วันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ภาคประชาชนแถลงย้ำ 30 บาทรักษาทุกโรคไม่ใช่ประชานิยม แต่เป็นรัฐสวัสดิการ



              ภาคประชาชนแถลงย้ำ 30 บาทรักษาทุกโรคไม่ใช่ประชานิยม แต่เป็นรัฐสวัสดิการ ประชาชนเป็นเจ้าของ วอน คสช.อย่าสร้างความทุกข์ให้ประชาชน แช่แข็งงบรายหัว ไม่เห็นด้วยข้อเสนอสธ.ให้ร่วมจ่าย ย้ำประชาชนจ่ายผ่านภาษีแล้ว อย่าปั้นข้อมูลเท็จว่าระบบจะล้มจนผลักภาระมาให้ประชาชน ถามประธานบอร์ดสปสช.เมื่อไหร่จะเรียกประชุมบอร์ด ตอนนี้วาระอนุมัติยาไวรัสตับอักเสบซีค้างกว่า 2 เดือน กระทบผู้ป่วยไม่ได้ยา เตือนสธ.อย่าปฏิรูปโดยไม่ฟังเสียงประชาชน ไม่ควรจับประชาชนเป็นตัวประกันแล้วจะดึงอำนาจจัดสรรงบคืน ข้องใจทำไมสธ.อ้างช่วงปฏิรูป เลยต้องงดร่วมมือกับสปสช.


             วันที่ 8 กรกฎาคม 2557 ณ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ แถลงจุดยืนประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม ระบบสุขภาพมาตรฐานเดียว ย้ำประชาชนต้องมีหลักประกันด้านสุขภาพที่เป็นธรรม มีคุณภาพ โดยไม่ต้องร่วมจ่าย

              นางสาวบุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าวว่า ขณะนี้มีความเข้าใจกันว่า 30 บาทหรือบัตรทอง เป็นนโยบายประชานิยม ซึ่งนี่ถือเป็นการเข้าใจสิ่งเหล่านี้คือหลักประกันสุขภาพเพื่อประชาชน เป็นรัฐสวัสดิการ ไม่ใช่ของนักการเมือง แต่เป็นของประชาชนทุกคน เป็นกฎหมายฉบับแรกที่ประชาชนร่วมร่างและเข้าชื่อเสนอกฎหมาย นักการเมืองแค่ผ่านกฎหมายเท่านั้น ตอนนี้กระแสการปฏิรูปมาแรง แต่การปฏิรูประบบสุขภาพไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นในยุคนี้ มันเกิดมาแล้วตั้งแต่ปี 2545 เดิมมีแค่ สธ. ตอนนี้ก็มีสปสช.ขึ้นมาเป็นตัวแทนของประชาชน การพัฒนาควรจะดีขึ้น ไม่ใช่การเดินถอยหลัง การปฏิรูปต้องทำให้เกิดความเท่าเทียม ไม่ใช่ใครมีอำนาจ มาเป็นพระเอก การปฏิรูป ไม่ควรใช้ความรู้สึกของตัวเอง วันนี้ขอส่งเสียงไปถึงคสช. ว่าหลักประกันสุขภาพเป็นของประชาชน ไม่ใช่ประชานิยม


            “สถานการณ์ระบบสาธารณสุขตอนนี้ ถือว่ามีความเปราะบางมาก ล่าสุด วันที่ 4 ก.ค. ก็มีหนังสือจากกระทรวงสธ. ลงนามโดยนพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดสธ. ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการปฏิรูป จึงขอไม่ให้ความร่วมมือกับสปสช. ถามว่า นี่เป็นนโยบายของคสช.หรือไม่ว่าการปฏิรูปต้องหยุดความร่วมมือ เท่ากับตอนนี้สธ.กำลังแช่แข็งระบบสาธารณสุขของประเทศนี้ การปฏิรูปต้องคำนึงถึงการตรวจสอบถ่วงดุลกัน ไม่ใช่ใครมีอำนาจแล้วจะมายึดอำนาจคืนไปที่สธ. ถือเป็นแนวคิดล้าหลัง การรัฐประหารครั้งนี้ อย่าให้เป็นหนีเสือปะจรเข้ ทำให้ประชาชนยากลำบาก 30 บาทหรือบัตรทอง ทำให้ประชาชนมีความั่นคง ดังนั้นก็อย่าทำให้ชีวิตพลเมืองต้องไม่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้” นางสาวบุญยืน กล่าว


              นายนิมิตร์ เทียนอุดม กรรมการหลักประกันสุขภาพสัดส่วนภาคประชาชน กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2557 มีงบเหมาจ่ายรายหัวที่ 2,895 บาท และในปี 2558 นั้น บอร์ดสปสช.เสนอของบรายหัวเพิ่มไปที่ 3,361 บาท ซึ่งได้มีการนำเสนอให้คสช.พิจารณาแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน และมีแนวโน้มว่าจะแช่แข็งงบเหมาจ่ายรายหัวให้ได้รับเท่าเดิมในปี 2557 ถ้าเป็นแบบนี้จริง เท่ากับว่า คสช.กำลังเพิ่มทุกข์ให้ประชาชน เพราะการเพิ่มงบประมาณเหมาจ่ายรายหัวเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาคุณภาพ โดยเฉพาะในภาวะที่มีโรคเพิ่มขึ้น มีการเจ็บป่วยเพิ่มมากขึ้น สปสช.มีการคำนวณว่า ถ้าได้รับงบเท่าเดิม จะทำให้ผู้ป่วยนอกไม่ได้รับบริการ 20 ล้านครั้ง และผู้ป่วยในก็จะหายไป 5 ล้านครั้ง ซึ่งนั่นเป็นประเด็นที่ว่าประชาชนจะเข้าไม่ถึงบริการ เพราะงบไม่พอ


              “ขณะเดียวกัน สภาวะตอนนี้ ไม่มีการประชุมบอร์ด จึงไม่สามารถอนุมัติสิทธิประโยชน์ใหม่ๆได้ ตอนนี้ยารักษาไวรัสตับอักเสบซี ก็ยังไม่ได้อนุมัติ ทำให้ผู้ป่วยเสียโอกาส ถ้าไม่ได้ยาก็พัฒนากลายไปเป็นมะเร็งตับ ค่ารักษาก็แพงอีก นี่เป็นความทุกข์ แต่ยังไม่ประชุมบอร์ดกว่า 2 เดือนแล้ว บอร์ดจะประชุมได้ ประธานต้องเรียก ก็ไปดูแล้วกันว่าใครเป็นประธาน แล้วทำไมถึงไม่เรียกประชุมบอร์ดเสียที ตรงนี้อยากฝากไปถึงคสช.ที่พูดตลอดเวลาว่าเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะ และวางรากฐาน แต่ตอนนี้เรื่องปฏิรูประบบสาธารณสุขยังไม่เห็นทิศทางที่ชัดเจน และไม่เคยมีข้อเสนอที่มาจากการมีส่วนร่วมของประชาชน” นายนิมิตร์กล่าว

             นายนิมิตร์ กล่าวว่า ส่วนประเด็นข้อเสนอร่วมจ่ายนั้น ทราบว่าสธ.ได้นำเสนอคสช.ให้ประชาชนต้องร่วมจ่ายในอัตรา 30-50% โดยให้เหตุผลว่า ถ้าไม่ทำอย่างนี้จะทำให้ระบบล้มละลาย ซึ่งนี่เป็นการให้ข้อมูลที่ผิดมาก การที่สธ.บอกว่าระบบหลักประกันสุขภาพจะอยู่ไม่ได้ เพราะใช้เงินเยอะ ไม่จริง เพราะรัฐจ่ายเพื่อสุขภาพเพียง 7% เท่านั้น ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มมาก ทั้งช่วยลดความยากจนในครัวเรือนได้ ถ้ารัฐจะผลักภาระตรงนี้ ทหารเกณฑ์ที่ใช้บัตรทองก็ต้องมาแบกรับด้วย


              นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี เอดส์ ประเทศไทย กล่าวว่า ถ้ามีการร่วมจ่ายจริง คนที่จะได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ คือผู้ป่วยเรื้อรัง ที่ผ่านมามีข้อกล่าวหาว่า ประชาชนไปใช้บริการเกินความจำเป็นนั้น เป็นการดูถูกประชาชนมากเกินไป เพราะไม่มีใครอยากเจ็บป่วย และเมื่อเจ็บป่วยต้องได้รับการรักษา หากต้องร่วมจ่ายก็จะทำให้บางคนไม่มีและไม่ได้รับการรักษา ส่วนใหญ่เป็นเด็ก คนจน ผู้สูงอายุ คนรับจ้างทั่วไป พวกเราเสียภาษีกันทุกคน ต้องทำให้ได้รับบริการเท่าเทียมเสมอหน้า ถ้าให้ผู้รับบริการต้องร่วมจ่าย ก็ต้องมีกลุ่มคนที่เข้าไม่ถึงบริการ และทำให้กลุ่มคนเจ็บป่วย กลายมาเป็นภาระของประเทศอีก หลักการระบบหลักประกันสุขภาพคือการเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุข พวกเราที่เป็นเครือข่ายเอชไอวี เราเป็นพลเมือง ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เค้าควรได้บริการที่ดี นี่เป็นหลักการตามหลักสิทธิมนุษยชน ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็น ดังนั้น คสช.ต้องคิดเรื่องนี้อย่างละเอียด

 http://www.hfocus.org/content/2014/07/7582#sthash.92CjlRGy.dpuf

เสียงจากสลิ่ม ! กูไม่เคยแชร์ แต่คราวนี้ต้องฟังสักหน่อย !


เสียงจากสลิ่ม ! กูไม่เคยแชร์ แต่คราวนี้ต้องฟังสักหน่อย !
แล้วได้แต่บอกว่า มันสะใจไหมน้อง !


สลิ่มทางใต้โอดครวญ

              เพื่อนใต้สองสามคนโทรมาบ่นเรื่องค้าขายแย่ เลย บอกมันให้ไปขอลุงกำนันกับ คสช.ช่วยสิ เพื่อนคนแรกมันทำรีสอร์ทอยู่ที่เกาะแถวตรัง โทร มาถามว่ามีลูกค้าอยากไปเที่ยวบ้างไหม คิดราคา พิเศษ เราก็บอกว่าไม่มีว่ะ ไม่ได้อยู่ในธุรกิจแล้ว มันก็บ่นว่าไม่มีแขกเลย จะตายอยู่แล้ว ห้องกูว่าง มาก ตอนนี้ลดคนงานชั่วคราวหมดลูกน้องประจำ ก็นั่งตบยุง ตอนนี้กินเงินเก่าสมัยรุ่งโรจน์ขาย รีสอร์ทคืนละหลายหมื่นอยู่แต่ค่าใช้จ่ายมันเดือน ละล้านกว่า กลุ้มมาก



             ส่วนอีกคนทำโรงยาง โทรมาจากสุราษฏร์ บอกว่า ยางราคาตกมาก เงินหายหมดเหมือนกัน แย่โว้ย ค้าขายไม่ได้ตังค์ ได้ก็ไม่พอใช้หนี้แล้วจะอยู่ อย่างไรกันดีคนต่อมาอยู่แถวตลาดกิมหยง หาดใหญ่ เหมือนกันลูกค้าหายหมด คนกรุงเทพ ฯ ก็ไม่ไปเที่ยว คนมาเลย์ก็หายหัว จะตายอยู่แล้ว สรุปก็คือตายลูกเดียวกันเป็นแถว

            แน่นอนเพื่อนพวกนี้เชียร์ กปปส. กันทั้งนั้น ควัก เงินควักทองบริจาคกันเป็นแสน ๆเพราะถือว่าคน ใต้ต้องเชียร์คนใต้ด้วยกัน และไอ้ทักษิณมันโกง มันจะล้มสถาบัน ลุงกำนันกับพรรคพวกคือวีรบุรุษ ผู้กล้าที่มากู้อิสรภาพประเทศให้พ้นจากระบอบ ทักษิณ มันพูดกับเราแบบนี้ทุกครั้งที่เจอกัน เราไม่ ค่อยพูดมาก บอกมันช่วงที่ผ่านมาว่า กูเห็นต่างนะ แต่มึงกับกูยังเป็นเพื่อนกันอยู่

             มาถึงคราวนี้เราก็เลยตอบพวกมันไปเหมือน ๆ กัน ทุกคนคือ “มึงไปขอลุงกำนัน กับ คสช.ช่วยสิ” แล้ว เราก็หัวเราะกัน เพราะขณะที่มันเชียร์ กปปส.นั้น มันก็ด่าแม่สุเทพเหมือนกันทุกคนว่า "แม่งเฮี่ย ฉิบหาย แต่กูก็ต้องเชียร์มัน เดี๋ยวมีปัญหากับชาว บ้าน กูหาแดกอยู่แถวนั้นต้องเล่นบทนี้ว่ะ"


            เศรษฐกิจไม่ใช่การเมือง แต่มันเป็นตัวกำหนด ทิศทางการเมือง เมืองไทยอย่าคิดจะดื้อด้านเรื่อง ปิดประเทศเลย ที่อ้างว่าพม่าเกาหลีเหนือยังทำได้ เราก็ต้องได้นั้น มันเป็นคำพูดของคนไม่เคยลงมือ ทำงาน ทำมาหากินไม่เป็น ไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจไทย ว่ามันมีโครงสร้างที่ต่างกันมากกับพม่าและ เกาหลีเหนือ ทุกวันนี้เศรษฐกิจของเราพึ่งพาการ ส่งออก ไม่ใช่เกษตรกรรมอีกแล้ว แค่มีข้าวกินก็ พอนั้นมันไม่พอหรอกวันนี้

             ท่องเที่ยวเจ๊ง อสังหาริมทรัพย์พัง ส่งออกเดี้ยง ประเทศลูกค้าหลักรวมหัวกันบอยคอตยาง ข้าว ราคาตก ชาวบ้านไม่มีกำลังซื้อ ฯลฯ กำลังตามมา กันอีกหลายระลอก ก็อยากจะดูว่า คสช.กับ กปปส.และพวกอนุรักษ์นิยมสามานย์จะทำอย่างไร กันต่อไป แต่ที่แน่นอนคนไทยธรรมดา ๆแบบเรา ๆท่าน ๆ แบบไอ้เพื่อนคนใต้ของเรา ตอนนี้กำลัง จะตายกันหมดแล้ว ถ้ายังไม่ไสหัวพวกเปรตนรก ทำลายชาติกลุ่มนี้ออกไปให้เร็วที่สุด



            ถ้าทีมงาน IO ของเครือข่ายสลิ่มผ่านมาอ่านและไม่เห็นด้วยก็ช่วยไปถามคนค้าขายดูว่าเขาแย่ เขาค้าขายตกวูบกันจริง ไหม เราไม่ได้มา IO เรื่องจริงทั้งนั้น เราหวังดีนะ จะได้คืนความสุขให้กับคนส่วนใหญ่ของประเทศ อย่างที่คสช. บอกว่าจะทำ

cr: Les Miserable.

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1395765217315105&set=a.1394923627399264.1073741827.1394923427399284