วันพุธที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2557

รวบแล้วมือปืนป๊อบคอร์น



สุราษฎร์ธานี - ตำรวจชุดสายสืบนครบาล 2 และตำรวจสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ตามรวบตัวมือปืนป๊อบคอร์นได้แล้ว ขณะย่ามใจเดินอยู่ในตลาดกลางเมืองสุราษฎร์ธานี พร้อมนำตัวเข้ากรุงเทพฯทันที

หลังจากที่ศาลจังหวัดพระโขนง ได้อนุมัติหมายจับนายนิวัฒน์  ยอดประสิทธิ์ หรือ มือปืนป๊อบคอร์น ฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธปืน ล่าสุดวันนี้ (19 มี.ค.)นายนิวัฒน์ ถูกตำรวจสายสืบนครบาล 2 และตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ตามจับกุมได้แล้วในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ขณะที่กำลังเดินอยู่ในตลาดแห่งหนึ่งใกล้ๆกับวัดพัฒนาราม ในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี คาดว่าตำรวจชุดจับกุมได้ควบคุมตัวไปสอบสวนที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 หลังจากหลบหนีมากบดานในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และคิดว่าปลอดภัยที่สุด เนื่องจากเป็นบ้านของญาติภรรยา แต่ก็มาจนมุมถูกตำรวจจับกุมได้ในที่สุด

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า  หลังจากที่ตำรวจได้เบาะแสมีการเคลื่อนไหวของมือปืนป๊อบคอร์นในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี กำลังตำรวจนอกเครื่องแบบภาค 1ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.คเชนทร์  คชพลายุกต์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงในพื้นที่ทันที และจับกุมได้พร้อมนำตัวไปที่ภาค 1 โดยไม่ได้ประสานขอกำลังตำรวจในพื้นที่แต่อย่างใด เพียงแต่แจ้งให้ทราบเท่านั้น

ความคืบหน้ากรณีตำรวจชุดสืบสวนภายใต้การนำของ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้ช่วยผบ.ตร. จับกุม นายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,พาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เรื่องห้ามนำอาวุธปืนออกนอกเคหะสถาน กรณีใช้อาวุธสงครามในเหตุปะทะที่บริเวณแยกหลักสี่ หรือที่เรียกกันว่า "มือปืนปอร์บคอร์น" ล่าสุดตำรวจชุดจับกุมได้สอบสวนผู้ต้องหารายนี้เบื้องต้น ยอมรับสารภาพแล้วว่า เป็นผู้ใช้อาวุธสงครามคลุมด้วยถุงปอร์บคอร์น ยิงปะทะกับฝ่ายตรงข้าม ที่บริเวณแยกหลักสี่ ใกล้กับห้างสรรพสินค้าไอทีแสควร์ ย่านดอนเมือง กรุงเทพมหานคร เมื่อเร็วๆ นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจับกุมนายวิวัฒน์ ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากตำรวจชุดสืบสวน สืบทราบว่า หลังเกิดเหตุปะทะที่แยกหลักสี่ นายวิวัฒน์ ยังคงใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ชุมนุมของกลุ่ม กปปส. และเพิ่งออกจากพื้นที่ชุมนุมไปไม่นาน ตำรวจได้สืบสวนหาข่าวทราบว่า นายวิวัฒน์ มีความสนิทสนมกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งทำงานอยู่ในย่านห้วยขวาง เข้าไปชุมนุมกับกลุ่ม กปปส. เป็นประจำ ตำรวจจึงพยายามติดตามผู้หญิงคนนี้ กระทั่งทราบว่าผู้หญิงคนนี้เดินทางไปยัง จ.สุราษฏร์ธานี ตำรวจชุดสืบสวนจึงติดตามไปกระทั่งพบว่า นายวิวัฒน์ กำลังเดินทางไปที่วัดแห่งหนึ่ง ใกล้กับ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พร้อมกับผู้หญิงรายดังกล่าว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ตำรวจแสดงตัวเข้าจับกุมนายวิวัฒน์ พยายามใช้กำลังต่อสู้ เพื่อหลบหนี แต่ถูกตำรวจควบคุมตัวไว้ได้ หลังถูกจับกุมนายวิวัฒน์ ยอมรับว่า เป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญา และยอมรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงครามยิงบริเวณแยกหลักสี่ สาเหตุที่เดินทางมายัง จ.สุราษฎร์ธานี เพราะต้องการมาพักอยู่ที่บ้านของนายสุเมธ ตระกูลวุ่นหนู สมาชิกกลุ่มซีลราชสิทธิ์ ซึ่งร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่ม กปปส.ร่วมกันมา

ทั้งนี้นายวิวัฒน์ นอกจากจะถูกศาลออกหมายจับกรณีใช้อาวุธสงครามในเหตุปะทะที่แยกหลักสี่แล้ว ก่อนหน้านี้ยังมีหมายจับในคดีครอบครองยาเสพติด ของ สภ.นครไทย จ.พิษณุโลก เมื่อปี 2554 อีกด้วย