วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2557

Thai authorities are "very seriously" considering a state of emergency after a weekend of violence in the capital where protesters have been trying for more than two months to bring down the government, the security chief said on Monday.





(Reuters) - Thai authorities are "very seriously" considering a state of emergency after a weekend of violence in the capital where protesters have been trying for more than two months to bring down the government, the security chief said on Monday.

The violence is the latest episode in an eight-year conflict that pits Bangkok's middle class and royalist establishment against poorer, mainly rural supporters of Prime Minister Yingluck Shinawatra and her brother, ex-premier Thaksin Shinawatra, who was toppled by the military in 2006.

"We're prepared to use the emergency decree ... Everyone involved including the police, the military and the government is considering this option very seriously, but has not yet come to an agreement," National Security Council chief Paradorn Pattantabutr told Reuters after meeting Yingluck.

"The protesters have said they will close various government offices. So far, their closures have been symbolic, they go to government offices and then they leave." he said.

"But if their tactics change and they close banks or government offices permanently, then the chance for unrest increases and we will have to invoke this law."

The emergency decree gives security agencies broad powers to impose curfews, detain suspects without charge, censor media, ban political gatherings of more than five people and declare parts of the country off limits.

The size of the demonstrations in Bangkok has declined, but the Centre for the Administration of Peace and Order (CAPO), a body grouping government and security officials, said small protests had spread to 18 other areas.

"The protesters haven't threatened to shut down government buildings but they are taking their orders from protest leaders in Bangkok so we're keeping an eye on them," CAPO deputy spokesman Anucha Romyanan told Reuters.

One man was killed and dozens of people were wounded, some seriously, when grenades were thrown at anti-government protesters in the city centre on Friday and Sunday.

"I think these attacks have been designed to provoke an army reaction," said Paul Chambers, director of research at the Institute of South East Asian Affairs in Chiang Mai, predicting a measured increase in the violence.

That in turn could prompt the Election Commission to refuse to oversee an election called for February 2, which the main opposition has said it will boycott, he said.

FISCAL POLICY CRIPPLED

The protests led by opposition firebrand Suthep Thaugsuban were triggered by Yingluck's move last year to attempt to push through a political amnesty that would have allowed her brother Thaksin to return home.

The billionaire former telecoms tycoon lives in Dubai to avoid a jail sentence for abuse of power, but is thought to run his sister's government. The protesters want to remove his influence through ill-defined political reforms.

The upheaval threatens economic growth and a small majority of economists polled by Reuters thought the central bank would cut interest rates by 25 basis points to 2 percent this week.

"Fiscal policy is pretty much crippled right now and the onus is on the central bank to boost the economy," DBS Bank in Singapore said in a note, although it did not expect a rate cut this time, saying it would do little to help confidence under present circumstances.

Business is getting nervous. Kyoichi Tanada, president of Toyota Motor Corp's (7203.T) Thai unit, said on Monday he was unsure the Japanese car maker would increase investment in Thailand if the crisis was drawn out.

The government has mostly avoided direct confrontation with protesters while the army, which has staged or attempted 18 coups in 81 years of on-off democracy, has stayed neutral.

The violence is the worst since 2010 when Suthep, at the time a deputy prime minister in charge of security, sent in troops to end mass protests by pro-Thaksin activists.

Suthep faces murder charges related to his role in that crackdown, when more than 90 people were killed, and for insurrection in leading the latest protests.

Yingluck faces legal charges from the anti-corruption agency, which said last week it would investigate her role in a loss-making government rice purchase scheme.

The scheme has won her party huge support in the rural north and northeast. But there is growing discontent among farmers who say they have not been paid for their rice and are threatening to block major roads.

Chambers said the rise in violence could suck the police into the fray.

"(That would provide) Suthep with an excuse to accuse Yingluck of repressing the demonstrators, the army may suggest that the Yingluck government step aside or judicial cases against Yingluck's government may be expedited to push (her party) Puea Thai from power," he said.

(Writing by Jonathan Thatcher and Amy Sawitta Lefevre; Editing by Nick Macfie and Alan Raybould)

ค่าใช้จ่าย มะ หา สาน อะ ลัง กาน งานแหกตานายทุน และแหกตาประชาชน





          การชุมนุมของ กปปส.หรือคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กว่า 2 เดือนครึ่งที่ผ่านมา ตั้งแต่เวทีสามเสนมาสู่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน กระทั่งยกระดับสูงสุดชัตดาวน์ กทม.ในวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา กระจายตั้งเวทีปราศรัย 7 จุด 8 เวที

สิ่งสำคัญคือ ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการเวทีและดูแลมวลมหาประชาชนที่เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว

ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามก็พยายามโจมตีว่า ยิ่งการชุมนุมลากยาวได้ขนาดนี้ น่าจะมีกลุ่มทุนหนุนหลัง ทำให้ กปปส.เองก็ต้องพยายามทำความกระจ่างเรื่องนี้

เมื่อตรวจสอบข้อมูลจาก กปปส.หนึ่งในแกนนำ ยอมรับว่า ภาระหนักเรื่องค่าใช้จ่ายของเวที ที่เพิ่มขึ้น รวมๆ แล้วสูงถึงหลัก 10 ล้านบาทต่อวัน

ขณะที่ทุนเริ่มต้นที่ สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เคยบอกเอาไว้ว่า มีประมาณ 500 ล้านบาท

ในระยะเริ่มต้นเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เขาบอกว่า มีค่าใช้จ่ายประมาณวันละ 4-5 ล้าน แต่ระยะหลัง ได้ขยับขึ้นอีก 1-2 ล้านต่อวัน เพราะจำนวนคนเพิ่มขึ้น และหลังจากชัตดาวน์กรุงเทพฯ กระจายแต่ละเวทีย่อยออกไป คาดว่าค่าใช้จ่ายจะอยู่ประมาณ 1-3 ล้านต่อเวทีต่อวัน

แต่ถึงอย่างไร พวกเขาก็จะไม่ยุบเวทีมารวมกัน ยังคงปักหลักอยู่ทั้ง 7 จุด แม้คนจะน้อยลง ไม่ใช่นั้นรัฐบาลในเชิงยุทธศาสตร์ จะถูกรัฐบาลมองว่าเราถอย ไม่มีน้ำยา

ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบข้อมูลค่าใช้จ่ายของเวที กปปส.ที่ตกราววันละ 5 ล้านบาทต่อวัน เมื่อเริ่มต้นเปิด 8 เวที(ต่อมายุบเวทีแจ้งวัฒนะที่มี 2 เวทีเหลือเวทีเดียว) ปรากฎว่าค่าใช้จ่ายเพิ่มเป็นมากกว่า 10 ล้านบาทต่อวัน มีรายการดังนี้

  • 1.ค่าเวที ค่าเครื่องเสียง ถ่ายทอดสด ประมาณ 2-3 ล้านบาทต่อวัน เฉพาะจอ LCD ค่าใช้จ่าย 1 แสนบาทต่อจอต่อวัน

ทั้งนี้ เดิมเวทีหลักราชดำเนินใช้ LCD 14 จอ คิดเป็น 1.4 ล้านบาทต่อวัน เมื่อย้ายมาใช้เวทีปทุมวัน เป็นเวทีหลัก ใช้ 8 จอ ส่วนเวทีอื่นๆ ต้องมีอย่างน้อย 2-3 จอ รวมแล้ว เพิ่มขึ้นอีกกว่า 20 จอ คิดเป็นเงิน 2.8 ล้านบาท/วัน (แต่มีส่วนลดราคา เช่น เช่า 3 วัน ฟรี 1 วัน)

  • 2.ค่าอาหาร ประมาณ 1 ล้านบาทต่อวัน
  • 3.ค่าเบี้ยเลี้ยงอาสาสมัครรักษาความปลอดภัย และอาสาสมัครอื่นๆ 2,000 คน จ้างแบบเหมาจ่าย ราย 3 วัน คิดเป็นเงินหลายแสนบาทต่อวัน
  • 4.ค่าเต้นท์ขนาดใหญ่ 4 หมื่นบาทต่อหลังต่อวัน ค่าใช้จ่ายหลายล้านบาทต่อวัน
  • 5.ค่ากิจกรรมอื่นๆ เช่น วงดนตรีที่มาแสดง ค่าตกแต่งเวที หลายแสนบาทต่อวัน

ขณะที่ สุเทพ เทือกสุบรรณ เปิดเผยว่า ทุนที่นำมาใช้ต่อสู้ ได้มาจากการจำนองที่ดินบนเกาะสมุยหมดทุกแปลงแล้ว โดยแปลงแรกจำนองกับพรรคพวกกัน ได้มา 25 ล้านบาท ส่วนแปลงอื่นๆ ที่เป็นของลูกสาวและลูกชาย ก็เอาไปจำนองมาช่วยพ่อ ให้ต่อสู้จนกว่าจะชนะ



คนใกล้ชิด สุเทพ อย่าง เอกนัฎ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส.ยืนยันว่า กปปส.ไม่มีแหล่งทุนตั้งแต่แรก ไม่มีท่อน้ำเลี้ยงอย่างที่ถูกกล่าวหา แต่กำนันสุเทพมีทุนตั้งต้น ด้วยการเอาที่ดินไปจำนอง เอาเงินออกมาสู้ ซึ่งหลักๆ ที่ กปปส.ยังชุมนุมกันยาวนานได้ ก็เพราะเงินบริจาคจากประชาชน

เอกนัฎ บอกว่าที่ผ่านมา แต่ละวันยอดเงินบริจาคเฉลี่ยวันละ 1-2 ล้านบาท แต่เมื่อถูกดีเอสไอประกาศอายัด 2 บัญชี คือ "ครัวราชดำเนิน" และ "ผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม" มีผลให้เงินบริจาคลดลง เหลือประมาณวันละ 5 แสน-1 ล้านบาท


โดยก่อนที่จะดาวกระจายปิด กทม.ยอดเงินบริจาคที่ประชาชนช่วยกันทุกช่องทาง ประมาณ 50 ล้านบาท

ฉะนั้น จึงต้องใช้อย่างประหยัดทุกอย่าง โดยการบริหารจัดการทั้งหมด แกนนำ กปปส.แต่ละคนช่วยกันทำ ไม่มีการจ้างออร์แกไนซ์ แต่ประสานงานเอกทุกอย่าง ตั้งแต่เช่าอุปกรณ์ต่างๆ เองทั้งหมด เพื่อให้ได้ราคาถูก

ส่วนสตาฟฟ์และวิทยากร ก็ขอไม่รับค่าจ้าง จะมีค่าใช้จ่ายเฉพาะทีมรักษาความปลอดภัยเท่านั้น เพราะถือว่าเขาเสี่ยงอันตรายปกป้องมวลชน


โฆษก กปปส.ระบุว่า ในยุทธศาสตร์ชัตดาวน์กรุงเทพฯ เมื่อยุบเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แล้วไปเพิ่มเวทีอื่นๆ 7 จุด 8 เวที ค่าใช้จ่ายแต่ละเวทีนั้น ก็ยังใช้เงินบริจาคของประชาชนเป็นหลัก โดยให้แกนนำแต่ละเวทีบริหารจัดการค่าใช้จ่าย หากไม่พอ ก็จะมีเงินกองกลางของ กปปส.ช่วยเหลือ

แต่ก่อนหน้านี้ ที่ยังปักหลักที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเวทีเดียว ค่าใช้จ่ายประมาณ 4-5 ล้านบาทต่อวัน หลักๆ เป็นค่าเวที เครื่องเสียง ค่าอาหาร เบี้ยเลี้ยงอาสาสมัคร เบ็ดเตล็ดอื่นๆ เฉลี่ยรายการละ 1 ล้านบาท


เขาบอกด้วยว่า นอกจากรายจ่ายในกิจกรรมต่างๆ ของเวที กปปส.ก็ยังต้องช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ ทั้งผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ทั้งฝ่ายมวลชนและตำรวจ (รวม 3 ราย) รายละ 1 ล้านบาท รวมทั้งผู้ได้รับบาดเจ็บ อีกกว่า 20 ราย และผู้ที่ได้รับความเสียหายอื่นๆ เช่น ถูกทุบรถยนต์

โฆษก กปปส.ยืนยันว่า การชุมนุมของมวลมหาประชาชน ขับเคลื่อนมาได้เพราะเงินบริจาค ทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มาสำคัญมากต่อ กปปส.ทำให้เราชุมนุมมาได้จนถึงทุกวันนี้

ม๊อปเมือกมั่ว จัดฉากกันเอง แล้วเรียกสื่อไปถ่าย หลอกพวกเดียวกันเอง

เปิดคลิปหลักฐานชัด การ์ดม็อบ กปปส จัดฉากปืนคลังแสง วางเสื้อแดงใส่ร้ายคนเสื้อแดงและรัฐบาลเองกับมือ

เปิดคลิปหลักฐานชัด การ์ดม็อบ กปปส จัดฉากปืนคลังแสง วางเสื้อแดงใส่ร้ายคนเสื้อแดงและรัฐบาลเองกับมือ

Thailand’s anti-democracy protests should provoke a harsh rebuke from the U.S.


Thailand’s anti-democracy protests should provoke a harsh rebuke from the U.S.


By Editorial Board, Published: January 16

POPULAR DEMONSTRATIONS against democracy are becoming an unfortunate trend in developing countries where elections have challenged long-established elites. The latest case is Thailand, where thousands of people took to the streets Monday to demand that the country’s freely chosen government step down, that an unelected council take its place and that elections scheduled for next month be canceled. The protesters’ strategy appears to be to disrupt Bangkok to the point at which the government will feel compelled to resign or be removed by the military.


Similar tactics have succeeded in bringing down two previous governments led by former prime minister Thaksin Shinawatra and his supporters since 2006, while a third was forced out by a dubious court decision. This time, Prime Minister Yingluck Shinawatra, Mr. Thaksin’s sister, is standing firm, as she should. But she could use more support from the United States in rejecting an undemocratic outcome to the crisis.


Ironically, what amounts to a coup attempt is being supported by many in the opposition Democratic Party. The party’s problem with democracy stems from its failure to win an election since 2001, when Mr. Thaksin’s movement first surged to power. The Democrats represent Bangkok’s middle and upper classes and the traditional business establishment linked to the royal family. Mr. Thaksin, a billionaire businessman who now lives in exile, is a populist who draws support from previously disenfranchised Thais — the poor in urban areas and the rural northeast. While he did abuse power and commit human rights abuses when he was in office, his governments were freely and fairly elected, as was Ms. Yingluck’s.




In a decade of political and street conflicts, the Thaksin movement has seemed to mature: Ms. Ying­luck’s administration was proceeding relatively smoothly until she attempted to pass an amnesty bill through parliament that would have allowed her brother to return home. The opposition, meanwhile, has grown more radical. No longer do its leaders claim, as they once did, to be liberal democrats who seek only to correct Mr. Thaksin’s abuses. Now they aim explicitly at installing a regime that would empower a minority while seeking the “eradication” from politics of Mr. Thaksin and his family.


Opposing such an agenda ought to be an easy call for the United States, which has close economic and security relations with Thailand. But as was the case when Egyptians sought to provoke a coup against their elected government last summer, the Obama administration’s response has been weak. A State Department spokeswoman called Monday for the crisis to be resolved through a “democratic process” and praised the government’s “restraint” in responding to the demonstrators.


The administration has not, however, made clear publicly that a coup — whether by the military or the street mobs — would be unacceptable to the United States or that it would result in a suspension of aid and security cooperation. U.S. law mandates such a cutoff, but since the administration declined to observe the statute following Egypt’s military coup in July, Thailand’s anti-democracy militants may be emboldened to believe that they, too, will be tolerated by the Obama administration. They shouldn’t be. As has been the case in Cairo, the victory of the anti-democracy forces would only lead to more violence and instability.


พวกมึงจงรักชาติ

ภาพลิงค์ที่แปะไว้

ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องสงสัยปาระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้ว


ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องสงสัยปาระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้ว


วันนี้ (20 ม.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับ ชายไทยไม่ทราบชื่อ ตำหนิรูปพรรณตามกล้องวงจรปิด ตามข้อเสนอของพนักงานสอบสวน สน.พญาไท หลังก่อเหตุปาระเบิดชนิดสังหารเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 2 จุด เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บรวม 28 ราย โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้วิ่งต่อไปยังท้ายซอยราชวิถี 14 ซึ่งเป็นทางตันและมีรั้วสังกะสีกั้น คนร้ายจึงได้พังรั้วสังกะสีและวิ่งหลบหนีไปตามทางเดินเลียบคลองสามเสน มุ่งหน้าไปทางวัดมะกอก ทะลุออกใต้ทางด่วนวัดมะกอก (ซอยราชวิถี 18)และได้ขึ้นจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งคนร้ายได้ว่าจ้างให้ไปส่งที่สะพานซังฮี้ เมื่อไปถึงสะพานซังฮี้คนร้ายได้ให้ไปส่งต่อที่วัดรวก บางบำหรุ จึงได้เข้าไปส่ง จากนั้นคนร้ายได้หายไปในซอยวัดดังกล่าว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน และชุด E.O.D. ได้ทำการตรวจที่เกิดเหตุ ผลการตรวจพบ จุดระเบิดที่ 1 พบกระเดื่องตกอยู่บริเวณผิวถนนใกล้เต็นท์หลังเวทีปราศรัย จำนวน 1 ชิ้น, จุดระเบิดที่ 2 พบสลักระเบิดตกอยู่บนพื้นผิวถนนห่างจากจุดที่เกิดเหตุระเบิด 4 เมตร จำนวน 1 ชิ้น และพบกระเดื่องอยู่ในกองเสื้อผ้าที่วางไว้ที่แผงขายเสื้อผ้า ห่างจากจุดระเบิดประมาณ 3 เมตรจำนวน 1ชิ้น ซึ่งระเบิดที่ใช้ในการก่อเหตุครั้งนี้เป็นระเบิด RGD5 ซึ่งเป็นชนิดเดียวกันกับที่ใช้ก่อเหตุระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง นอกจากนั้น ทาง E.O.D. ได้ตรวจสอบพบว่ากระเดื่องนิรภัยที่พบทั้ง 2 จุดเป็นชุดเดียวกัน จากกรณีดังกล่าวจึงสันนิษฐานได้ว่าคนร้ายในสองเหตุการณ์ดังกล่าว

นี้เหี้ยหรืออาจารย์ เตรียมล่า 2 หมื่นรายชื่อ เพื่อยื่นถอดถอน สมชัย ศรีสุทธิยากร จากตำแหน่ง กกต.


พร้อมพงศ์ เผย พรรคเพื่อไทย เตรียมล่า 2 หมื่นรายชื่อ เพื่อยื่นถอดถอน สมชัย ศรีสุทธิยากร จากตำแหน่ง กกต. วอนอย่ายกเรื่องโฟร์ซีซั่นส์มาด่านายกฯ ซึ่งมีเพศเดียวกันกับมารดา

วัน ที่ 17 มกราคม 2557 นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตนได้นำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้ พรรคเพื่อไทย 28 เขตเลือกตั้ง เข้ายื่นหนังสือต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผ่าน นายปรีชา พุตฉายา ผอ.ศูนย์การเรียนการเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่ 2 เพื่อเรียกร้องให้ กกต. เยียวยาผู้สมัครทั้ง 28 เขต ที่ไม่สามารถรับเลือกตั้งได้

โดยอยากให้ กกต. คุ้มครองสิทธิ์ และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเงินสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งทราบมาว่ามีการเบิกเงินในการพิมพ์บัตรเลือกตั้งและลงคะแนนเลือกตั้งนอก ราชอาณาจักร ไปแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท จาก 3,885 ล้านบาท

อีกทั้งจะมีการรวบรวมรายชื่อประชาชน จำนวน 2 หมื่นรายชื่อ เพื่อ ยื่นต่อประธานวุฒิสภา ให้ดำเนินการถอดถอน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร เพื่อให้ออกจากตำแหน่ง กกต. เพราะ กกต. จำนวน 5 คน มีเพียง นายสมชัย ที่ยังบอกว่าการเลือกตั้งทำให้บ้านเมืองฉิบหาย ซึ่งตนเห็นว่าการมี นายสมชัย จะทำให้บ้านเมืองฉิบหายมากกว่า เพราะจงใจไม่ปฏิบัติหน้าที่

นอกจากนี้ ยังอยากให้ นายสมชัย หยุดพูดในลักษณะเสียดสีนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะกรณีโฟร์ซีซั่นส์ เพราะไม่ใช่การกระทำของสุภาพบุรุษ และมารดาของนายสมชัยก็เป็นสุภาพสตรีเช่นกัน

นี้เหี้ยหรืออาจารย์



คลิป "ชุมพล จุลใส" กระชากเสื้อ ผอ.สำนักคดีอาญา DSI ในลิฟท์ให้ออกไปจากตึกทำงาน

คลิป "ชุมพล จุลใส" กระชากเสื้อ ผอ.สำนักคดีอาญา DSI ในลิฟท์ให้ออกไปจากตึกทำงาน


            เมื่อวันที่ 20 ม.ค. กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.จากเวทีราชประสงค์ นำโดย นายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ และนายชุมพล จุลใส ได้เดินทางเข้ามาภายในอาคารซอฟแวร์ปาร์ค ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อขอเข้าพบนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ และประกาศให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอหยุดทำงาน โดยให้เวลาออกจากสถานที่ภายใน 30 นาที

          ทั้งนี้ พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยาศักดิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 ดีเอสไอ ได้ลงจากลิฟท์มา นายชุมพลจึงได้ไปขอให้ออกมาชี้แจงกับมวลชน แต่ทางพ.ต.อ.นิรันดร์ ปฏิเสธ นายชุมพลจึงเข้าไปจับแขนและเสื้อ จนพ.ต.อ.นิรันดร์ ถอยเข้าไปในลิฟท์ พร้อมยกมือไหว้ ขออย่าให้ผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรง จากนั้นนายพุฒิพงษ์ จึงได้เข้าไปเจรจา โดยมีการ์ดของผู้ชุมนุมติดตามไปด้วย และนายชุมพล จุลใส ยังตามไปกระชากแขนเสื้อเพื่อไล่ออกจากตึก

ขอขอบคุณ มติชนทีวี
https://www.facebook.com/photo.php?v=586993764712091

จับรายวัน! ผู้ชุมนุมใช้รถขนอาวุธ มีด เคียว ไม้คมแฝก กระบองเหล็ก ไม้หน้าสาม ระเบิดปลอมเพียบ


จับรายวัน! ผู้ชุมนุมใช้รถขนอาวุธ มีด เคียว ไม้คมแฝก กระบองเหล็ก ไม้หน้าสาม ระเบิดปลอมเพียบ







เมื่อวันที่ 19 มค.57 เวลาประมาณ 22.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดด่านความมั่นคงทางขึ้นสะพานพุทธประกอบด้วย พ.ต.ท.ปฎิศสตร์ ศรีมณฑา รอง ผกก.ป.สน.ตลาดพลู พ.ต.ท.อาสา เก่งพฤทธิ์ สวป.สน.บางยี่เรือ พร้อมกับพวก ตรวจค้นรถยนต์มิซูบิชิสีแดงเข้ม ฐม 9773 กทม. พบ นายสุเมธ สมอาษา อายุ 36 ปี ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวตรวจค้นพบ


  • 1.อาวธุมีดจำนวน 5 เล่ม
  • 2.เคียว จำนวน 2 เล่ม
  • 3.ไม้คมแฝกจำนวน 2 อัน
  • 4.ไม้กอล์ฟ 2 อัน
  • 5.เหล็กดิ้ว 2 อัน
  • 6.กระบองเหล็ก 2 ท่อน 1อัน
  • 7.หน้าไม้ 3 คัน
  • 8.หนังสติ๊ก 2 อัน
  • 9.สายนกหวีดลายธงชาติ 2 อัน
  • 10.ระเบิดพลาสติดปลอมจำนวน 2 ลูก


จึงจับกุมตัวพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่าพาอาวุธมีอและสิ่งเทียมอาวธุไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและฝ่าฝืนพ.ร.บ.ความมั่นคง

ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.บุปผาราม เพื่อดำเนินคดีต่อไป

จับ กปปส. พกปืนหน้าพรรคเพื่อไทย โดยไม่มีใบอนุญาต


จับ กปปส. พกปืนหน้าพรรคเพื่อไทย โดยไม่มีใบอนุญาต


            ด้วยเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2557 เวลาประมาณ 02.50 น. จทน.ตร.ตั้งด่านความมั่นคง บริเวณหน้าพรรคเพี่อไทย แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ตรวจพบรถยนต์หมายเลขทะเบียน อ-5515 กทม. (ป้ายแดง) โดย นายเอกชัย สอนเนย อายุ 39 ปี อยู่ที่ 5 หมู่ 5 แขวงพืชอุดม เขตลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เป็นผู้ขับขี่มาท่าทางมีพิรุธต้องสงสัย จึงได้เรียกตรวจค้น และพบของกลาง ดังต่อไปนี้

  • 1. อาวุธปืน ยี่ห้อ Colt ขนาด 9 มม. สีดำ หมายเลขทะเบียน กท 5602733 จำนวน 1 กระบอก
  • 2. เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 12 นัด
  • 3. ซองบรรจุกระสุน (แม็กกาซีน) จำนวน 2 แม็กกาซีน

           โดยกล่าวหาว่า “พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้านหรือที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มี เหตุจำเป็นเร่งด่วน และไม่มีเหตุอันควร, ฝ่าฝืนประกาศและข้อกำหนด ห้ามบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดนำ อาวุธเข้าพื้นที่ประกาศกำหนดตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงฯ พ.ศ.2551” นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

จับสิบเอกพกอาวุธป้วนเปี้ยนม็อบ! ปืน กระสุนพร้อมกระเป๋าสะพายพก


จับสิบเอกพกอาวุธป้วนเปี้ยนม็อบ! ปืน กระสุนพร้อมกระเป๋าสะพายพก


       วันที่ 19 มกราคม 2557 เวลาประมาณ 22.40 น. ขณะที่ จนท.ตร.ตั้งด่านความมั่นคง บริเวณหน้าตลาด อ.ต.ก. ถนนกำแพงเพชร แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พบสิบเอกปัญจเทพ ตะนะวิไชย อายุ 25 ปี อยู่ที่ 391 หมู่ที่ 6 ต.ห้วยหม้าย อ.สอง จว.แพร่ ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น ฟีโน่ หมายเลขทะเบียน วงง-505 กทม. จึงได้เรียกตรวจค้น และพบของกลางดังต่อไปนี้

  • 1. อาวุธปืน ยี่ห้อ Taurus ขนาด 11 มม. สีดำ จำนวน 1 กระบอก
  • 2. เครื่องกระสุนปืน ขนาด 11 มม. จำนวน 25 นัด
  • 3. ซองบรรจุกระสุน (แม็กกาซีน) จำนวน 3 แม็กกาซีน
  • 4. กระเป๋าสะพาย สีดำ (ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายที่สีดำที่ผู้ต้องหาสะพายอยู่ในขณะตรวจค้น)

          จึงแจ้งข้อหาว่า“พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้านหรือที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่มี เหตุอันสมควร, ฝ่าฝืนประกาศและข้อกำหนดห้ามบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดนำอาวุธเข้าพื้นที่ประกาศกำหนดตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงฯ พ.ศ.2551”  นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

จับด้ามธงม็อบซ่อนมีด! เดินถือธงโบกรอบเมืองที่แท้ดัดแปลงซ่อนมีดด้านในหน้าจุฬาฯ



จับด้ามธงม็อบซ่อนมีด! เดินถือธงโบกรอบเมืองที่แท้ดัดแปลงซ่อนมีดด้านในหน้าจุฬาฯ





            วันนี้ 19 มกราคม 2557 เวลา 02:05 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจความมั่นคง คัดกรองบริเวณหน้าคณะอักษรศาสตร์ จุฬา ถนนอังรีย์ดูนังต์ ได้จับกุมตัว นายสำริต แสงงาม อายุ 35 ปี พร้อมของกลางเป็น แท่งโลหะลักษณะคล้ายด้ามธง พร้อมมีด ซึ่งสามารถดัดแปลง ประกอบเป็น อาวุธหอก จำนวน 1 ชุด ซุกซ่อนในกระโปรงท้ายรถ ขณะ ผู้ต้องหา ขับรถยนต์แท้กซี่ หมายเลขทะเบียน ฆจ 8395 กทม. ผ่านจุดตรวจคัดกรอง มุ่งหน้าไปยัง ถนนพระราม1 จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ ควบคุมตัวพร้อม ของกลางนำส่ง สน.ปทุมวัน

จับการ์ดม็อบ กปปส. พกปืน กระสุน ประทัดยักษ์ พร้อมห้อยบัตรการ์ดม็อบชัดเจน


จับการ์ดม็อบ กปปส. พกปืน กระสุน ประทัดยักษ์ พร้อมห้อยบัตรการ์ดม็อบชัดเจน









          วันที่ 18 ม.ค.57 เวลาประมาณ 22.00 น. ขณะที่ จนท.ตร.ตั้งจุดตรวคัดกรองสิ่งผิดกฎหมายบริเวณถนนพหลโยธิน(ขาเข้า) ปรากฎว่ามีชายสองคน(มีคนซ้อนท้าย)ขับรถจักรยานยนต์มุ่งหน้ามาที่ด่านตรวจฯ แต่ปรากฎว่าก่อนถึงด่านตรวจฯประมาณ หนึ่งร้อยเมตร รถ ได้รีบกลับรถจักรยานยนต์แล้วขับหลบหนี จนท.ตร.จึงได้แจ้งวิทยุสกัดจับ และสามารถทำการจับกุมชายทั้งสองได้คือ
  • 1.นายเนรมิต เพียรภายลุน อายุ36 ปี
  • 2.นายนรินทร์ หลำตี อายุ 22 ปี 
พร้อมด้วยของกลาง
  • 1.เครื่องกระสุนปืนลูกซอง เบอร์12
  • 2.วัตถุระเบิด(ปะทัดยักษ์) 1ลูก
  • 3.อาวุธมีด 2 เล่ม
  • 4.ปืนปลอม(พลาสติก)

         และได้ทำการจรวจยึดรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปี้ไอ สีแดง-ขาว คันหมายเลขทะเบียน อษป -935 กทม. พฤติการณ์ใช้กระดาษ A4 ปิดบังแผ่นป้ายทะเบียน

จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพงส.สน.บางซื่อ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

อุแม่เจ้า ช่างไร้ยางจริง ๆ นิด้า


นิด้าโพลล์ ยืนยัน ผู้เข้าร่วมชุมนุม 10 ล้านคน?!



         ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้า โพล” ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า)เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “การเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองของคนไทย” ซึ่งทำการสำรวจระหว่างวันที่16-19 ม.ค.57 จากประชาชนทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 2,007กลุ่มตัวอย่างกระจายทุกระดับการศึกษาและอาชีพโดยผลการสำรวจเมื่อถามถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเข้าร่วมชุมนุมของประชาชนกลุ่มกปปส.กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาปฎิรูปประเทศไทย (คปท.)และ กลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ(กปท.)พบว่า ประชาชนร้อยละ 80.87 ระบุว่า ไม่เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มกปปส.กลุ่มคปท.และกลุ่มกปท.ขณะที่ร้อยละ 19.13ระบุว่า เคยเข้าร่วมการชุมนุมซึ่งหากคำนวณจากจำนวนประชากรที่มีอายุตั้งแต่15 ปีขึ้นไป (ประมาณ 52ล้านคน) จะพบว่า มีผู้เข้าร่วมการชุมนุมอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านคน ซึ่งถือว่ามีคนเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย