วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2557

ศาลรัฐธรรมนูญมีสิทธิชี้ให้เลื่อนการเลือกตั้งได้หรือไม่? : วรเจตน์ ภาครัตน์

ศาลรัฐธรรมนูญมีสิทธิชี้ให้เลื่อนการเลือกตั้งได้หรือไม่? : วรเจตน์ ภาครัตน์



สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย (สปป.) จัดสัมมนา "2 กุมภาเดินหน้าเลือกตั้ง ร่วมเป็นเจ้าของการปฏิรูป"
วิทยากรโดย ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ l ดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล ณ มหาวิทยาลัยธรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต วันที่ 19 ม.ค.2557

ม๊อปกบฏเทือกบุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกรอบ สั่ง ผบ.ตร. มอบตัวประชาชน




          รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 22 มกราคม 2557 บริเวณหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระราม 1 นายอุทัย ยอดมณี แกนนำ คปท. พร้อมมวลชนจำนวนหนึ่งมาปิดล้อมด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระราม 1 โดยได้เรียกร้องให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มารายงานตัว และให้ตำรวจภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเก็บข้าวของภายใน 1 ชั่วโมง


              พร้อมประกาศว่า หาก พล.ต.อ.อดุลย์ ยังเป็น ผบ.ตร. จะเป็นศัตรูกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติตลอดไป ตอนนนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ เป็นทรราชย์ ไปแล้ว จากนั้นนายอุทัย ได้ประกาศบนเวทีให้กลุ่มผู้ชุมนุมช่วยกันเอาคำว่า “แห่งชาติ” หน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติออก

             กลุ่มผู้ชุมนุมช่วยกันใช้อุปกรณ์งัดตอกจนข้อความคำว่า “แห่งชาติ” หลุดมากองอยู่กับพื้น ที่ป้ายหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติเหลือเพียงคำว่า “สำนักงานตำรวจ” ด้านตำรวจ ปจ. ยังคงเตรียมพร้อมอยู่ในที่ตั้งไม่ปรากฎกายใหักลุ่มผู้ชุมนุมเห็น ไม่มีการเผขิญหน้า สำหรับประตูหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปิดเพียงคล้องโซ่กุญแจไว้เท่านั้น
ทรงพระเจริญ พระเจ้าข้า

 

 

 

 
 

 

 

 

 


เอาข่าวนี้ไปเทียบกับข่าวเก่าครั้งที่แล้ว

2 สาว สำนึกผิด นำดอกไม้ธูปเทียนขอขมา พระบรมราชานุเสาวรีย์ รัชกาลที่ 4 หลังแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับป้าย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ


นางสาวพรพิมล เพียรสูงเนิน อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมา และ นางสาวภรวลัญช์ โคนอก อายุ 27 ปี ชาว จ.สมุทรสาคร นำแจกันดอกไม้ พร้อมจุดธูปเทียนกราบขอขมา พระบรมราชานุเสาวรีย์รัฐกาลที่ 4 หลัง เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้เข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่ม กปปส. และได้แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับป้าย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อมีภาพเผยแพร่ทางโชเชียลมิเดีย ได้ถูกโจมตีอย่างหนักถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม



            นางสาวพรพิมล เพียรสูงเนิน อายุ 34 ปี กล่าวว่า ที่กระทำลงไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ หรือดูถูกส ำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังถูกกระแสโซเขี่ยลฯ โจมตี และถูกมือมืดใช้อาวุธปืนยิงถล่มบ้านถึง 2 ครั้ง ถูกนำเลือดไปสาดใส่หน้าบ้านด้วย ส่วนตัวอยากเข้ามาขอขมา ตั้งแต่วันแรก พร้อมขอให้สังคมให้อภัยกับการกระทำดังกล่าว

            ด้าน นางสาวภรวลัญช์ โคนอก กล่าวด้วยน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ตนเองทำลงไป และขอให้สังคมให้อภัย เนื่องจากกระทำลงไปเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่วนรถยนต์ที่ถูกอาวุธยิงใส่ ขณะจอดไว้ที่บ้านพัก จ.สมุทรสาคร ไม่ติดใจเอาความ เพราะเป็นผลจากการกระทำของตัวเอง

            ทั้งนี้ ทั้ง 2 คน ยังได้เดินไปกราบและขอขมากับป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย และยืนยันว่า ต่อไปจะมีสติ และไม่แสดงพฤติกรรมดังกล่าวอีก






ภาพเหตุการณ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2556 ที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุม เคลื่อนขบวนผ่านบริเวณหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่อมาปรากฎภาพ การแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ต่อป้าย สำนักตำรวจแห่งชาติ



วันนี้
คปท. บุกทำลายป้าย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ่นตัวหนังสือ 'คปท.' ทับ - ตัดโซ่คล้องประตู แสดงสัญลักษณ์


กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) นำมวลชนบุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมทำลายป้ายตัวหนังสือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนพ่นตัวหนังสือ คปท. ทับ และคำด่าทอหยาบคาย พร้อมกับตัดโซ่ที่คล้องประตูหน้าทั้ง 2 ประตู เป็นเชิงสัญญาลักษณ์ แต่ไม่ได้บุกเข้าไป




















บุกรื้อป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คปท.บุกรื้อป้าย"สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" พ่นตัวหนังสือทับ-ตัดโซ่คล้องประตู แสดงสัญลักษณ์



กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) นำมวลชนบุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมรื้อป้ายตัวหนังสือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนพ่นตัวหนังสือ คปท. ทับ และคำด่าทอหยาบคาย พร้อมกับตัดโซ่ที่คล้องประตูหน้าทั้ง 2 ประตู เป็นเชิงสัญญาลักษณ์ แต่ไม่ได้บุกเข้าไป เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2557




แถลงการณ์ที่ไร้ค่าที่สุดในรอบวัน


แถลงการณ์ที่ไร้ค่าที่สุดในรอบวัน


โดย ใบตองแห้ง ประชาไท


              แถลงการณ์ที่ไร้ค่าที่สุดในรอบวัน ไม่ใช่เห็นด้วยกับ พรก.ฉุกเฉิน แต่องค์กรสื่อเหลือความหมายอะไร ในเมื่อสื่อเป่านกหวีดกันหมด ผู้บริหารองค์กรวิชาชีพสื่อก็คาบนกหวีดที่มุมปาก คำแถลงเหล่านี้กลายเป็นปกป้องตัวเอง เพื่อตัวเองและพวกพ้องจะได้ใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญฉีกกติกาประัชาธิปไตย

              คุยกับนักวิชาการสื่อบางท่านบอกว่า การที่สื่อ "เปิดหน้าชก" ยกค่ายเป่านกหวีดอย่างเปิดเผย ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไหน (ยกเว้นรวันดา) สื่อตะวันตกแยกความเห็น 2 ขั้วเป็นเรื่องธรรมดา แต่อย่างน้อยเขาจะไม่ใช้ Hate Speech ซึ่งสังคมต่อต้าน (ประชาธิปไตยแบบฝรั่ง เขามีจรรยา) และไม่ใช้พื้นที่ข่าวอย่างมี Agenda มากขนาดนี้ ถ้ามีก็แค่การแสดงความเห็นในคอลัมน์ ซึ่งเป็นเสรีภาพ


               คำถามคือแล้วต่อไปสื่อจะอยู่อย่างไร ผู้คนจะแยกขั้วเสพย์สื่อ และจะไม่ฟังเลย กับข้อมูลของสื่ออีกฝ่ายหนึ่ง อำนาจตรวจสอบของสื่อจะสูญสลาย เช่น 2 ปีที่ผ่านมา สื่อวิจารณ์รัฐบาลไปเถอะ มวลชนเสื้อแดงไม่ฟัง เพราะเห็นๆ กันว่าสื่ออยู่ข้างรัฐประหารตุลาการภิวัตน์ สื่อช่วยออกใบอนุญาตฆ่า แต่ที่ผ่านมายังอีแอบ แกล้งเนียน ครั้งนี้เปิดหน้าชก จะๆ เห็นกันทั้งสังคม


               สุดท้ายสื่อก็จะเป็นแค่กาฝากสังคม เป็นอภิสิทธิ์ชนกลุ่มหนึ่ง ไม่สามารถทำหน้าที่ตรวจสอบ ต่อให้พยายาม Reposition อย่างไรก็ตาม อีกเป็นสิบๆ ปีก็ล้่างไม่ออก สมมติ ปชป.ขึ้นมาเป็นรัฐบาล แล้วค่ายเนชั่น โพสต์ทูเดย์ ฯลฯ วิพากษ์วิจารณ์ ก็เรียกเครดิตคืนจากเสื้อแดงไม่ได้ นอกจากสมน้ำหน้า (สะใจ แม่-กัดกันเอง อะไรทำนองนั้น)


              สื่อเล็กอาจตายแบบ "ดาวสยาม" กะแช่ตาย ก็จบเห่ เหลือแต่ประวัติศาสตร์อัปยศบันทึกไว้ แล้วเกิดสื่อใหม่ๆ แต่สื่อค่ายใหญ่นี่สิ จะทำไง
...

หนังตัวอย่าง : นกหวีดไล่ Red USA ที่มาเลือกตั้ง 21 มกราคม 2014


หนังตัวอย่าง : นกหวีดไล่ Red USA ที่มาเลือกตั้ง 21 มกราคม 2014





ที่มา dangdd.com




              เสียงนกหวีดดังแสบแก้วหู ดังแล้วดังอีกปานแก้วหูจะแตก ผสมผสานกับเสียงสบถด่าทอ ด้วยคำหยาบช้า ต่ำทราม มุ่งเป้าไปที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกหญิงคนแรกของประเทศไทย
กัดจิกไปที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย สลับกับคำว่าโกงๆๆๆ ปฏิรูปๆๆๆ ลาออกๆๆๆ

              ขับกล่อมด้วยเสียงร้องเพลงชาติ ร้องแล้วร้องอีก ร้องแล้วร้องอีก....... ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย....โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าร้องอะไร โดยไม่รู้ว่ากลุ่มคนที่พวกตนขัดขวางไม่ให้ไปใช้อำนาจอธิปไตยตามสิทธินั้น เชื้อชาติอะไร....ไม่รู้แม้กระทั่งว่าคนที่ไปลงคะแนนเลือกตั้งคือคนไทยตัวเป็นๆ

...สังเวชใจจริงๆ

            แล้วจะร้องทำไม...ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เพลงชาติถูกนำมาใช้เป็นอุปกรณ์ในการประท้วงเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมาย เนื้อร้องและท่วงทำนองอันเป็นสัญญาลักษณ์และความภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ ถูกนำมาใช้เข่นฆ่าคนไทยด้วยกันเอง




             มีเสียงเล็ดรอดออกมาจากฝูง "อนารยะชน" ในวันนั้น  ที่ยกขบวนกันมาขัดขวางการเลือกตั้งให้ได้ยินเป็นครั้งคราวว่า "เฮ้ยร้องเพลงชาติเลย...ดูซิว่าพวกมันจะหยุดยืนตรงเปล่า..."

             คนไทยผู้น่าสังเวชเหล่านี้นอกจากปฏิเสธอำนาจอธิปไตยของตนเองแล้ว  ยังขัดขวางบุคคลอื่นไม่ให้ไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งอีกด้วย แม้มีจำนวนไม่ถึง 40 คนแต่มีอุปกรณ์การประท้วงเต็มพิกัด
ทั้งนกหวีดติดสายธงชาติที่หอบกันมาเป็นพวงๆ โปสเตอร์และโทรโข่ง ประหนึ่งเตรียมการกันมานาน และน่าจะได้รับการสนับสนุนจากประเทศไทย

            เสียง "ไอ้ควายโง่"  ดังต่อเนื่องสอดรับกันเป็นทอดๆครั้งแล้วครั้งเล่า  ใส่หน้าคนที่เดินหลบฝูง "อนารยะชน" ที่ล้อมทางเข้า  เพื่อขึ้นไปยังชั้น 2 ของสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแองเจลิส อันเป็นหน่วยลงคะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร

           ทำให้กิจกรรมส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยอันงดงาม  ที่ RED USA นัดรวมตัวเพื่อไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง  นอกราชอาณาจักรพร้อมๆกัน ณ สถานกงสุลไทยในแอลเอ  ที่กำหนดไว้ในวันอังคาร ที่ 21 มกราคม 2014 ที่ผ่านมา  มีอันต้องยกเลิกไปอย่างน่าเสียดาย




              ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่ง การทะเลาะต่อยตี กับกลุ่มคนไทยที่อยากกลับไปเป็นทาสทั้งๆที่อพยพมาทำมาหากินอยู่  ในประเทศประชาธิปไตยอย่างสหรัฐอเมริกา

            แม้กิจกรรมไปลงคะแนนพร้อมกันเป็นกลุ่มก้อนถูกยกเลิกไป  กระนั้นคนเสื้อแดงและผู้รักประชาธิปไตยจำนวนมากในนครลอสแองเจลิส และจากเมืองใกล้เคียงก็ยังทะยอยกันไปลงคะแนนเลือกตั้งด้วยตัวเองในวันนั้น โดยไม่หวั่นไหว เกรงกลัวต่อการก่อกวนด่าทอและการประนามหยามหมิ่น

             คนเสื้อแดงหลายคนแหวกทางเดินฝ่า  ผ่านกลุ่มต่อต้านและผู้คัดค้าน อย่างไม่สะทกสะท้าน
พร้อมๆกับถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอไปพลาง ระหว่างเดินทางขึ้นไปยังหน่วยเลือกตั้งชั้นบน




                เหตุการณ์ในวันนั้นเป็นที่รับรู้ของรัฐบาลท้องถิ่นในนครลอสแองเจลิส  จึงส่งตำรวจของ LAPD ประมาณ 10 นายมายืนสังเกตุการณ์  และเฝ้ามองสถานการณ์เป็นกลุ่มๆ กลุ่มละ 3 ถึง 4 นาย
มีรถตำรวจหลายคันจอดซ่อนอยู่ในซอยเล็ก  ไม่มีตำรวจนายใดตอบคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น และก็ไม่ปริปากเมื่อถูกถามว่ารู้ไหมว่าเค้ามาประท้วงอะไรกัน


              หีบ ลงคะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ณ สถานกงสุลไทย นครลอสแองเจลิส เปิดและพร้อมให้หย่อนบัตรลงคะแนนได้ในเวลาบ่ายโมง หรือ 13.00 น. ของวันอังคารที่ 21 มกราคม 2014 และจะเปิดให้หย่อนบัตรลงคะแนนไปจนถึงวันศุกร์ที่ 24 มกราคม 2014 นี้


                สำหรับผู้ที่ส่งบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์  จะดูจากวันที่ซึ่งประทับอยู่บนตราไปรษณีย์

            สมาชิกของ RED USA  เป็นคนแรกที่หย่อนบัตรลงคะแนนเลือกตั้งในวันนั้น  ในเวลา 13.00 น.ของวันอังคารที่ 21 มกราคม 2014 ท่ามกลางเสียงเป่านกหวีดอย่างบ้าคลั่ง และเสียงสบถด่าทอของผู้ประท้วงริมถนนเบื้องล่าง


RED USA

Jan. 21, 2014





ม็อบระยำบุกปิด "พระจอมเกล้า พระนครเหนือ" ตะโกนใส่ลำโพง "จะสอนกันจนชาติล่มจมหรืออย่างไร ไปกู้ชาติให้ชนะก่อนค่อยกลับมาเรียน"


ม็อบระยำบุกปิด "พระจอมเกล้า พระนครเหนือ" ตะโกนใส่ลำโพง "จะสอนกันจนชาติล่มจมหรืออย่างไร ไปกู้ชาติให้ชนะก่อนค่อยกลับมาเรียน"







            ม็อบระยำ บุกมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระเจ้าเกล้า พระนครเหนือ ขนรถลำโพงนกหวีดบุกเข้า ปิดเส้นการจราจรทั้งหมดในมหาวิทยาลัย ปราศรัยผ่านไมค์รถลำโพงให้ทุกคณะ ทุกห้องเรียนประกาศหยุดเรียนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

            เมื่อเวลาประมาณ 15.00น กลุ่มผุ้ชุมนุมม็อบ กปปส ได้เคลื่อนรถลำโพงเข้าไปยังมหาวิทยาลัยพระเจ้าเกล้าพระนครเหนือฯ โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า พร้อมรถติดตามมากกว่าสิบคัน เข้าไปถึงกลางแยกในมหาวิทยาลัย ก็ประกาศปราศรัยโจมตีอธิการบดี คณาจารย์ และนักศึกษาที่กำลังนั่งเรียนกันอยู่ในห้องเรียนว่าไม่รักชาติ ไม่รักแผ่นดิน ประเทศกำลังวุ่นวายต้องการให้ประชาชนออกไปกู้ชาติกู้แผ่นดินให้พ้นภัยจากระบอบทักษิณ แต่อธิการบดี ครูอาจารย์และนักศึกษายังไม่ห่วงใยชาติกลับมานั่งสอนหนังสือ ต้องรอให้ประเทศชาติล่มจมหรืออย่างไร

               อธิการบดี นายธีรวุฒิ บุญยโสภณ ได้ไปเรียกร้องแกนนำบนรถปราศรัยให้ยุติการใช้ลำโพง เพราะว่าหลายห้องเรียนยังทำการสอนอยู่ และขอร้องให้ผู้ชุมนุมที่บุกเข้าไปหยุดเป่านกหวีดเพราะเป็นมลภาวะในมหาวิทยาลัย ท่ามกลางการมุงดูของนักศึกษาอย่างวุ่นวายภายในมหาวิทยาลัย

กปปส. กินเหล้าเมา บุกปิดล้อมมัสยิดในจังหวัดตรัง เป่านกหวัดลั่น ยิงปืนขู่หยุดกิจกรรมศาสนา


กปปส. กินเหล้าเมา บุกปิดล้อมมัสยิดในจังหวัดตรัง เป่านกหวัดลั่น ยิงปืนขู่หยุดกิจกรรมศาสนา











           กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยโพสต์เฟซบุ๊คเผย มวลชนกปปส.บางส่วนในสภาพมึนเมาบุกปิดล้อมมัสยิดในจังหวัดตรัง เป่านกหวัดลั่น บังคับข่มขู่หยุดกิจกรรมศาสนา

           บ่าย วันนี้ (22 ม.ค.) ในโลกออนไลน์มีการส่งต่อข้อความของ นายวิสุทธิ์ บินล่าเต๊ะ กรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย และ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสำนักจุฬาประจำภาคใต้ ที่โพสต์เฟซบุ๊ค เผยข้อมูลที่ได้รับการแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งว่า เมื่อวันจันทร์ ที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา ราวบ่ายโมงกว่าๆ มีมวลชน กปปส. จ.ตรัง กลุ่มหนึ่งราว 300 คน โดยบางคนอยู่ในสภาพมึนเมา ได้ไปปิดล้อมมัสยิดและโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลสุโส๊ะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เพื่อบังคับให้หยุดการการเรียนการสอน โดยเหตุเกิดขึ้นหน้ามัสยิด ซึ่งขณะที่ไปปิดล้อมนั้นครูนักเรียนราว 80 คนกำลังละหมาด จนทำให้นักเรียนบางส่วนต้องเลิกปฏิบัติศาสนกิจชั่วคราวด้วยความตกใจ

          ทั้งนี้ข้อความที่ นายวิสุทธิ์ บินล่าเต๊ะ กรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊ค วันนี้ เวลา15.22 น. มีใจความว่า

                ด่วน !!! มัสยิดสำคัญใน จ.ตรัง ถูกข่มขู่คุกคามโดยม็อบอันธพาล
            14.45 น. เมื่อครู่นี้ ได้คุยกับ ผญบ.สุโส๊ะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ทราบว่าเมื่อ 20 มค.ที่ผ่านมา ขณะที่เด็ก นร.โรงเรียนประถมภายใต้การกำกับชองมัสยิดสุโสะ ซึ่งเป็นมัสยิดใหญ่สุดของ อ.ปะเหลียน กำลังละหมาดซุฮฺนิกันอยู่ และกลุ่มญะมาอะฮฺตับลีฆกำลังมีการตะลีมกันอยู่นั้น ได้มีกลุ่มคนประมาณ 300 คนได้ไปปิดประตูมัสยิดไว้พร้อมเป่านกหวีดสะเทือนเลื่อนลั่น บังคับ ข่มขู่ให้หยุดกิจกรรมต่าง ๆ และให้ รร.ของมัสยิดปิดการเรียนการสอน จนเด็ก นร.พากันแตกตื่น ยกเลิกละหมาดกลางคัน และกิจกรรมการตะลีมก็ถูกยกเลิกไปโดยปริยาย แม้จะมีความพยายามอธิบายว่านี่เป็นกิจกรรมทางศาสนาที่มัสยิดหยุดไม่ได้ แต่ม็อบซึงหลายคนมีอาการมึนเมาก็ไม่ยอมรับฟัง จนผู้ใหญ่บ้านต้องให้คนเรียกชาวบ้านมาช่วย แกนนำม็อบก็ท้าว่าเรียกมาเลย ตนก็จะเรียกคนมาเพิ่มอีก ก่อนกลับยังยิงปืนขู่หน้ามัสยิดหนึ่งนัดด้วย

             การคุกคามมัสยิดมิให้ปฏิบัติสิ่งที่เป็นวาญิบ ถือเป็นภัยร้ายต่อมุสลิม หากรัฐดำเนินการเอง มุสลิมก็ต้องขบถต่อรัฐนั้น แต่นี่เป็นม็อบผู้ดีทำ พี่น้องจะว่าอย่างไร ?

           ทั้งนี้ กรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย ยังได้โพสต์ข้อความของผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวที่กล่าวว่า "ผมรู้สึกถูกหมิ่นหยามอย่างรุนแรง และเจ็บปวดมากที่มัสยิดถูกคุกคามเช่นนี้"

            นอกจากนั้น กรรมการอิสลามแห่งประเทศไทยยังอ้างถึงรองประธานกรรมการอิสลาม จ. ตรัง คนหนึ่งที่กล่าวว่า "ม้สยิดสุโสะเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดใน อ.ปะเหลียน หากเขาข่มขู่เราได้ มัสยิดเล็ก ๆ จะไปเหลืออะไร ?!!!”






"กรรมการอิสลามสงขลา" ยืนยันชัด "ม็อบ กปปส. เมาเหล้า-ปิดมัสยิด-ยิงปืนขึ้นฟ้า จนต้องยุติปฏิบัติศาสนกิจจริง"


               นายวิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ม็อบ กปปส ปิดล้อมมัสยิดสุโสะ ซึ่งเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุด ในอำเภอปะเหลียน ขณะที่เด็กนักเรียนกำลังเรียนหนังสือ และผู้ใหญ่กำลังทำพิธีละหมาดซุฮฺนิ ม็อบ กปปส ประมาณ300คนได้เข้าไปปิดล้อม ปิดประตูโรงเรียน มัสยิด ยกเลิกการเรียนการสอน ตลอดจนการยิงปืนขึ้นฟ้าข่มขู่ให้ปิดมัสยิดว่า


            “วันนั้น ข้อเท็จจริง คือผู้ใหญ่บ้านสุโส๊ะ ได้เล่าให้ฟัง เป็นจริงครับ ม็อบเค้าไปปิดล้อมขณะที่ในมัสยิด กำลังปฏิบัติศาสนกิจ จนต้องยุติไปจริง”

         “ ขณะนี้ กระแสข่าวการปิดมัสยิดนี้ เกิดปฏิกิริยากว้างขวางในหมู่ศาสนิกชนจำนวนมาก เพราะการกระทำดังกล่าวนี้เป็นการลบหลู่ดูหมิ่นต่อศาสนามุสลิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่อยู่ในม็อบนั้นมีลักษณะมึนเมา ซึ่งในหลักศาสนาแล้ว การดื่มเหล้านั้นเป็นสิ่งที่ต้องห้ามอยู่แล้ว แต่นี่คนเมา กลับไปข่มขู่คุมคามในศาสนสถานอีกจึงเป็นบาปอย่างยิ่ง”


          “ผมไม่รู้ว่าคนที่ไปก่อเหตุเป็นใคร ผู้ใหญ่บ้านก็เรียกชาวบ้านมาให้ดูว่ารู้จักม็อบเหล่านั้นไหม ก็ปรากฏว่าไม่มีใครรู้จัก ไม่รู้ว่าคนในพื้นที่หรือเปล่า เค้ายิงปืนแล้วก็บอกว่าหากไม่หยุดจะโทรไปตามคนมาให้เยอะขึ้นอีก ผู้ใหญ่บ้านก็เลยต้องเรียกคนในหมู่บ้านมาช่วยกันเฝ้าดูมากขึ้น ดูแล้วไม่ใช่คนในพื้นที่ แต่นี่เป็นการกระทำที่เลวร้ายที่คุกคามศาสนาสถาน อย่าลืมว่าศาสนาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่ได้อยู่ในวังวนขัดแย้งทางการเมือง การที่ม็อบมาปิดโรงเรียน ปิดมัสยิด ไม่ให้ปฏิบัติศาสนกิจจึงเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนและศาสนิกชน”


           ที่สำนักงานคณะกรรมการกลางประจำจังหวัดสงขลา จะมีแถลงการณ์ประนามการกระทำในครั้งนี้ และจะแจ้งให้พี่น้องมุสลิมทุกคนอดทน อดกลั้น เพื่อไม่ต้องการให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย ส่วนที่ทางกรุงเทพนั้น ท่านจุฬาราชมนตรีทราบแล้ว มีความห่วงใยมาก ไม่ได้นิ่งนอนใจ และจะมีแถลงการณ์ประณามการกระทำที่เลวร้ายนี้ในนามของสำนักจุฬาราชมนตรี หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป”


"โรงเรียนอิสมาอีลียะห์" ลั่น "อภิสิทธิ์-สุเทพ และ กปปส" ต้องแถลงการณ์ขอโทษพี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศอย่างเป็นทางการ

            จากกรณีที่กลุ่มม็อบ กปปส. ก่อเหตุคุกคามโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม อิสมาอีลียะห์ มูลนิธิ ซึ่งตั้งอยู่ที่ ม.1 ต.สุโสะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง จนทำให้โรงเรียนต้องหยุดสอนไป 1 วัน ในวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมานั้น


             นายวีระ เจริญฤทธิ์ ซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามดังกล่าว ที่ระบุว่า ต้องการให้ นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ ออกแถลงการณ์ขอโทษชาวไทยมุสลิม ไปยังท่านจุฬาราชมนตรีอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ นาย อภิสิทธิ์ นาย สุเทพ และกลุ่ม กปปส ต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่า จะมีมาตรการอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้มวลชนของตนเอง มาคุกคามโรงเรียนสอนศาสนาและมัสยิดอีก