วันอังคารที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2557

เยาวชนทนไม่ไหว ศาล รธน. ฟันเลือกตั้งโมฆะ รวมตัวตั้ง “กลุ่มเสรีเพื่อประชาธิปไตยคนขอนแก่น” คลุมผ้าดำไว้อาลัย ตุลาการ


เยาวชนทนไม่ไหว ศาล รธน. ฟันเลือกตั้งโมฆะ รวมตัวตั้ง “กลุ่มเสรีเพื่อประชาธิปไตยคนขอนแก่น” คลุมผ้าดำไว้อาลัย ตุลาการ





          วันที่ 24 มีนาคม 2557 go6TV – นายสิทธิชัย คำมี หรือ น้องเตา อายุ 17 ปี เยาวชนจังหวัดขอนแก่นที่รักประชาธิปไตยและความยุติธรรม แกนนำ ”กลุ่มเสรีเพื่อประชาธิปไตยคนขอนแก่น” ออกมาแสดงถึงจุดยืน “ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องผลการเลือกตั้ง 2 ก.พ. เป็นโมฆะ” โดยได้จัดกิจกรรม “ผูกผ้าดำไว้อาลัย ประชาธิปไตยของประชาชน” เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2557 เวลา 12.00 น. บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย (ศาลหลักเมืองขอนแก่น) ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันศุกร์หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินให้การเลือกตั้ง 2 ก.พ. เป็นโมฆะ ช่วงเย็นได้เห็นกิจกรรมของพี่ๆ สนนท. ที่คลุมผ้าดำ ตรงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ที่ กทม.ผ่านเฟสบุ๊ค จึงเกิดต้องการแสดงออกซึ่งจุดยืนประชาธิปไตย หลังเลิกเรียนจึงปรึกษาหารือกับเพื่อนๆ ว่าจะมีการจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นบริเวรอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จ.ขอนแก่น เมื่อเริ่มกิจกรรมก็มีประชาชนทั่วไปเข้ามาร่วมด้วยเป็นจำนวนมาก แม้ว่าพื้นที่ใกล้ๆ กันจะมีเวที กปปส. ขอนแก่นตั้งอยู่ด้วยแต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอะไรขึ้นเลย

          “ตอนแรกก็เป็นกังวลว่าผ้าดำที่คลุมกับป้ายกิจกรรมของผมจะโดนเอาไปทิ้ง เพราะตรงนี้มีกลุ่มที่เห็นต่างจากเราจัดกิจกรรมอยู่ด้วย แต่เมื่อไปดูก็พบว่าป้ายทุกอย่างยังอยู่เหมือนเดิม และไม่มีปัญหาอะไร เพราะพวกเราเคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน”

          นายสิทธิชัย คำมี หรือ น้องเตา กล่าวว่า สำหรับการทำงานขององค์กรอิสระ ซึ่งอีกไม่กี่วัน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็จะมีการพิจารณาวินิจฉัยโครงการรับจำนำข้าว ก็อยากให้องค์กรอิสระต่างๆ รวมไปถึงศาล คำนึงถึงความถูกต้อง ข้อกฎหมายและความยุติธรรมให้มากๆ เพราะสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ หากเกิดความไม่ยุติธรรมขึ้นเกรงว่าจะยิ่งทำให้เกิดความไม่สงบมากขึ้น ที่สำคัญคือประชาชนทุกคนไม่มีใครอยากที่จะเห็นการทะเลาะเบาแว้งในหมู่คนไทยด้วยกันเอง หากทุกองค์กรเคารพกติกาและมีความยุติธรรม และยังมีบางองค์กรพยายามที่จะขัดขวางการเลือกตั้ง ไม่ช่วยกันไม่ผลักดันให้มีการเลือกตั้งไปจนเสร็จสิ้นเรียบร้อย จนเป็นเหตุให้บ้านเมืองเกิดความขัดแย้งประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะพวกตนจะเคลื่อนไหวเรียกร้องความยุติธรรมต่อไป








“นพดล” จ่อยื่น ยูเอ็น แจงข้อเท็จจริงปมขัดขวางการเลือกตั้ง


“นพดล” จ่อยื่น ยูเอ็น แจงข้อเท็จจริงปมขัดขวางการเลือกตั้ง




           วันที่ 24 มีนาคม 2557 go6TV - ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และกรรมการยุทธศาสตร์พท. แถลงว่า สืบเนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินให้การเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เป็นโมฆะ ทางสมาชิกพรรคได้ร่วมกันทำหนังสือถึงองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) องค์การสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ รวมถึงประเทศมหาอำนาจต่างๆ ได้ทราบถึงกระบวนการขัดขวางการเลือกตั้งในประเทศไทย การสมคบคิดระหว่างองค์กรต่างๆ ในไทยที่ทำให้การเลือกตั้งไร้ผล

         รวมถึงการบอยคอตการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ และชี้ให้เห็นถึงวงจรอุบาททางการเมืองที่เกิดขึ้นในปี 2549และอาจเกิดขึ้นอีกครั้งในปี 2557 รวมถึงการใช้กระบวนการตุลาการวิวัฒน์ในการขัดขวางกระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยในประเทศไทย ทั้งนี้คาดว่าจะยื่นหนังสือดังกล่าวให้ยูเอ็นในวันที่ 25 มีนาคมนี้

          “จดหมายฉบับนี้ไม่ได้เรียกร้องให้ยูเอ็นมาแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทย แต่เราจะให้เขาได้ทราบถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในไทย เพื่อให้องค์กรเหล่านี้ได้ติดตามสถานการณ์ในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด และให้พวกเขาสนับสนุนกระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยในประเทศไทย ให้เขาสนับสนุนการเลือกตั้งที่เป็นเสรีและเป็นธรรมที่จะเกิดขึ้นอนาคต” นายนพดล กล่าว

ศาลอาญา ชี้ แดงตายปี 53 ฝีมือทหาร พยาน-หลักฐานชัดเจน


ศาลอาญา ชี้ แดงตายปี 53 ฝีมือทหาร พยาน-หลักฐานชัดเจน


           วันที่ 25 มีนาคม 2557 go6TV – ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนัดฟังคำสั่งการชันสูตรพลิกศพ นายนรินทร์ ศรีชมภู ที่ถูกยิงเสียชีวิต บริเวณทางเท้าหน้าคอนโดมิเนียมบ้านราชดำริ ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553


          โดยจากการไต่สวนพยาน-หลักฐานที่ผ่านมา มีการลงตรวจพื้นที่ ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พบว่าทิศทางของกระสุน เป็นการยิงมาจากทางแยกราชดำริ ไปทางแยกราชประสงค์ โดยบาดแผลของผู้ตายอยู่ที่บริเวณศีรษะ ถูกยิงด้วยกระสุนปืนความเร็วสูง มีทิศทางการยิงจากด้านหน้าไปด้านหลัง จุดที่ยิง จึงเป็นไปได้ว่าอยู่บริเวณแยกศาลาแดง โดยมีทิศทางการยิงไปทางแยกราชดำริ


          เมื่อประกอบกับการให้ปากคำ ของพยานทุกปากที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ประกอบไปด้วยผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ผู้ชุมนุม และประชาชนทั่วไป ซึ่งบางรายก็ถูกยิงได้รับบาดเจ็บในลักษณะเดียวกัน ล้วนแต่ให้การตรงกัน ว่าเจ้าหน้าที่ทหาร เคลื่อนกำลังมาจากแยกศาลาแดง มาทางถนนราชดำริ และมีการใช้อาวุธปืนยาวยิงใส่ผู้ชุมนุม ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งในบริเวณใกล้เคียงกับจุดที่นายนรินทร์ถูกยิง ยังมีนายฟาบิโอ โปแลงสกี ช่างภาพชาวอิตาลี ถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้เป็นการเสียชีวิต มาจากการปฏิบัติหน้าที่ของทหารไปแล้ว

        และแม้ว่าพันเอกนพสิทธิ์ สิทธิพงศ์โสภณ รองผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ฯ ผู้บังคับบัญชาที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณแยกศาลาแดง จะให้การยืนยันว่าไม่ได้ใช้กระสุนจริง แต่จากการให้ปากคำของเจ้าหน้าที่ทหารในหน่วย พบว่ามีอาวุธปืน ที่บรรจุกระสุนจริงขนาด .223 อีกทั้งรอยกระสุนบริเวณหน้าคอนโดมิเนียมบ้านราชดำริ จำนวน 8 รอย มีวิถีกระสุนมาจากแยกศาลาแดงมุ่งหน้าแยกราชดำริ ทั้งหมดเป็นแนวระดับ สอดคล้องกับผลชันสูตรพลิกศพจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่ระบุว่าผู้ตายถูกยิงแนวระดับ สูงจากพื้นไม่เกิน 1.6 เมตร


          ศาลพิเคราะห์จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ รวมถึงคลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์แล้ว เห็นได้ว่าชี้ไปในทิศทางเดียวกัน จึงมีคำสั่ง ให้ผู้ตายเสียชีวิต จากกระสุนปืนความเร็วสูง เจาะทะลุศรีษะทำลายระบบประสาท โดยกระสุน มีทิศทางมาจากฝั่งเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ภายใต้คำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. โดยไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ยิง


           นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความผู้เสียชีวิต กล่าวว่ามีความพอใจต่อการออกคำสั่งครั้งนี้ ซึ่งเป็นการยืนยันให้เห็นอีกครั้งหนึ่ง ว่าเหตุความตายของผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงและประชาชน จากการสลายการชุมนุมแทบจะทั้งหมด เป็นการยิงมาจากฝั่งเจ้าหน้าที่ทหารอย่างชัดเจน


"ณัฐวุฒิ" ถลกหนัง "พลากร สุวรรณรัฐ" เจรจาเทือก "เฮ้ย...คนน้อยนะ..คุณสุเทพ คนไม่เห็นมากเลย"


"ณัฐวุฒิ" ถลกหนัง "พลากร สุวรรณรัฐ" เจรจาเทือก "เฮ้ย...คนน้อยนะ..คุณสุเทพ คนไม่เห็นมากเลย"


            ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ขึ้นเวที "ถลกหนังเทือก" แฉ ว่าที่นายกฯเถื่อนตัวเต็ง "พลากร สุวรรณรัฐ" องคมนตรี เคยเจรจาลับกับ "สุเทพ เทือกสุบรรณ" ภายในอาณาจักร "แปซิฟิกคลับ" ย่านสุขุมวิท



          นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ พูดในรายการถลกหนังเทือก ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเซียอัพเดท โดยได้กล่าวถึงการเปิดรายชื่อ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเถื่อน จำนวนรวม 10 รายชื่อในวันก่อนนั้น

           ปรากฏว่า มีข้อมูลที่น่าสนใจ ข้อมูลหนึ่งว่า ก่อนมีการชุมนุมใหญ่ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นั้น ได้มีบุคคลสำคัญคนหนึ่ง ที่เป็นถึง "องคมนตรี" คือนายพลากร สุวรรณรัฐ ได้มาพบเจรจากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่แปซิฟิค คลับ ถนนสุขุมวิท พอเดินเข้าไปเจอ "เอ้ย...คนน้อยนะ คุณสุเทพ คนไม่เห็นมากเลย"

         การเปิดเผยกระแสข่าวชื่อนายพลากร สุวรรณรัฐ ท่ามกลางกระแสข่าว "นายกรัฐมนตรีเถื่อน" นั้น สอดคล้องกับบทความวิเคราะห์การเมือง ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเมื่อเดือนที่ผ่านมาที่เคยเขียนว่า มีบุคคลชื่อย่อ อักษร พ.พาน ตำแหน่งระดับสูง ได้สั่งงานกับข้าราชการระดับสูงบนเครื่องบินมาแล้ว

         การเปิดเผยชื่อนายพลากร สุวรรณรัฐนั้น นายพงศ์พโยม วาศภูติ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซต์ไทยแลนด์ เช้าวันนี้ กล่าวสนับสนุนนายพลากร สุวรรณรัฐ ว่าเป็นผู้ที่เหมาะสม(กับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี) มาก

        "นายพลากร ได้ไปรับใช้สนองพระเดชพระคุณ เป็นองคมนตรี ทำไมนายพลากร เป็นเต็งหนึ่ง นิสัยใจคอตรงไปตรงมา มีภาวะผู้นำ มีชาติตระกูลดี คุณแม่เป็นหม่อมราชวงศ์ ปัจจุบันเป็นท่านผู้หญิง คุณพ่อ (พ่วง) ก็เป็นอดีตปลัดกระทรวงฯ จึงมีความโดดเด่น จึงเป็นธรรมดา ที่คนจะมองว่าท่านเหมาะสม"