วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2557

รอง ผบ.ตร. แถลงจับกุมผู้ต้องหาใช้อาวุธสงคราม ก่อเหตช่วงชุมนุม กปปส.


รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการจับกุมอีก 1 ผู้ต้องหา เครือข่ายอาวุธสงครามอยุธยา ก่อเหตช่วงการชุมนุม กปปส.
13 ส.ค.2557 เมื่อเวลา 11.30 น. ที่สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการจับกุมตัว นายวัฒนา หรือนายศิวะ ทรัพย์วิเชียร อายุ 51 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี เลขที่ 14ก./2557 ลงวันที่ 29 มิ.ย. 2557 ข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุน หรือวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะในการสงครามที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้จับกุมนายสมเจตน์ คงวัฒนะ หรือสน เครือข่ายวังน้อย ผู้ที่ทำการแจกจ่ายอาวุธ เช่น เอ็ม 79 ระเบิดอาร์จีดี 5 ให้บุคคลต่างๆ ไปเพื่อสร้างความวุ่นวายแก่ประชาชนในช่วงที่มีการชุมนุม ได้ซัดทอดว่าได้ส่งมอบอาวุธให้นายวัฒนาเพื่อให้นำไปแจกจ่ายอีกทอด เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนข้อเท็จจริงก่อนออกหมายจับ จากนั้นได้นำกำลังไปทำการจับกุมตัวนายวัฒนา จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
โดยนายวัฒนา สารภาพว่า ได้นำอาวุธส่วนหนึ่งไปฝังไว้ที่ อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และส่วนหนึ่งนำไปมอบให้ นายชัยวัฒน์ กาละแม เพื่อใช้ก่อเหตุช่วงที่มีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่ไม่แจ้งรายละเอียดว่าเป็นจุดใด ส่วนตัวไม่ได้ลงมือเอง
ขณะเดียวกัน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เตรียมนำตัว นายอภิชาติ พวงเพ็ชร ผู้ต้องหาคดีระเบิด ที่นำอาวุธไปมอบให้พวก ก่อเหตุที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และถนนบรรทัดทอง ซึ่งรับสารภาพว่า รับระเบิด อาร์จีดีไฟว์ - RGD-5 จำนวน 20 ลูก มาจาก นายสมเจตน์ เครือข่ายเดียวกัน ไปชี้จุดที่ทิ้งระเบิด 2 ลูก ในคลองแสนแสบ ใกล้วัดพระยายัง ถนนพระราม 6 เนื่องจาก กลัวความผิด
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่ง ตร.ที่ 312/2557 ลงวันที่ 20 มิ.ย. 2557 และคำสั่ง ตร.ที่ 346/2557 ลงวันที่ 14 ก.ค. 2557 มีคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบโดยมีผู้ต้องหารวม 148 คน ถูกจับกุมแล้ว 116 คน ยังหลบหนีแต่ถูกออกหมายจับแล้ว 32 คน จำแนกเป็นคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) 27 คดี, กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 จำนวน 25 คดี, กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 จำนวน 6 คดี, กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จำนวน 2 คดี, กองบังคับการปราบปราม 10 คดี รวมทั้งหมด 70 คดี นอกจากนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นและมีคำสั่งฟ้องแล้ว 7 คดี
ทั้งนี้นายวัฒนา ทรัพย์วิเชียร มีชื่อและเข้ารายงานตัวตามคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 61/2557 เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมาด้วย