิจกรรมผู้เรียกร้องประชาธิปไตยทั้ง14 คน เพื่อแสดงจุดยืนในการร่วมต่อสู้ไปกับผู้เรียกร้องประชาธิปไตยทั้ง14คน

LLTD ยังระบุว่าเพื่อต้องการจะแสดงให้เห็นว่า “สถานการณ์ในเวลานี้เราถูกจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกในที่สาธารณะ เปรียบได้กับชีวิตปกติข้างนอกเรือนจำก็ถูกกรงที่มองไม่เห็นขังและควบคุมเราอยู่ตลอดเวลาโดยที่เราไม่รู้ตัว และมักคิดว่าเป็นเรื่องปกติ"

ล่าสุดเมื่อเวลา 17.46 น. ที่ผ่านมา LLTD รายงานสถานการณ์ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจด้วยดังนี้

 

การเคลื่อนไหวของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ จนถึงวันถูกจับกุม



Wed, 2015-07-01 19:27

ทีมข่าวการเมือง

        ไล่เรียงเหตุการณ์การก่อตัวขึ้นของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ จากวันครบรอบหนึ่งปีรัฐประหาร จนถึงวันที่ถูกจับกุมตัว

         แม้จะมีความเสี่ยงที่จะถูกจำคุกเป็นเวลา 7 ปี + 6 เดือน ภายใต้กระบวนการยุติธรรมบนศาลทหาร แต่นักศึกษา นักกิจกรรม กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่(New Democracy Movement-NDM) ยังคงยึดมั่นในแนวทางของพวกเขา ภายใต้หลักการ 5 ข้อคือ 1.หลักประชาธิปไตย 2.หลักความยุติธรรม 3.หลักการมีส่วนร่วม 4.หลักสิทธิมนุษยชน และ5.หลักสันติวิธี พร้อมกับการประกาศอารยะขัดขื่น จนถึงวันที่ถูกจับกุม

        กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2558 ซึ่งเป็นวันครบรอบหนึ่งปีการทำรัฐประหารของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นคือ การออกมาแสดงออกทางการเมืองเชิงสัญลักษณ์ ทั้งที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จังหวัดขอนแก่น และที่หอศิลปวัฒธรรมกรุงเทพมหานคร

         การออกมาเคลื่อนไหวที่ขอนแก่นเป็นกิจกรรมของ 7 นักศึกษากลุ่มดาวดิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีการชูป้ายผ้าที่ระบุข้อความว่า “คัดค้านรัฐประหาร” พร้อมทั้งบอกเล่าเรื่องราวผลพวง ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านในพื้นที่ต่างๆ จากการทำรัฐประหาร และพวกเขาก็ถูกจับกุมภายในเวลาไม่นาน โดยเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจทั้งใน และนอกเครื่องแบบหลายสิบคน ก่อนถูกต้องข้อหาฐานฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. และได้รับประกันตัวในวันรุ่งขึ้น

         ขณะ การเคลื่อนไหวที่ หน้าหอศิลป์ฯ กรุงเทพฯ เป็นกิจกรรมของนักศึกษา และนักกิจกรรมหลากหลายกลุ่ม ที่รวมตัวกันเฉพาะกิจ โดยกิจกรรมที่พวกทำชื่อกิจกรรมว่า “ศุกร์ 22 มาฉลองกันมะ?” เป็นการนัดหมายกันมายืนดูนาฬิกา โดยสงบเป็นเวลา 15 นาที เพื่อรำลึกถือหนึ่งปีที่ผ่านมาว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับประเทศไทยบ้าง แต่แล้วเหตุการณ์ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ก่อนถึงเวลานัดหมาย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 1 กองร้อย เฝ้าประจำการอยู่บริเวณหน้า หอศิลป์ฯ พร้อมกับมีแผงเหล็กกั้น ห้ามเข้าในบริเวณที่จะมีการจัดกิจกรรม

  • 18.20 น.นัชชชา กองอุดม นักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ ถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวไปพูดคุย ก่อนจะถูกอุ้มขึ้นรถขอเจ้าหน้าที่ เพื่อควบคุมตัวไปที่ สน.ปทุมวัน ต่อมาเวลา 19.00 น. มีนักศึกษาที่ออกมาทำกิจกรรม ถูกเจ้าหน้าที่รวบตัวไปทั้งหมด 9 คน ขณะที่ยังมีนักศึกษา นักกิจกรรมอีกประมาณ 20 คน นั่งคล่องแขน ล้อมวง และร้องเพลงเพื่อมวลชน พร้อมทั้งเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวเพื่อนที่ถูกควบคุมตัวทั้งที่ขอนแก่น และกรุงเทพฯ

       ขณะที่รอบนอกห้อมล้อมไปด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ราว 100 คน จากนั้นเวลาประมาณ 21.00 นักศึกษา และนักกิจกรรมทุกคน ได้ถูกเจ้าหน้าที่รวบตัวมาที่ สน.ปทุมวัน และถูกปล่อยตัวออกมาในเช้าวันรุ่งขึ้น รวมทั้งสิ้นมีผู้ถูกจับกุม 37 คน โดยไม่มีใครถูกตั้งข้อกล่าวหาในวันนั้น ก่อนที่จะมีนักศึกษา นักกิจกรรม จำนวน 9 คน ได้รับหนังสือเรียกตัวให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา ในวันที่ 8 มิ.ย. 2558

        ทั้งสองเหตุการณ์นี่กลายเป็นชนวนใหญ่จุดหนึ่ง ที่ทำให้ขบวนกรประชาธิปไตยใหม่ก่อตัวขึ้น ก่อนจะประกาศตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 มิ.ย. 2558 พร้อมกับการประกาศอารยะขัดขื่นของ 7 นักศึกษาจากกลุ่มดาวดิน

         กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (New Democracy Movement-NDM) เป็นกลุ่มนักศึกษา นักกิจกรรม จากหลากหลายกลุ่มที่มารวมตัวกัน อาทิ กลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย(LLTD) กลุ่มประชาคมจุฬาเพื่อประชาชน(CCP) กลุ่มดาวดิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น กลุ่มเสรีนนทรี มหาวิทยลัยเกษตรศาสตร์ กลุ่มลูกชาวบ้าน มหาวิทยาลัยบูรพา กลุ่มสหพันธ์นิสิตนักศึกษาเยาวชนนักเรียนปาตานี (PerMAS) และสมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.) ฯลฯ รวมทั้งชาวบ้านที่รับผลพวง ผลกระทบจากการทำรัฐประหาร ทั้งจากกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด จังหวัดเลย กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนามูล-ดูลสาด จังหวัดขอนแก่น และอีกหลากหลายกลุ่มรวม 20 องค์กร


ไล่เรียงเหตุการณ์ จากครบรอบหนึ่งปี รัฐประหาร จนถึงวันที่ถูกจับกุม

  • 22 พ.ค. 2558 - มีการเคลื่อนไหวของนักศึกษา นักกิจกรรม 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ ดาวดิน 7 คน ชูป้ายคัดค้านรัฐประหาร ที่อนุสารีย์ประชาธิปไตย จังหวัดขอนแก่น และกลุ่มหน้าหอศิลปฯ ทำกิจกรรม “ศุกร์ 22 มาฉลองกันมะ” เป็นการนัดรวมตัวมายืนมามองนาฬิกา เป็นเวลา 15 นาที เพื่อรำลึกถึงประเทศไทย ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่าน จากเหตุการณ์ทั้งสอง มีผู้ถูกจับกุมและตั้งข้อกล่าวหาที่ขอนแก่น 7 คน และที่กรุงเทพ 37 คน ซึ่งในจำนวน 37 คน ต่อมาถูกตั้งข้อกล่าวหา 9 คน






รายชื่อผู้ถูกตั้งข้อกล่าวหาประกอบด้วย

9 คนที่กรุงเทพฯ ประกอบด้วย
 
  • 1.พรชัย ยวนยี 
  • 2.ทรงธรรม แก้วพันพฤกษ์ 
  • 3.รัฐพล ศุภโสภณ 
  • 4.ปกรณ์ อารีกุล 
  • 5.อภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ 
  • 6.รังสิมันต์ โรม 
  • 7.ชาติชาย แกดำ 
  • 8.นัชชชา กองอุดม 
  • 9.ชลธิชา แจ้งเร็ว

7 คนที่ขอนแก่น ประกอบด้วย 
  • 1.ศุภชัย ภูครองพลอย 
  • 2.อภิวัฒน์ สุนทรารักษ์ 
  • 3.ภานุพงษ์ ศรีธนานุวัฒน์ 
  • 4.วสันต์ เสตสิทธิ์ 
  • 5.จตุรภัทร บุญภัทรรักษา 
  • 6.จตุรภัทร บุญภัทรรักษา 
  • 7.สุวิชา พิทังกร

  • 8 มิ.ย. 2558 - มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ และเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยมีการรวมตัวกันอ่านแถลงการณ์ที่หน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จังหวัดขอนแก่น และบอกเล่าปัญหาผลกระทบในพื้นที่ต่างๆ หลังการรัฐประหาร และเป็นวันที่ 7 ดาวดิน ประกาศอารยะขัดขืนไม่ไปรายงานตัวตามหมายเรียกรายงานตัว


  • 19 มิ.ย. 2558 - เป็นวันวันสุดท้ายที่จะสิ้นสุดการผ่อนผันรายงานตัวตามหมายเรียก มารับหาข้อกล่าวหาของ สภ.เมืองขอนแก่น ในข้อกล่าวหา "ร่วมกันมั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คน ขึ้นไป" ในวันนี้มีนักศึกษากลุ่มดาวดิน ถูกควบคุมตัว 3 คน เนื่องจากพยายามนำรูปวาดของเพื่อนๆ ทั้ง 7 คน ไปวางไว้ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจังหวัดขอนแก่น ก่อนจะถูกปล่อยตัวออกมาโดยไม่มีการตั้งข้อกล่าวหา

  • 20 มิ.ย. 2558 - 7 นักศึกษากลุ่ม ดาวดิน ปรากฏตัวที่บ้านนาหนองบง อ.วังสะพุง จ.เลย พร้อมประกาศให้เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจเข้ามาจับกุม โดยที่ทั้ง 7 คนจะไม่ขัดขื่น และชาวบ้านจะไม่มีการต่อต้านใดๆ โดยได้ระบุว่า สาเหตุที่ต้องการให้เจ้าหน้าที่มาจับกุมในพื้นที่นี้ เนื่องจากพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ทองคำ และเป็นพื้นที่ที่พวกเขาได้ร่วมเรียนรู้ปัญหาชาวบ้าน และร่วมเรียกร้องความเป็นธรรมร่วมกันกับชาวบ้านในพื้นที่ ทั้งนี้ เฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘ดาวดิน สังกัดพรรคสามัญชน’ เผยแพร่วิดีโอคลิปทั้ง 7 คน เต้นประกอบเพลง ‘รอฉันรอเธออยู่’ พร้อมโพสต์ข้อความด้วยว่า “รอฉันรอเธออยู่ แต่ไม่รู้เธออยู่หนใด เธอจะมาเธอจะมาเมื่อไหร่ เธอจะมาเธอจะมาเมื่อไร ขู่ฉันไว้ทำไมไม่มา”

  • 23 มิ.ย. 2558 - เฟซบุ๊กแฟนเพจ ดาวดิน สังกัดพรรคสามัญชน ได้เผยแพร่ คลิปการพูดคุยกันระหว่าง นิธิ เอียวศรีวงศ์ กับนักศึกษากลุ่มดาวดินทั้ง 7 คน ผ่าน โปรแกรมวิดีโอคอล โดยในช่วงแรกเป็นการพูดคุยระหว่าง นิธิ กับชาวบ้านนาหนองบง อ.วังสะพุง จ.เลย ชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ทองคำ และได้ร่วมต่อสู้มากับกลุ่มดาวดินอย่างต่อเนื่องในประเด็นเรื่องสิทธิชุมชน ปัญหาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ โดยการพูดคุยเป็นไปด้วยความเป็นกันเอง มีการทักทาย และฝากฝัง 7 ดาวดินให้ชาวบ้านช่วยดูแล ด้านชาวบ้านเองตอบกลับนิธิว่า พร้อมจะยืนคู่กับลูกๆ จนกว่าพวกเขาจะถูกจับกุม (อ่านข่าวที่นี่)

  • 24 มิ.ย. 2558 - เป็นวันที่ 8 นักศึกษา นักกิจกรรม (ชาติชาย แกดำ ได้เข้าไปรายงานตัวตามหมายเรียกก่อนหน้านี้แล้ว และได้รับการประกันตัวออกมาสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม บนศาลทหาร) หน้าหอศิลป์ฯ นัดหมายกันไปเข้าแจ้งความ กรณีถูกเจ้าหน้าเข้าจับกุมโดยใช้กำลังเกินกว่าเหตุในเวลา 13.00 น.

          แต่ช่วงเช้า นัชชชา กองอุดม กลับถูกเข้าควบคุมตัวที่ รพ.วิภาวิดี หลังเจ้าตัวข้ารักษาทอนซินอักเสบตั้งแต่ 22 มิ.ย. โดยนำตัวมาฝากขังศาลทหาร ศาลให้ประกันตัวแต่มีเงื่อนไขห้ามชุมนุมทางการเมือง และห้ามยั่วยุปลุกปั่นให้เกิดการชุมนุมทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยในขณะที่ถูกควบคุมตัว ณ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นัชชชา ได้ถูกควบคุมตัวรวมกับบุคคลที่เข้าสู่กระบวนการฝากขังเพศชาย ซึ่งในระหว่างการตรวจสภาพร่างกาย นั้น คุณนัชชชาได้ถูกพนักงานเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เข้าสู่กระบวนการฝากขัง คุกคามทางเพศโดยทางวาจาอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ในตลอดระยะเวลาที่ทำการตรวจร่างกาย แม้ว่าทนายความของนัชชชาจะเสนอขอให้เจ้าหน้าที่ผู้หญิงเป็นผู้ดำเนินการแล้วก็ตามหากเจ้าหน้าที่ของทางเรือนจำยังคงให้เจ้าหน้าที่ชายเป็นผู้ตรวจร่างกาย โดยให้ถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมดให้สวมเพียงกางเกงในเท่านั้น

         ในช่วงบ่ายของวันที่ 24 มิ.ย. 2558 7 ดาวดิน จากขอนแก่น ปรากฎตัวหน้า สน.ปทุมวัน เข้าให้กำลังใจกลุ่มเพื่อน 7 คนจากหน้าหอศิลป์ รวมตัวกันเป็น 14 คน จากกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ และได้ประกาศจุดยืนหน้า สน.ปทุมวัน ว่าเหตุที่มาในวันนี้ไม่ได้เข้ามารายงานตัวตามหมายเรียกแต่อย่างใด เพราะไม่ยอมรับอำนาจของรัฐบาลเผด็จการ แต่ต้องการจะมาแจ้งความเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าจับกุมพวกตนโดยใช้กำลังเกินกว่าเหตุ พร้อมกันนี้ทางกลุ่มได้นำเอารูปภาพที่เป็นหลักฐานยืนยันว่าเจ้าหน้าที่มีการใช้กำลังเกินกว่าเหตุจริง โดยมีความตั้งใจเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษตำรวจและทหารระดับผู้บังคับบัญชา 3 นายคือ พ.ต.อ. จารุต ศรุตยาพร, พ.ท.ภาสกร กุลรวิวรรณ, พ.อ.สุวิทย์ เกตุศรี ซึ่งได้ควบคุมเหตุการณ์ในวันดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 84, 90, 91, 157, 295,296,309,310



         ทั้งนี้ด้านหน้า สน.ปทุมวันได้มีการตั้งแผงเหล็กกั้น พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบเฝ้าประจำการอยู่ประมาณ 1กองร้อย ข้อเรียกร้องแรกของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ คือการขอเข้าไปแจ้งความ โดยขอให้เจ้าหน้าที่เปิดทาง และเปิดพื้นที่ให้มวลชนที่มารอให้กำลังใจ เข้าไปรออยู่ด้านหน้า สน. ได้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมรับในข้อเรียกร้อง และต้องการเพียงแค่เปิดทางให้เฉพาะผู้เข้าแจ้งความเท่านั้นที่สามารถเข้าไปใน สน. ได้ จนถึงเวลาประมาณ 18.00 เจ้าหน้าที่จึงยอมรับตามข้อเสนอกลุ่ม จนกระทั่งเสร็จสิ้นในเวลา 21.40 น. ได้มีการประกาศสลายตัว

        ขณะที่ก่อนกลับ 7 คนจากกลุ่มดาวดินได้ประกาศทวงถามหมายจับ จากที่มีข่าวลือว่ามีการออกหมายจับแล้ว และหมายจับมาถึงที่สน.ปทุมวัน แล้ว พร้อมเรียกร้องให้ พันเอกบุรินทร์ ทองประไพ ซึ่งอยู่ภายใน สน. ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่าเป็นความจริงไม่ ทั้งนี้ ไผ่ จตุรภัทร บุญภัทรรักษา ได้กล่าวว่า ตนและเพื่อนไม่ได้กลัวการถูกจับกุม ถ้าจะก็ขอให้จับตอนนี้เลย ขอร้องอย่าจับกุมระหว่างทาง เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย ของตนเองและเพื่อนๆ แต่ไม่การออกมาชี้แจงจากพันเอกบุรินทร์ แต่อย่างใด

        ทั้งนี้ได้มีเหตุการณ์ชุลมุนอยู่ช่วงหนึ่ง ซึ่ง 7 คนจากกลุ่มดาวดินได้ประกาศขอเดินเข้าไปด้านใน สน. เพื่อขอดูหมายจับ ว่ามีจริงหรือไม่ ได้มีการพยามผลักแผงเหล็กกั้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ดันแผงเหล็กเอาไว้ แต่ไม่ได้มีการใช้ความรุนแรงระหว่างเจ้าหน้าที่ และมวลชนแต่อย่างใด


          ระหว่างทางกลับที่พัก ที่สวนเงินมีมา 7 คนจากกลุ่มดาวดิน ถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบขึ้นรถติดตามอยู่ตลอดทาง ขณะที่เวลาประมาณ 22.50 น. ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด หนึ่งในผู้ต้องหาคดี "หน้าหอศิลป์" ถูกตำรวจนอกเครื่องแบบราว 5-6 คน แสดงตัวและขอควบคุมตัวบนสะพานลอยบนถนนพระราม 4 ขณะกำลังเดินทางกลับบ้านกับเพื่อนๆ หลังเดินออกจาก สน.ปทุมวัน

         ลูกเกดให้สัมภาษณ์กับผู้สือข่าวว่า เขาแสดงหมายจับและขอควบคุมตัว เธอพยายามโต้เถียงและสุดท้ายด้วยความเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันจึงบอกว่ายินดี ให้จับ จะพาไปไหนก็ไป เดี๋ยวจะแจ้งทนาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ติดต่อผู้บังคับบัญชาก่อนจะกล่าวขอโทษและบอกว่าไม่จับแล้ว

     "หนูก็บอกว่าจะจับก็จับเลย จะพาไปไหนก็ไป จับจับไปเลย ไม่ไหวแล้ว เขาก็โทรหาเจ้านายบอกว่าเป้าหมายอยู่กับผมแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็ไม่จับแล้วก็ขอโทษ คิดว่าเขาคงแยกทีมกันติดตามเป้าหมายแต่ละคน อย่างของเกดนี่เขาตามมาตั้งแต่ตอนกลางวันแล้วเท่าที่สังเกตดู" ลูกเกดกล่าว

  • 25 มิ.ย. 2558 - ตั้งแต่ช่วงเช้า ที่หน้าทางเข้าสวนเงินมีมา มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเฝ้าประจำการอยู่ตลอด แต่ไม่ได้มีการเข้าไปจับกุม 14 คนในขบวนการประชาธิปไตยใหมแต่อย่างใด ทั้งนี้ในช่วงเช้าทางกลุ่มฯ ได้มีการตั้งโต๊ะแถลงข่าว ถึงจุดยืนอีกครั้ง โดยประกาศว่าพร้อม และยินดีที่จะถูกจับกุม แต่จะไม่เข้ามอบตัวเอง เนื่องจากไม่ยอมรับอำนาจ คสช. ทั้งนี้หากเจ้าหน้าที่ยังไม่ดำเนินการเข้าจับกุม ทางกลุ่มประกาศว่าจะเคลื่อนไหวอีกครั้ง โดยประกาศนัดพบกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในเวลา 17.00 น.

      ต่อมาในเวลา 14.20 อดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 พร้อมนายทหารนอกเครื่องแบบ เดินเข้ามาขอให้นักศึกษาคุยกันก่อน โดยขอว่า อย่าเพิ่งออกไปเคลื่อนไหว แต่ไม่เป็นผล พร้อมกันนั้นขบวนการประชาธิปไตยใหม่ได้รวมตัวร้องเพลง และเดินออกไปขึ้น ปอ.6 เพื่อไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจนอกเครื่องแบบขับรถจักยานยนต์ตามไปด้วย

       ปกรณ์ อารีกุล 1 ใน 14 คน ในขบวนการประชาธิปไตยใหม่ที่ถูกออกหมายจับ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ จะเป็นการทัวร์ทางประวัติศาสตร์ โดยจะเริ่มต้นกันที่ ลานประติมากรรมประวัติศาสตร์ ที่มหาวิทลัยธรรศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จากนั้นจะไปต่อที่ อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

        กิจกรรมการทัวร์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ถูกเฝ้าจับจากเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นอกเครื่องแบบตลอดเวลา แต่ก็ยังไม่มีการบุกเข้าจับกุม หรือสั่งห้ามทำกิจกรรมแต่อย่างใด มีเพียงการเดินเข้าบอกกับทางกลุ่มฯ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบว่า สิ่งที่ขบวนการประชาธิปไตยทำอยู่นั้น เป็นสิ่งที่ผิดกฏหมาย

        เมื่อเดินทางมาถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ได้ออกมาเล่าถึงเหตุผลที่ออกมาต่อต้านการทำ รัฐประหาร โดยให้เหตุผลว่า ในระบอบเผด็จการมีการใช้อำนาจเอื้อผลประโยชน์ให้กับนายทุน และประชาชนเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ไม่มีช่องทางที่จะออกมาเรียกร้องอะไรได้เลย เช่นกรณีการขุดเจาะปิโตรเลียมบ้านนามูล-ดูลสาด กรณีเหมื่องแร่เมืองเลย ฉะนั้นการต่อสู้ในประเด็นเรื่องสิทธิชุมชน และผลกระทบจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ จึงการเป็นเรื่องเดียวกันกับการคัดค้านรัฐประหาร

         เมื่อรัฐบาลทหาร ออกมาปกครองบ้านเมือง มีการออกกฎหมายโดยไม่มีการรับฟังเสียง หรือความคิดเห็นของประชาชน อย่างเช่นเรื่องการผลักดันกฎหมายมหาวิทยาลัยนอกระบบ

       อีกทั้งภายใต้ระบอบเผด็จการ กระบวนการยุติธรรมไม่มีความชอบธรรมอย่างแท้จริง รัฐบาลอ้างกฎหมายพิเศษ ในการจัดการกับผู้คนที่เห็นต่าง ผู้บริสุทธิ์ หลายคนต้องติดคุก เมื่อไม่มีประชาธิปไตย ความยุติธรรมจึงไม่เกิดขึ้น

         ขณะที่ รังสิมันต์ โรม ได้ประกาศที่หน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยว่า “มาตรา 44 ไม่ใช่กฎหมาย ประชาชนทุกคนจึงไม่ต้องพึงเคารพ ประกาศหรือความสั่งของคณะรัฐประหาร ไม่ว่าฉบับใด ประชาชนไม่พึงเคารพ เราจะเคารพแต่กฎหมายที่ออกโดยผู้แทนของประชาชนเท่านั้น รัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลของประชาชน ไม่อาจจะเรียกว่าเป็นรัฐบาลได้ เป็นแต่เพียงกบฎยึดอำนาจเท่านั้น เมื่อกบฎทำผิดมาตรา 113 ตามประมวลกฎหมายอาญาซึ่งมีโทษประหารชีวิต จะมาออกคำสั่งหรือประกาศใดๆ ให้ประชาชนปฏิบัติตาม ประชาชนพึ่งมีหน้าที่เพื่อต่อต้านคำสั่งหรือประการนั้น”

         ทั้งนี้ในเวลา 19.06 น. กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ได้ยุติกิจกรรม และเดินคล้องแขนกันขึ้นรถกลับที่พัก




  • 26 มิ.ย. 2558 - เมื่อเวลา 14.20 น. 14 คน ในขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ประกาศยืนยันหลักการ 5 ข้อ และยืนยันไม่เจรจา ไม่ต่อรองใดๆ กับรัฐบาลทหาร แต่ยอมรับการถูกจับกุมตามข้อกล่าวหา พร้อมยังได้เรียกร้องนายกรัฐมนตรีและ ผบ.ทบ. ให้เปิดเผยตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ให้ชัดเจน ไม่ควรพูดกล่าวหาแบบคลุมเครือ

        ขณะที่เวลาประมาณ 16.32 น. ที่ศาลทหารกรุงเทพฯ พ.ต.ท.มานิตย์ ทองขาว พนง.ผู้ชำนาญการพิเศษ สน.สำราญราษฎร์ ได้ขอหมายจับจากศาลทหารฯ ลงวันที่ 26 มิ.ย. 2558 โดยจับกุมกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ประกอบไปด้วย

  • 1.นายรังสิมันต์ โรม(โรม) 
  • 2. นายวสันต์ เสดสิทธิ(โต้ง) 
  • 3.นายทรงธรรม แก้วพันพฤกษ์(เดฟ) 
  • 4.นายพายุ บุญโสภณ(พายุ) 
  • 5.นายอภิวัฒน์ สุนทรารักษ์(น้อย) 
  • 6.นายรัฐพล ศุภโสภณ(บาส) 
  • 7.นายศุภชัย ภูคลองพลอย(อาตี้) 
  • 8.นายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์(หนุย) 
  • 9.นายภาณุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์(ไนท์) 
  • 10.นายสุวิชา พิทังกร(เบส) 
  • 11.นายปกรณ์ อารีกุล(แมน) 
  • 12.นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา(ไผ่) 
  • 13.นายพรชัย ยวนยี(แซม) 
  • 14. น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว(ลูกเกด)

         ในข้อหาร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด มิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราช อาณาจักร และรวมกันมั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมืองที่ใดๆที่จำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2558 ข้อ 12 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116

          ทั้งนี้ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ มีการอนุมัติหมายจับทั้ง 14 คนแล้ว ในข้อหาเดียวคือ ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่3/2558

  • 17.20 น. ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ เข้ามาในสวนเงินมีมา ซึ่งเป็นที่พักของกลุ่มนักศึกษาที่ถูกออกหมายจับ โดยเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายจับผู้ต้องหาทีละราย ก่อนจะให้มานั่งรวมกัน โดยไม่มีการใส่กุญแจมือ ขณะที่เพื่อนนักกิจกรรม-นักศึกษาคนอื่นๆ ที่ไม่โดนหมายจับ ร่วมร้องเพลงให้กำลังใจอยู่ในบริเวณเดียวกัน
        ขณะเดียวกัน ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ที่ ทั้ง 14 คน เล่าใฟ้ฟังถึงวินาทีของการจับกุมว่า ไผ่ เบส น้อย กำลังเล่นปิงปองกันอยู่ ขณะที่เจ้าหน้าที่เดินเข้ามาไผ่บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า “จะจับก็จับ แต่ขอตีปิงปองอีกเกสม์หนึ่ง” ส่วนบาสนอนอ่านหนังสืออยู่ โรม นั่งกินกาแฟอยู่ที่ใต้ร่มไม้ แซมนั่งคุยกับภรรยาอยู๋เงียบๆ แมนนอนหลับพักผ่อนไม่ห่างจากที่เล่นปิงปองเท่าไหร่ หนุ่ยนั่งอยู่โต๊ะตัวนึงเขี่ยไอแพตอยู่ พายุกับไนซ์กำลังนั่งเล่นฟีฟ่าออนไลน์ ชูศรีกับพี่โต้งกำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่แถวๆ โรมกำลังกินกาแฟ ส่วนพี่ลูกเกดนั่งอยู่กับแฟนพูดคุยกันตามปกติใต้ถุนห้องสมุด ส่วนเดปเดินออกมานั่งข้างๆ บาส

  • 17.35 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวทั้ง 14 คนขึ้นไปบนรถควบคุมผู้ต้องหาคันเดียวกัน โดยไม่มีผู้ติดตามขึ้นไปด้วย และยังไม่ทราบจุดหมายปลายทาง ขณะที่เพื่อนๆ ร้องเพลง "บทเพลงของสามัญชน" ส่ง

  • 00.20 น. ผู้สื่อข่าวแจ้งว่า ศาลทหารอนุญาตให้ฝากขังนักศึกษาและนักกิจกรรมทั้ง 14 รายเป็นเวลา 12 วัน โดยทนายคัดค้านคำร้องขอฝากขังแต่ไม่เป็นผล และกำลังจะนำตัวผู้ต้องหาไปยังเรือนจำ ผู้ชาย 13 คนไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ขณะที่ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ ลูกเกด ซึ่งเป็นนักศึกษาหญิงเพียงคนเดียวจะถูกส่งตัวไปยังทัณฑสถานหญิงกลาง

  • 00.30 น. ประชาชนและนักศึกษาที่รออยู่ด้านหน้าศาลหลักเมือง หลังทราบข่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 14 คนจะถูกส่งตัวไปเรือนจำ ก็ได้ร่วมกันจุดเทียน ร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธาและบทเพลงของสามัญชน ระหว่างที่รถห้องขังกำลังจะนำผู้ต้องหาทั้งหมดออกจากศาลทหารสู่เรือนจำ







  • 27 มิ.ย. 2558 - กิจกรรมของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ยังเดินหน้าต่อไป