วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ทหารขอโทษหนุ่มสวมเสื้อแดงสกรีนภาพจตุพร พรหมพันธุ์ หลังบังคับถอดเสื้อออก




จากข่าว นายวสันต์ (สงวนนามสกุล) สวมใส่เสื้อแดงสกรีนภาพนายจตุพร พรหมพันธุ์ แล้วถูกเจ้าหน้าที่ทหารบังคับให้ถอดเสื้อออก เหตุเกิดบริเวณหน้าศูนย์วัฒนธรรม อ.เมืองเชียงใหม่ ช่วงกลางวัน วันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ดาบพิชิต พร้อมนายวสันต์ได้เข้าพบ พ.อ.โภคา จอกลอย หน.กองข่าว และพ.อ.สันติสุข ศรีเมือง หน.กองยุทธการ ตัวแทนพล.ต.ศรายุธ รังษี ผบ.มทบ.33 เพื่อพบปะพูดคุยทำความเข้าใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

“ล่าสุดทาง ผบ.มทบ.33 ฝากมาว่าช่วงเช้ากำชับกำลังพลผู้ปฏิบัติงานว่าไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกันเกิดขึ้นอีก ทั้งนี้ ผู้บังคับบัญชาทหารค่ายกาวิละนำเสื้อตัวต้นเหตุมาคืนให้เป็นที่เรียบร้อย และกล่าวคำขอโทษนายวสันต์ว่าอาจเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนกันระหว่างฝ่ายนโยบายกับผู้ปฏิบัติ ซึ่งเป็นนายทหารชั้นผู้น้อย แต่ก็มีการร้องขอกันว่าช่วงนี้สิ่งใดที่เป็นสัญลักษณ์ที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมขอให้เรางดเว้นก่อนสักระยะหนึ่งคิดว่าคงไม่เกินเดือนกรกฎาคมนี้ก็คงจะเป็นปกติ จึงเรียนมายังพี่น้องที่รักทราบ” ดาบพิชิต ระบุ


ทหารขอโทษ/คืนเสื้อแดงพ่อค้าปลาหมึก แต่ขอไม่ให้ใส่เสื้อที่มีสัญลักษณ์ความขัดแย้ง

Tue, 2014-07-01 06:26


สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ กรณีทหารขับฮัมวี่จับพ่อค้าปลาหมึกทอดถอดเสื้อแดง เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันนี้ (30 มิถุนายน 2557) นายพิชิต ตามูล หรือ ดาบชิต เชียงใหม่ แกนนำกลุ่ม นปช.แดงเชียงใหม่ ได้แจ้งผ่านทางหน้าเฟซบุ๊กของตน ว่าได้ประสานไปยัง พ.อ.โภคา จอกลอย หัวหน้ากองข่าว มณฑลทหารบกที่ 33 เพื่อจะนำตัว นาย วสันต์ พ่อค้าขายปลาหมึกทอด เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากกรณีที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหาร 5 นายบุกประกบตัวบังคับให้ถอดเสื้อแดงออกและยึดเสื้อไปว่า


“30/6/57 เรียนพี่น้องที่รักวันนี้ผมได้ประสานงานผ่าน พ.อ.โภคา จอกลอย หน.กองข่าว มทบ.33 ช่วงบ่ายจะพานายวสันต์ พ่อค้าปลาหมึกทอดซึ่งถูกชายฉกรรจ์ 4 คนแต่งกายคล้ายทหารพร้อมอาวุธครบมือกระทำการบังอาจปล้นทรัพย์ ในทางสาธารณะ ในเวลากลางวัน โดยได้นำทรัพย์สินส่วนตนของนายวสันต์ ไป 1 รายการคือเสื้อยืดสีแดงด้านหน้าพิมพ์ภาพลายเส้นคล้ายใบหน้าคุณจตุพร พรหมพันธ์ ประธาน นปช. เข้าพบท่าน พล.ต.ศรายุธ รังษี ผบ.มทบ.33 (ค่ายกาวิละ)เพื่อเรียนถามความชัดเจนถึงภาระกิจการปรองดองตามนโยบายที่ท่าน พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.หน.คสช.ให้ไว้ ว่าเราคนเสื้อแดงในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งใต้ร่มพระโพธิสมภารเดียวกันจะให้เราคนเสื้อแดงทั้งแผ่นดินปฏิบัติตัวอย่างไรถึงจะทำให้นโยบายความปรองดองของคนในชาติที่ท่าน หน.คสช.วางกรอบนโยบายไว้เป็นจริงมีรูปธรรมที่ชัดเจนจับต้องได้เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในชาติในแผ่นดินตามนโยบายของท่าน หน.คสช.ส่วนผลสรุปจะเป็นเช่นไรจะนำเรียนพี่น้องที่รักเพื่อทราบอีกครั้งหนึ่งภายหน้า ด้วยความเคารพ ดาบชิต เชียงใหม่”


จนเวลาประมาณ 13.30 น. นายพิชิต และนาย วสันต์ พ่อค้าปลาหมึกทอดพร้อมภรรยา ได้เข้าพบ พ.อ.โภคา จอกลอย ที่ค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่ และภายหลังเมื่อเวลาประมาณ 16.00น. นายพิชิตได้โพสต์ข้อความแจ้งความคืบหน้าพร้อมภาพประกอบบรรยากาศการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ว่า


30/6/57 จากกระทู้ก่อนหน้านี้ พร้อมด้วยพี่วสันต์ พี่วิภา ได้เข้าพบ พ.อ.โภคา จอกลอย หน.กองข่าว กับ พ.อ.สันติสุข ศรีเมือง หน.กองยุทธการ ตัวแทนท่าน พล.ต.ศรายุธ รังษี ผบ.มทบ.33 จากการพบปะพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมากรณีพี่วสันต์ถูกบังคับให้ถอดเสื้อแดงข้างถนนในเวลากลางวันเมื่อ 29/6/57 นั้นทางท่าน ผบ.มทบ.33 ฝากมาว่าช่วงเช้าได้กำชับกำลังพลผู้ปฏิบัติงานว่าไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกันเกิดขึ้นอีก ทั้งนี้ทางผู้บังคับบัญชาทหารค่ายกาวิละก็ได้นำเสื้อตัวต้นเหตุมาคืนให้เป็นที่เรียบร้อยและกล่าวคำขอโทษพี่วสันต์ถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาว่าอาจเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนกันระหว่างฝ่ายนโยบายกับผู้ปฏิบัติซึ่งเป็นนายทหารชั้นผู้น้อย แต่ก็มีการร้องขอกันว่าช่วงนี้สิ่งใดที่เป็นสัญลักษณ์ที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมขอให้เรางดเว้นก่อนสักระยะหนึ่งคิดว่าคงไม่เกินเดือนกรกฎาคม ศกนี้ก็คงจะเป็นปกติ จึงเรียนมายังพี่น้องที่รักทราบ ดาบชิต เชียงใหม่”

ภาพจากเฟซบุ๊ก ดาบชิต เชียงใหม่

ทั้งนี้ นายพิชิตได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า “พ.อ.โภคาได้ขอความร่วมมืองดใส่เสื้อผ้าที่มีแนวทางสร้างความขัดแย้ง หรือเชิงสัญลักษณ์ หรือตามคำสั่งของ คสช. ให้ชะลอสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสัญลักษณ์ขัดแย้ง แต่หากเป็นเสื้อสีแดงธรรมดาสามารถสวมใส่ได้ตามปกติ”

หลังจากเข้าพบเจ้าหน้าที่ทหาร นาย วสันต์ พ่อค้าปลาหมึกทอด กล่าวว่า “ทางทหารระดับผู้ใหญ่เขากล่าวขอโทษว่าทหารภายใต้บังคับบัญชาทำแรงไปหน่อย แต่ตนไม่ได้เรียกร้องอะไรจากทหาร ตนยังรู้สึกดีที่ทหารกล่าวขอโทษต่อหน้าตน ด้านนายทหารที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชายังไม่ทราบว่าเขาจะได้รับโทษทางวินัย หรือไม่ เพราะทหารผู้ใหญ่ไม่ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ ตอนนี้ได้รับเสื้อคืนแล้ว แต่ต้องเก็บไว้ยังนำมาใส่ไม่ได้ ตามที่ทางทหารขอความร่วมมือ”

โดยสำนักข่าวประชาธรรมได้ติดตามกรณีนี้และรายงานข่าวประกอบกับกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารบุกทาสีทับหลักกิโลเมตรจำลองของ “อำเภอเสื้อแดง” แห่งหนึ่งในจังหวัดพะเยาด้วย

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น