วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2557

อภิสิทธิ์เผย ผบ.สส.หนุนแนวทางแก้ปัญหา-ยิ่งลักษณ์ยืนยัน รบ.พร้อมพูดคุย

อภิสิทธิ์เผย ผบ.สส.หนุนแนวทางแก้ปัญหา
ยิ่งลักษณ์ยืนยัน รบ.พร้อมพูดคุย
 Mon, 2014-04-28 18:57
          นายกรัฐมนตรีขอทุกฝ่ายให้อภิสิทธิ์ทำงานเต็มที่ หากไปคุยกับสุเทพได้ก็เป็นแนวทางที่ดี เพราะเป็นต้นคิดการปฏิรูป หวังว่าทั้งสองฝ่ายจะได้ข้อคิดตรงกัน ด้านรัฐบาลพร้อมพูดคุยกับอภิสิทธิ์แต่ตอนนี้ยังไม่ได้นัด ส่วนอภิสิทธิ์เผยไปคุยกับ ผบ.สส. มาแล้ว และจะประเมินผลตลอด 2 สัปดาห์ ถ้าไม่ก้าวหน้าจะเลิกคุย

          ตามที่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เผยแพร่คำแถลง "อภิสิทธิ์เดินหน้าหาคำตอบให้ประเทศ" พร้อมเสนอให้พาประเทศไปสู่การปฏิรูปและเป็นการปฏิรูปภายใต้รัฐธรรมนูญ ตามหลักการประชาธิปไตย มีกระบวนการเลือกตั้งที่ทุกฝ่ายยอมรับเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูป และระบุว่าจะนำเสนอแนวคิดต่อฝ่ายต่างๆ รวมทั้งพรรครัฐบาล พรรคการเมือง และผู้ชุมนุมทุกฝ่ายนั้น (อ่านข่าวก่อนหน้านี้)
ยิ่งลักษณ์ขอทุกฝ่ายให้อภิสิทธิ์หาทางออกประเทศ รัฐบาลพร้อมคุยทุกฝ่ายแต่ตอนนี้ยังไม่ได้นัด
          ล่าสุดวันนี้ (28 เม.ย.) สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงกลาโหม กล่าวว่าขณะนี้ทุกฝ่ายต้องให้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทำงานอย่างเต็มที่ หากทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดหวังก็ถือเป็นเรื่องดี โดยรัฐบาลพร้อมพูดคุยกับอภิสิทธิ์และทุกฝ่าย แต่ขณะนี้ยังไม่มีการนัดหมายอย่างเป็นทางการ ส่วนจะเป็นถ่ายทอดสดหรือไม่ ต้องขอดูรายละเอียดก่อน
         อย่างไรก็ตาม เห็นว่าฝ่ายการเมืองและภาคประชาชนต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาประเทศ และเห็นว่า หากอภิสิทธิ์พูดคุยกับสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ก่อนพูดคุยกับรัฐบาลจะเป็นแนวทางที่ดี เนื่องจากเป็นผู้ริเริ่มแนวทางการปฏิรูปหาทางออกประเทศ และเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่จะพูดคุย และหวังว่าทั้งสองฝ่าย จะได้ข้อคิดเห็นที่ตรงกัน ทั้งนี้ ไม่อยากให้มองว่า การกระทำของอภิสิทธิ์ จริงใจหรือไม่ แต่ขอมองที่ความพยายาม และให้กำลังใจการทำหน้าที่แก้ไขปัญหา
         ส่วนกรณี พล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด เสนอแนวทางพึ่งพระบารมีแก้ไขสถานการณ์บ้านเมือง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหว ที่ต้องระมัดระวังและศึกษาอย่างรอบคอบ
         สำหรับการพูดคุยกับ กกต.นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้พูดคุยกับประธาน กกต.เบื้องต้นแล้ว แต่ต้องรอการประสานงานอย่างเป็นทางการ และ รัฐบาลพร้อมให้ความร่วมมือเข้าร่วมประชุม ส่วนการชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ในวันที่ 6 พฤษภาคมหรือไม่ ยังมีเวลาพิจารณา
อภิสิทธิ์บอก ผบ.สส.หนุนแนวทางแก้ปัญหา รับจะประเมินผลตลอด 2 สัปดาห์ ถ้าไม่ก้าวหน้าจะเลิก
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังเข้าพบผู้บัญชาการทหารสูงสุด เมื่อวันที่ 28 เม.ย. (ที่มา: สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์)
           ขณะเดียวกัน สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย รายงานว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยภายหลังเข้าพบ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ว่า การเข้าพบในวันนี้ได้นำเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาของประเทศ ซึ่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้ให้การสนับสนุนแนวทางการดำเนินการของเขาในการเดินสายหารือหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งเป็นการตอบรับที่น่าพอใจ มองปัญหาตรงกัน นอกจากนี้ยังได้ใช้โอกาสนี้ขอบคุณกองทัพที่ทำหน้าที่ในการดูแลประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด โดยยืนยันว่าการเดินสายครั้งนี้ไม่ใช่การเจรจาเพื่อผลประโยชน์กับฝ่ายใดทั้งสิ้น ซึ่งเป็นเพียงการเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาประเทศ และแต่ละหน่วยงานจะยอมรับและเห็นด้วยหรือไม่ขึ้นอยู่กับการพิจารณา ส่วนฝ่ายรัฐบาลจะมีข้อเสนออะไรนั้น พร้อมรับฟัง ซึ่งปัญหาทางการเมืองนั้น ฝ่ายการเมืองต้องเป็นผู้แก้ไขกันเองไม่ควรนำไปเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งยอมรับว่าเวลาในการดำเนินการมีไม่มาก และการดำเนินการครั้งนี้จะประเมินผลภายในเวลา 2 สัปดาห์ หากไม่มีความก้าวหน้าจะล้มเลิกการดำเนินการ
         ทางด้านกรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ออกเอกสารสรุปผลการหารือครั้งนี้ว่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเห็นด้วยกับแนวทางของนายอภิสิทธิ์ที่จะเดินทางไปพบกลุ่มต่างๆ เพื่อเสนอแนวคิดในการแก้ปัญหาบ้านเมือง พร้อมทั้งได้แสดงจุดยืนของกองทัพในการปฏิบัติตามหน้าที่ความรับผิดชอบ ยึดมั่นในรัฐธรรมนูญ เพื่อประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน
อกณัฏยืนยันมาร์คเดินสายไม่กระทบ กปปส. เพราะเป็นอิสระจากพรรคการเมือง 
         ส่วนการแถลงข่าวของ กปปส. วันนี้ (28 เม.ย.) นั้น เอกณัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. ยืนยันว่า กปปส. ไม่มีความขัดแย้งกับอภิสิทธิ์ ตามที่ฝ่ายตรงข้ามพยายามบิดเบือนข้อมูล ขอยืนยันว่าการเดินสายเจรจาของอภิสิทธิ์ไม่กระทบต่อการเคลื่อนไหวของ กปปส. เพราะ กปปส. เป็นอิสระจากพรรคการเมืองและนักการเมือง และพร้อมพูดคุยกับผู้ที่หวังดีต่อบ้านเมือง และเห็นตรงกันกับนายอภิสิทธิ์ที่ต้องการให้มีการปฏิรูปโดยประชาชนเพื่อประชาชน แต่จะไม่พูดคุยเจรจากับระบอบทักษิณ
        ทั้งนี้โฆษก กปปส. กล่าวแสดงความไม่เห็นด้วยกับมติ ครม. ที่จะขยายการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงไปอีก 60 วัน เพราะเชื่อว่าไม่เกิดประโยชน์และทำให้สถานการณ์บานปลาย ที่ผ่านมา ศอ.รส. ก็ไม่สามารถดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนได้ และสถานการณ์ปัจจุบันสามารถใช้กฎหมายปกติได้
         อนึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 เม.ย. สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ปราศรัยว่าไม่ว่าใครก็ตามที่เคยรู้จักหรือทำงานด้วย อย่าบังอาจตั้งตัวเป็นคนกลางเจรจา เพราะตอนนี้ไม่มีนายสุเทพแล้ว มีแต่กำนันร่างทรงที่ไม่ฟังใครแล้วนอกจากประชาชนที่ต้องการปฏิรูปและขับไล่รัฐบาล (อ่านข่าวก่อนหน้านี้) ก่อนที่ต่อมาในวันนี้ นายเอกนัฏจะแถลงยืนยันว่าไม่ได้ขัดแย้งกับอภิสิทธิ์ดังกล่าว
http://www.redusala.blogspot.com/

ออกซ์ฟอร์ดดีล!!! ASTV แฉหมดเปลือก "มาร์ค-กรณ์" ดอดเจรจาสงบศึกแลกเก้าอี้นายกฯ

ออกซ์ฟอร์ดดีล!!! ASTV แฉหมดเปลือก 
"มาร์ค-กรณ์" ดอดเจรจาสงบศึกแลกเก้าอี้นายกฯ



          “พล.ร.ท.ประทีป” ตอกกลับ "กรณ์" ยันมีผู้ใหญ่ให้ข้อมูลเชิงลึก “ออกซ์ฟอร์ดดีล” มีความเป็นไปได้สูง ดอดเจรจาตกลงกันเรียบร้อย ก่อน “อภิสิทธิ์” เดินสายเจรจาทุกฝ่าย หวั่นกระทบต่อประเทศชาติ ชี้ ปชป. กระสันเลือกตั้งก่อนปฏิรูปเหมือนพรรคเพื่อไทย

           วันนี้ (27 เม.ย.) พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ อดีตผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติการลำน้ำโขง (นปข.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ตอบโต้กรณีที่นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธกรณีที่ได้ไปเจรจากับฝั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นที่มาของการเสนอทางออกให้บ้านเมืองของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะเดินสายเจรจาทุกฝ่าย รวมทั้งไม่เคยพบปะพูดคุยกับ อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยดอดไปเจรจากับใครที่ไหน และมีหน้าที่เดียวในพรรคที่ได้รับมอบหมายให้ทำ คือการร่างนโยบายของพรรค ระบุว่า "ผมขอตอบคุณกรณ์ ดังนี้


  • 1. ผมในฐานะนำข้อมูลมาเปิดเผย ได้รับผิดชอบในระดับหนึ่งแล้ว คือ ไม่เปิด/หรือเอ่ยชื่อว่าเป็นใคร? ดังนั้นถ้าคุณกรณ์รีบออกมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับ Oxford Deal ก็ถือว่าคุณกรณ์เชื่อว่าคนที่ผมพูดนั้นอาจหมายถึงคุณกรณ์เอง คุณกรณ์มีสิทธิ์ปฏิเสธได้ แต่ความจริงเป็นอย่างไรมันก็ต้องเป็นอย่างนั้น ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว และสุดท้ายสังคมก็จะใช้วิจารณญาณเองว่าจะเชื่อหรือไม่?
  • 2. ผมเป็นแขกรับเชิญประจำของ ASTV ในการวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองมานาน มีผู้ใหญ่ที่มีเครดิตทางสังคมเมตตาให้ข้อมูลกับผมทั้งเชิงลึกและเชิงกว้างนำมาใช้เสมอและข้อมูลในเรื่องสำคัญๆที่ผ่านมาไม่เคยพลาดและบางข้อมูลที่ไม่มีผลกระทบต่อประเทศชาติ แต่เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ผมก็เก็บงำไว้แต่ถ้าเห็นว่าเป็นเรื่องที่กระทบต่อประเทศชาติ ผมจึงจะนำมาเปิดเผย และเปิดเผยข้อมูลนี้(ขอย้ำว่าไม่เปิดเผยว่าเป็นใคร?)เพราะเชื่อมั่นว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ และข้อมูลมีความน่าเชื่อถือ และมีความเป็นไปได้สูง
  • 3. เรื่อง Oxford Deal นี้ มีน้ำหนักน่าเชื่อถือและสำคัญแค่ไหน? นั้นมีเหตุผลรองรับตามข้อ 2 และผมเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญมีผลกระทบต่อประเทศชาติ เพราะ สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ชี้ชัดว่า พรรคประชาธิปัตย์มีแนวทางมุ่งสู่การเลือกตั้งก่อนการปฏิรูปเช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย ตามที่เห็นได้จากปรากฏการณ์ของอภิสิทธิ์และOxford Deal ก็สอดคล้องกับปรากฏการณ์อภิสิทธิ์ ผมจึงตัดสินนำเสนอเพื่อให้สังคมได้รับรู้และพิจารณา



         อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ทางการเมืองและจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ในปัจจุบัน ถ้าให้เลือกเชื่อข้อมูลระหว่างใครคนหนึ่ง? ไม่ว่าจะเป็นคุณกรณ์หรือใครก็ตาม กับผู้ใหญ่ที่มีเครดิตทางสังคมมีข้อมูลเชิงลึกที่เป็นแหล่งข่าวให้ข้อมูลผมไม่เคยผิดพลาดแล้ว ผมยังยืนยันที่จะเลือกเชื่อข้อมูลของผู้ใหญ่ท่านนี้ครับ"

http://www.redusala.blogspot.com/

"ศิริโชค โสภา" เครียด! ย่องเงียบรับทราบข้อกล่าวหาคดีอาวุธปืนเถื่อน

"ศิริโชค โสภา" เครียด! ย่องเงียบรับทราบข้อกล่าวหาคดีอาวุธปืนเถื่อน




          เมื่อวานนี้ (26 เม.ย.) นายศิริโชค โสภา อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทนายความ เดินทางเข้าแสดงความบริสุทธิ์ใจ ต่อพนักงานสอบสวนสภ.เทพา จ.สงขลา หลังจากถูกออกหมายเรียกในคดีโอนอาวุธปืนโดยผิดกฏหมาย และนายศิริโชคได้ขอเลื่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนมาหลายครั้งแล้ว โดยพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเบื้องต้น ซึ่งนายศิริโชคได้ให้การปฏิเสธ อ้างว่าปืนกระบอกดังกล่าวได้ขายไปแล้ว หลังจากให้ปากคำแล้วจึงเดินทางกลับ

         สำหรับกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษจังหวัดสงขลา นำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหา 5 คน ขณะทำการดูดทรายในอำเภอเทพา พร้อมยึดของกลาง

  • รถแบ็กโฮล 1 คัน , 
  • เรือดูดทราย 2 ลำ, 
  • เครื่องยนต์ดูดทราย 
  • รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ 
  • ปืนลูกซองยาว 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน 7 นัด 
         บริเวณท่าทราย บริษัททะเลทรัพย์เจริญ จำกัด ที่มีเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ โดยอาวุธปืนดังกล่าวนั้นมีชื่อเป็นของนายศิริโชค โสภา ซึ่งนายศิริโชคอ้างว่าได้ขายไปแล้ว โดยผู้ซื้อไม่ได้มีเอกสารการซื้อปืนอย่างถูกต้อง จึงถูกออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาเพื่อสู้คดีกันต่อไปส่วนข้อหาโอนอาวุธปืนให้แก่ผู้ที่มิได้รับอนุญาตและเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามกฎหมายอาวุธปืนและกฎหมายอาญา นั้นมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

http://www.redusala.blogspot.com/