วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556

นายกยิ่งลักษณ์ ตอบคำถามผู้สื่อข่าว 2 พ.ย.56





1 ธันวาคม ไม่ใช่วันชัยชนะที่ประกาศไว้ แถมยังต้องยอมแอบไปเจราจาลับ


"นักวิชาการอิสระ" สับ "เทือก"
1 ธันวาคม ไม่ใช่วันชัยชนะที่ประกาศไว้ แถมยังต้องยอมแอบไปเจราจาลับ


          ผม 'วิเคราะห์' และ 'ตั้งคำถาม' ต่อคำแถลงล่าสุดของคุณสุเทพในนาม กปปส. ดังนี้

  • 1. คุณสุเทพ แถลงว่าได้ไปพบ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ แต่ยอมไปพบเพราะเป็นการพบต่อหน้าผู้นำ 3 เหล่าทัพ แสดงว่าคุณสุเทพไม่ได้เคารพผู้นำประเทศจากประชาชน แต่คุณสุเทพเลื่อมใสและต้องการประเทศให้มีผู้นำเป็นทหาร ใช่หรือไม่ ?
  • 2. คุณสุเทพ ยอมรับความแพ้กลายๆ ว่าวันที่ 1 ธ.ค. ไม่ใช่วันชัยชนะที่ประกาศไว้ เพราะยังขอต่อเวลาอีก 2 วัน ซึ่งเท่ากับว่าคำพูดคุณสุเทพไม่มีความหมาย เลื่อนลอยผัดวันประกันพรุ่งไปได้เรื่อยๆ ใช่หรือไม่ ?
  • 3. คุณสุเทพบอกว่ารัฐบาลเป็นกบฏต่อรัฐธรรมนูญ เพราะไม่เห็นด้วยและไม่ยอมรับกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ แต่หากกบฎเป็นกันได้ง่ายเช่นนี้ แล้วคุณสุเทพที่ไม่เห็นด้วยและไม่เคารพรัฐบาลและรัฐสภา อีกทั้งเรียกร้องสภาซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ตลอดจนสั่งปิดทุกกระทรวง ทบวง กรม ยกเว้นศาลกับกองทัพ ก็เท่ากับคุณสุเทพกบฏด้วย ใช่หรือไม่ ? หรือประเทศนี้ อำนาจสูงสุดอยู่ที่ ศาล และกองทัพ ?
  • 4. คุณสุเทพอ้างคำว่า "เหล่ามวลมหาประชาชน" ที่ "หมดความอดทน" ซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ประเทศไทยมี 67 ล้านกว่าคน แล้วอีกหลาย 60 ล้านคน ทำไมเขาไม่ออกมากับคุณสุเทพ ? หรือเป็นเพราะว่าเขาเป็น "ไทยอดทน" ที่จะปกครองประเทศนี้ไปตามกติกา
  • 5. คุณสุเทพย้ำว่าไม่พอใจกับการยุบสภา หรือลาออก แต่อ้างต่อว่าต้องให้ "สภาประชาชน" เข้ามาจัดการประเทศเสียก่อน แล้วจึงจะยอมให้มีการกลับไปสู่การเลือกตั้งตามกติกา แสดงว่าคุณสุเทพยอมรับว่า "สภาประชาชน" ที่ว่าเป็นการผิดกติกาประชาธิปไตยใช่หรือไม่ ?
  • 6. คุณสุเทพอ้าง "สภาประชาชน" ประหนึ่งเป็นสิ่งวิเศษที่จะเข้ามาจัดการประเทศ ให้มี "ประชาธิปไตยสมบูรณ์" แต่เหตุใดคุณสุเทพไม่เคยอธิบายว่าสภานี้มาจากไหน เลือกกันอย่างไร จัดการประเทศอย่างไร และจะอยู่ในอำนาจนานแค่ไหน ? "ประชาธิปไตยสมบูรณ์" คืออะไร ? ถ้าพรรคเพื่อไทย หรือคนเสื้อแดง จะตั้งสภาประชาชนบ้าง และจะแก้ไขจัดการประเทศโดยการจัดการกับคุณสุเทพ แล้วเราจะใช้สภาประชาชนสภาไหน ? และอะไรคือหลักประกันว่า "สภาประชาชน" จะไม่ได้สร้างสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่า "ระบอบทักษิณ" ที่คุณสุเทพอ้าง ?
  • 7. คุณสุเทพอ้างประหนึ่งว่าการเสียชีวิตที่รามคำแหง เป็นฝีมือรัฐบาล คุณสุเทพทราบหรือไม่ว่า มีคนเสียชีวิตหลายราย จากการปะทะกันระหว่างประชาชน โดยบางรายเป็นนักศึกษา บางรายเป็นคนเสื้อแดง แล้วหลักฐานว่ารัฐบาลลงมือ อยู่ที่ไหน ?
  • 8. คุณสุเทพอ้างว่า ถ้าตำรวจวางอาวุธ ประชาชนจะอ้าแขนรับ แต่คุณสุเทพทราบหรือไม่ว่า ตำรวจทำงานอย่างอดทนที่สุด ไม่ใช้อาวุธ มีเพียงอุปกรณ์คุมการชุมนุมเท่าที่จำเป็น ? และคุณสุเทพไม่ทราบหรือว่า ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่เป็นกำลังให้ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่เพื่อปกป้องบ้านเมืองจากอันธพาล ?
  • 9. คุณสุเทพอ้างว่าจำเป็นต้องเดินขบวนประชิดสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อบอกให้ตำรวจไม่ใช้กำลัง แต่วันนี้คุณสุเทพยึดเวลาสื่อมวลชนได้แล้ว เหตุใดไม่ใช้วิธีประกาศผ่านสื่อ ? และคุณสุเทพกำลังพูดโกหกขัดแย้งกับที่เคยประกาศว่าจะเข้ายึดควบคุมสถานที่ราชการหรือไม่ ?
  • 10. คุณสุเทพอ้างว่า ผบ.ทบ. ไม่ต้องการให้ประชาชนบาดเจ็บล้มตาย แล้วอ้างประหนึ่งว่ากองทัพเข้าขางคุณสุเทพ แต่คุณสุเทพก็รู้ดีว่ารัฐบาลก็ไม่ต้องการให้ใครบาดเจ็บล้มตาย แล้วเหตุใดคุณสุเทพจึงยังพาประชาชนไปยั่วยุกดดันเจ้าหน้าที่และประชาชนกลุ่มอื่นจนเกิดความเสี่ยงต่อประชาชนทุกฝ่าย ? ใครกันแน่ที่ต้องการให้ประชาชนบาดเจ็บล้มตาย ?
  • 11. คุณสุเทพประกาศว่าพร้อมรับโทษตามกฎหมาย แต่คุณสุเทพเคยถามประชาชนคนอื่นที่ออกมาชุมนุมหรือยังว่าเขาพร้อมรับโทษกับคุณสุเทพหรือไม่ ? และเมื่อไหร่จึงจะยอมรับโทษ ?
  • 12. คุณสุเทพประกาศเน้นให้ข้าราชการหยุดงานพร้อมกัน คุณสุเทพคิดหรือไม่ว่า ข้าราชการเขามีหน้าที่ทำงานรับใช้ประชาชน ไม่ใช่รับใช้ความต้องการทางการเมืองของคุณสุเทพ ?
  • 13. คุณสุเทพอ้างว่าจะจัดการกับ "ระบอบทักษิณ" ซึ่งก็เป็นข้ออ้างเดียวกับ รัฐประหาร 2549 แต่หลายปีที่ผ่านมา การรัฐประหารทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ผู้คนล้มตายจากความขัดแย้ง แม้แต่นายพลที่ถูกเชิดให้ทำรัฐประหารยังกลับใจมาเป็นนักการเมืองในสภา คุณสุเทพไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยหรือ ?

           นอกจากคำถาม 13 ข้อที่ถามไปยังคุณสุเทพแล้ว ผมขอฝากถามคำถามทั้งหมดนี้ไปยัง "คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" และ "พรรคประชาธิปัตย์" ว่ามาถึงนาทีนี้ "พรรคประชาธิปัตย์" ที่อ้างว่าเป็นพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย จะยังนิ่งเฉยต่อการกระทำของคุณสุเทพเช่นนี้ต่อไปหรือไม่ ?

          หรือ "พรรคประชาธิปัตย์" พร้อมจะทำได้ทุกอย่างกับประเทศชาติ เพียงแค่หวังให้ตนได้กลับมามีอำนาจอีกครั้ง แม้ว่าอำนาจนั้นอาจจะมีได้สั้นๆ แค่ไม่กี่ปีหรือกี่วัน ?

ผมและคนไทยอีกหลายคน รอฟังคำตอบอยู่ครับ

วีรพัฒน์ ปริยวงศ์
facebook.com/verapat
1 ธันวาคม 2556

โฉมหน้า สมุนสุเทพ พร้อมอาวุธหน้ืาราม
















รูปภาพ : มีเหตุวางเพลิงเผารถบัสโดยสารหน้าราชมังคลากีฬาสถาน ทีมข่าวสำนักข่าวไทย อาธิต @omsin666 เกาะติดใกล้ชิด











รูปภาพ : จนท.กำลังดับไฟ 16.27 น. #รามคำแหง

 ที่มา Weerid Hooncharoen @Weerid_ThaiPBS

รูปภาพ : ล่าสุดสภาพ รถบัสเพลิงลุกไหม้ท่วมคัน หน้าราชมังคลา (ชุมนุมที่ไหนพี่แดงต้องเผา)


รูปภาพ : รถบัสถูกเผา ที่หน้ารามคำแหง

ที่มา Pol.Lt.Gen.Dr.Prawut @Dr_Prawut
รถบัสถูกเผา ที่หน้ารามคำแหง

ที่มา Pol.Lt.Gen.Dr.Prawut @Dr_Prawut
...........................................................................................

พบโครงกระดูกบนรถบัสที่ถูกเผา เจ้าหน้าที่รุดตรวจสอบ
รูปภาพ : รถบัส 30-0170 กำแพงเพชร ของกลุ่มเสื้อแดงถูกวัยรุ่นปาระเบิดขวดใส่จนไฟไหม้ หน้าสนามราชมังฯ #รามคำแหง

 ที่มา FM100.5 News Network @news1005fm

พบโครงกระดูกห้อยที่ห้องน้ำชั้นล่างรถบัสยังไม่ชัดใช่คนหรือไม่ - รอ พฐ.ตรวจสอบ pic.twitter.com/vWHakEn5Ij
ภาพลิงค์ที่แปะไว้
วันที่ 1 ธ.ค. 56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.50 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้รถบัส 2 ชั้น ทะเบียน 30-0170 จ.กำแพงเพชร หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยเจ้าที่ตำรวจสน.หัวหมาก ได้ปิดการจราจรฝั่งขาเข้า-ออก แล้ว





แถลงการณ์เรื่องขอให้ยุติการคุกคามและแทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน

แถลงการณ์เรื่องขอให้ยุติการคุกคามและแทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน

              สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ,สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ แถลงวอน กปปส.อย่าคุกคามสื่อ  ยอมรับสถานีโทรทัศน์ถ่ายทอดตามผังรายการไม่เห็นถึงความสำคัญของสถานการณ์ของผู้ชุมนุม  ประกาศเตือนนักข่าวให้ระวังไม่ทำข่าวในพื้นที่เสี่ยงอันตรายเกินความจำเป็น
๐๐๐๐
แถลงการณ์เรื่องขอให้ยุติการคุกคามและแทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน

จากที่คณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) นำมวลชนไปยังสถานีโทรทัศน์ช่อง3, 5, 7, 9, 11 และไทยพีบีเอส โดยกดดันให้สถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ถ่ายทอดสัญญาณการเคลื่อนไหวและคำแถลงของกปปส. และห้ามนำเสนอข่าวจากฝ่ายรัฐบาลนั้น

องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนประกอบด้วย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย  สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์  ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อการกระทำที่เข้าข่ายการคุกคามสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน ซึ่งขัดแย้งต่อเจตนารมณ์การปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่กปปส.กล่าวอ้างว่าจะต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยโดยสร้างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ และขอให้กปปส.ยุติการกระทำดังกล่าวทันที

องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนขอยืนยันหลักการว่า สื่อมวลชนต้องมีสิทธิเสรีภาพในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารและความคิดเห็นของทุกฝ่ายตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นกองบรรณาธิการและผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนในสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ต้องยืนหยัดในหลักการดังกล่าวข้างต้น โดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ซึ่งเป็นสื่อสาธารณะที่มีกฎหมายรองรับความเป็นอิสระ จะต้องยืนยันหรือไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเข้ามากดดัน หรือครอบงำการนำเสนอข้อมูลข่าวสารโดยเด็ดขาด หากต้องปฏิบัติหน้าที่ภายใต้การกดดันหรือครอบงำ การยุติการออกอากาศถือเป็นแนวทางปฏิบัติตามหลักสากลที่ควรกระทำ

อย่างไรก็ตาม องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนมีความเข้าใจถึงมูลเหตุ ที่กลุ่มมวลชนของกปปส.ไม่พอใจสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาไม่ให้ความสำคัญในการนำเสนอข้อมูล ข่าวสาร เหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้น ทั้งๆ ที่เป็นสถานการณ์สำคัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชน นับตั้งแต่เหตุการณ์การชุมนุมใหญ่ที่มีความต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงเหตุการณ์ในวันที่ 1 ธันวาคม 2556 โดยปรากฏว่าสถานีโทรทัศน์ส่วนใหญ่ยังคงนำเสนอรายการตามผังรายการตามปกติ เป็นการคำนึงถึงผลประโยชน์ของสถานีเป็นหลัก มากกว่าการคำนึงถึงสิทธิในการรับรู้ข่าวสารของประชาชน

ขณะเดียวกัน สถานีโทรทัศน์ในสังกัดหน่วยงานรัฐ ซึ่งมีรัฐธรรมนูญคุ้มครองสิทธิเสรีภาพให้มีความอิสระในการเสนอข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน และให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อสาธารณะ โดยไม่อยู่ภายใต้อาณัติของรัฐบาล จะต้องไม่ยอมรับการถูกแทรกแซงหรือสั่งการจากฝ่ายรัฐบาล ให้นำเสนอข่าวสารเพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อาทิ กรณีที่รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์สั่งให้สื่อในสังกัดกรมประชาสัมพันธ์นำเสนอข่าวสารเชิงบวกต่อรัฐบาล(อ้างถึงบันทึกเลขที่นร0213.071721 เรื่องขอให้กำกับดูแลการนำเสนอข่าวลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556) เป็นต้น

องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนมีความห่วงใยในความปลอดภัยของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนในภาคสนามทุกคน โดยขอให้ระมัดระวังการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงภัยเกินความจำเป็น ทั้งนี้ ให้ตระหนักว่าความปลอดภัยของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน มีความสำคัญไม่น้อยกว่าการแสวงหาข้อมูลข่าวสารและข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านมานำเสนอต่อสาธารณะชน

เราขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนทุกคน ที่นำเสนอข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านต่อประชาชน และขอให้ทุกฝ่ายเคารพและไม่แทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในทุกรูปแบบ

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์
1 ธันวาคม 2556

สื่อนอกเสนอ 3 วิธีช่วยไทยรอดวิกฤตม็อบยึดเมือง


สื่อนอกเสนอ 3 วิธีช่วยไทยรอดวิกฤตม็อบยึดเมือง

สื่อนอกเสนอ 3 วิธีช่วยไทยรอดวิกฤตม็อบยึดเมือง

           สื่อต่างประเทศเสนอ 3 แนวทางสำคัญในการนำพาประเทศไทยรอดพ้นจากวิกฤตการเมืองครั้งนี้ โดยเรียกร้องให้ฝ่ายค้านยุติการต่อสู้ในแนวทางไม่เป็นประชาธิปไตย ส่วนรัฐบาลก็ต้องไม่ยึดมั่นในการกุมเสียงส่วนใหญ่จนไม่สนใจปัญหาคอรัปชั่น

           The Economist นิตยสารด้านการเมืองชื่อดังของโลก ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับสถานการณ์การประท้วงในประเทศไทย โดยแสดงความกังวลว่าการเมืองไทยกำลังกลับไปสุ่ยุคของความรุนแรงและการไม่ยึดมั่นในหลักประชาธิปไตยอีกครั้ง และการยุบสภาหรือลาออกของรัฐบาลก็จะไม่ทำให้สถานการณ์คลี่คลาย เนื่องจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยน่าจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งอยู่ดี แม้จะสูญเสียคะแนนนิยมไปบ้างจากการสนับสนุนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเหมาเข่ง

         Economist จึงเสนอทางออก 3 ประการสำหรับทุกฝ่ายที่มีส่วนในความขัดแย้งครั้งนี้
  1. ประการแรกฝากถึงฝ่ายต่อต้านรัฐบาล Economist เรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะแกนนำฝ่ายต้านรัฐบาล ยุติแนวทางที่ไม่เป็นประชาธิปไตยทุกชนิดในการต่อสู้เพื่อโค่นล้มรัฐบาล โดยย้ำว่าประชาธิปัตย์ควรยกเลิกพฤติกรรมการชื่นชมระบอบรัฐสภาเฉพาะเมื่อผลออกมาเป็นตามที่ตัวเองต้องการ แล้วหันไปหาแนวทางอื่นๆอย่างการออกไปเล่นการเมืองข้างถนน ใช้ศาลเป็นเครื่องมือ หรือโทรหากองทัพ หากผลไม่เป็นไปตามที่หวังได้แล้ว
  2. ส่วนข้อเสนอประการที่สอง Economist เรียกร้องให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยยุติการใช้คะแนนนิยมจากประชาชนเป็นเพียงเครื่องมือในการชนะเลือกตั้งและได้เป็นรัฐบาล ให้เห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติมากกว่าพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร และหันมาปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นอย่างจริงจัง
  3. ข้อเสนอสุดท้าย Economist ฝากไปถึงฝ่ายอำมาตย์ในเมืองไทย ให้เลิกเข้ามาสอดแทรกการเมือง และเคารพในบทบาทขององค์กรการเมืองต่างๆตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ รวมถึงสนับสนุนให้มีการปฎิรูปรัฐธรรมนูญอย่างจริงจัง เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันของไทย นอกจากจะมีความไม่เป็นประชาธิปไตยอยู่หลายประการ ยังรวมศูนย์อำนาจไว้ที่รัฐบาลมากเกินไป จนเป็นต้นเหตุของปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เรื้อรังมานาน และอาจยังทำให้เกิดความรุนแรงในลักษณะคล้ายคลึงกันในภาคอีสาน ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของคนเสื้อแดงได้ในอนาคต

1 ธันวาคม 2556 เวลา 18:22 น.

รู้ไว้ซะ ว่าช่อง 3 คือใคร

ไม่รับเงินเดือน แต่มึงต้องทำตามกู

11 กันยายน 2530
ตราสัญลักษณ์ บริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด และ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 อ.ส.ม.ท.

            บริษัท บางกอก เอ็นเทอร์เทนเมนท์ (ช่อง 3) เลี้ยงต้อนรับ ชาตรี โสภณพนิช กรรมการผู้ จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพซึ่งเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการให้กับช่อง 3

            โดยจะมีการปรับปรุงการดำเนินงานของช่อง 3 ในด้านการขยายการออกอากาศในต่างจังหวัด และเสริมรายการข่าวและการศึกษาให้มากขึ้น นอกจากนี้ ก็จะดูแลการใช้เงินซึ่งกู้มาจากธนาคารกรุงเทพพันกว่าล้านบาทให้เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งเงินกู้ดังกล่าวต้องชำระภายใน 9 ปี มีระยะปลอดหนี้ 2 ปี ชาตรีเข้ามารับตำแหน่งนี้ โดยไม่รับเงินเดือนและไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้น แต่มีข้อแม้กับทางช่อง 3 ว่า ถ้าเขาเสนออะไรก็ควรรับฟัง


พท.เตรียมยื่นดีเอสไอเอาผิด 'สุเทพ' ข้อหากบฏ


พท.เตรียมยื่นดีเอสไอเอาผิด 'สุเทพ' ข้อหากบฏ




              พรรคเพื่อไทย นัดยื่นดีเอสไอเอาผิด "สุเทพ เทือกสุบรรณ" และแกนนำผู้ชุมนุม ข้อหากบฏ พรุ่งนี้ (2 ธ.ค.56)

               นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงสถานการณ์ชุมนุมของกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาล ที่บุกยึดสถานที่ราชการ ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ละเมิดต่อกฎหมายอาญา มาตรา 113 ยุยงส่งเสริมให้ประชาชนเกิดความเกลียดชังรัฐบาล สร้างความปั่นป่วน มีลักษณะเป็นกบฎในแผ่นดิน

              ผู้กระทำความผิดยอมมีโทษรุนแรง จึงขอเตือนประชาชนควรไตร่ตรอง ในการร่วมบุกยึดสถานที่ราชการ ดังนั้นในวันพรุ่งนี้ ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย จะเดินทางไปยื่นหนังสือให้กรมสอบวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อดำเนินการเอาผิดกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ชุมนุมและพวก

                 ขณะที่นายอำนวย คลังผา ประธานวิปรัฐบาล และนายวิทยา บุรณศิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับส.ส.พรรคเพื่อไทยแถลงข่าวตอบโต้ว่าการที่แกนนำผู้ชุมนุมมีความพยายามโยงพรรคเพื่อไทยกับพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วยข้อกล่าวหาต่างๆ นั้น เป็นเพียงข้อกล่าวเพื่อล้มรัฐบาล

                หากพรรคเพื่อไทยจะเชื่อมโยงกับพันตำรวจโททักษิณ ก็มีเพียงการต่อยอดนโยบายดีๆ ที่พันตำรวจโททักษิณเคยคิดและทำไว้ เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค ,พักการชำระหนี้ ,




1 ธันวาคม 2556 เวลา 12:38 น.

'สุรพงษ์' เผยบางประเทศเริ่มเบื่อความขัดแย้งของไทย




'สุรพงษ์' เผยบางประเทศเริ่มเบื่อความขัดแย้งของไทย
           เลขาธิการยูเอ็นออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อการชุมนุมที่เกิดขึ้นในประเทศไทยที่มีการบุกยึดสถานที่ราชการ พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เผยว่า ขณะนี้บางประเทศเริ่มเบื่อหน่ายความขัดแย้งของไทยแล้ว

             นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า ล่าสุดนายบัน คีมูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมในประเทศไทย ซึ่งมีความกังวลต่อความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นในกรุงเทพมหานคร และกังวลต่อรายงานว่าผู้ชุมนุมยึดสถานที่ราชการ พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างที่สุด ละเว้นการใช้ความรุนแรง เคารพหลักนิติธรรมและสิทธิมนุษยชน รวมทั้งรับทราบที่รัฐบาลให้คำมั่นต่อการเคารพสิทธิของประชาชนในการชุมนุมโดยสันติ

             นอกจากนี้ นายสุรพงษ์ ยังระบุด้วยว่า การชุมนุมอย่างยืดเยื้อในขณะนี้ไม่ส่งผลดีต่อประเทศไทย เพราะนานาชาติกำลังเฝ้าจับตาดู ซึ่งบางประเทศก็เริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายต่อสถานการณ์ในประเทศไทยที่มีความขัดแย้งวนเวียนมา 7 ปีกว่า ทำให้การเมืองภายในประเทศส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

ขณะที่นายแพทย์เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เตรียมเข้าร้องทุกข์ต่อผู้บังคับการกองปราบปราม เพื่อกล่าวโทษนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลพร้อมพวก ในข้อหาเป็นกบฎภายในราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 ด้วยการนำพาประชาชนไปบุกรุกสถานที่ราชการหลายแห่ง อีกทั้งต้องการทำลายรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้ง

28 พฤศจิกายน 2556 เวลา 12:07 น.

แพทย์เหวง โตจิราการ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. แจ้งความกองปราบฯ เอาผิด' สุเทพ เทือกสุบรรณ 'ข้อหากบฏ

แพทย์เหวง โตจิราการ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. แจ้งความกองปราบฯ เอาผิด' สุเทพ เทือกสุบรรณ 'ข้อหากบฏ

'นพ.เหวง'แจ้งความกองปราบฯ เอาผิด' สุเทพ 'ข้อหากบฏ

นายแพทย์เหวง โตจิราการ ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. ร่วมกับตัวแทน ส.ส.อีก 4 คน ได้เดินทางมาร้องทุกข์กล่าวโทษ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในข้อกล่าวหาเป็นกบฏต่อแผ่นดิน กรณีนำประชาชนบุกยึดสถานที่ราชการและกระทรวงหลายแห่ง ทำให้ข้าราชการไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ และทำให้เกิดความเสียหายแก่การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล


โดยเมื่อคืนวันที่ 27 พ.ย. 56 นายสุเทพ ได้ประกาศบนเวทีที่ศูนย์ราชการว่า ต้องการจัดตั้งสภาประชาชน และจัดตั้งรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาประเทศ ซึ่งการดังกล่าวจะเป็นไปได้ต่อเมื่อมีการทำลายรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ และรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเสียก่อน

ดังนั้นเท่ากับว่านายสุเทพ ได้ใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อทำลายอำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจบริหาร อันเป็นการกระทำที่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 113 ตามประมวลกฎหมายอาญา

ตนจึงร้องกล่าวทุกข์ว่า นายสุเทพและคณะ ทำความผิดในข้อหากบฎต่อแผ่นดิน โดยขอให้กองปราบฯ ได้พิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายต่อไป


ที่มา : New Center / naewnaonline
ภาพ : VoiceTV

รัฐบาลแถลงว่าการกระทำของ 'สุเทพ เทือกสุบรรณ' เข้าข่ายกบฎ

รัฐบาลแถลงว่าการกระทำของ 'สุเทพ เทือกสุบรรณ' เข้าข่ายกบฎ

ประชา พรหมนอกแถลงการกระทำของสุเทพ เทือกสุบรรณที่ทำการยึดสถานที่ราชการ และใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างอำนาจบริหาร มิได้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และเข้าข่ายกบฎ ม.113 และพรุ่งนี้ข้าราชการทำงานปกติ พร้อมประกาศให้งดออกจากเคหะสถาน 4 ทุ่มถึงตี 5
1 ธ.ค. 2556 - หลังจากที่สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้อ่านแถลงการณ์ "คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข" เผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ที่มีการเชื่อมต่อสัญญาณกับสถานีโทรทัศน์บลูสกายเมื่อช่วงเย็นวันนี้นั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
เมื่อสักครู่นี้ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ได้เผยแพร่คำแถลงของ ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง โดยระบุว่า
"การที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ บุกรุกสถานที่ราชการ บุกยึดสถานีโทรทัศน์บังคับให้ถ่ายทอดรายการตามความต้องการของต้น ใช้กำลังประทุษร้ายเข้ายึดสถานที่ราชการ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายด้านความมั่นคง ขอชี้แจงว่ากรณีที่สุเทพ เทือกสุบรรณ แถลงว่ารัฐบาลไม่ยอมรับคำนิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว. นั้นขอแจ้งให้ทราบว่า รัฐบาลไม่เคยมีแถลงการณ์ใดๆ หรือการแสดงใดๆ ที่ไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ การแถลงดังกล่าวเป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภาไม่ใช่รัฐบาล"
ประชาแลถงต่อว่า "ส่วนเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้น ไม่ใช่ร่างของคณะรัฐมนตรี เป็นร่างของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติแยกจากฝ่ายบริหาร และเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าวุฒิสภาไม่ได้รับหลักการร่างฉบับนี้ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้สนับสนุนร่างฉบับนี้ต่อไป ถือว่าร่างฉบับนี้ตกไปไม่มีโอกาสใช้แน่นอนแล้ว"
"การที่นายสุเทพ ประกาศให้วันพรุ่งนี้เป็นวันหยุดราชการนั้น ขอประกาศว่าวันพรุ่งนี้หน่วยงานราชการจะเปิดตามปกติ ต่อกรณีให้สื่อโทรทัศน์เลิกการนำเสนอข่าวของรัฐบาลและให้เสนอเหตุการณ์ของการชุมนุมนั้น ขอเรียนว่านายสุเทพไม่มีอำนาจรัฐ ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ที่จะสั่งให้สื่อโทรทัศน์หยุดการเสนอข่าวของรัฐบาล และตามที่นายสุเทพอ้างการชุมนุมเป็นการใช้สิทธิมาตรา 69 ของรัฐธรรมนูญ ขอเรียนให้พี่น้องทราบว่า มาตรา 69 มีข้อความดังนี้"
"บุคคลมีสิทธิต่อต้านโดยสันติวิธี ซึ่งการกระทำใดๆ ที่เป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งไม่ได้เป็นไปในวิธีทางที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ" คือการกระทำนั้นต้องเป็นไปโดยสันติวิธี แต่วิธีของนายสุเทพ และการนำบุคคลอื่น ยึดสถานที่ราชการ สถานีโทรทัศน์ หรือสถานที่ของรัฐบาลอื่นใดมิได้เป็นไปโดยสันติวิธี มีการใช้กำลังพังผนังกั้นที่ทำด้วยปูน มีการขว้างระเบิดปิงปองเข้าไปในหน่วยงานรักษาความปลอดภัย
ประชาแถลงว่า รัฐบาลชุดนี้เข้ามาเป็นรัฐบาลผ่านการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ รัฐบาลไม่ได้กระทำการได้เพื่อให้ได้อำนาจปกครองประเทศในวิธีการที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ในทางตรงกันข้าม การดำเนินการที่กล่าวมาของนายสุเทพที่ใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างอำนาจบริหาร หรือให้ฝ่ายบริหารใช้อำนาจดังกล่าวไม่ได้ เป็นการกระทำที่เข้าองค์ประกอบความผิดการเป็นกบฎ ตามมาตรา 113 แห่งประมวลกฎหมายอาญา มีโทษประหารชีวิต หรือจำคุกประหารชีวิต
กรณีความรุนแรงที่ ถ.รามคำแหง และที่ราชมังคลากีฬาสถาน เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐาน เพื่อสืบทราบขยายผลหาผู้กระทำผิด กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเข้าจับกุมผู้กระทำผิด เชื่อว่าจะสามารถขยายผลเพื่อดำเนินคดีผู้บงการ และผู้กระทำความผิดได้ในไม่ช้า ตำรวจได้แจ้งให้ทราบแล้วว่ามีผู้เสียชีวิต 3 ราย มีฝ่าย นปช. 2 ราย และผู้ชุมนุม 1 ราย จากสถานการณ์ที่รุนแรงในเขตพื้นที่ดังกล่าวข้างต้นนั้น จากการสืบทราบของหน่วยข่าวกรองและหน่วยงานความมั่นคงพบว่ามีความพยายามของกลุ่มบุคคลที่สาม อาศัยสถานการณ์ก่อความไม่สงบ โดยเชื่อว่ามีการกระทำที่รุนแรง มีการใช้อาวุธอันตรายต่อพี่น้องประชาชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเกลียดชังต่อรัฐบาล และยกระดับสถานการณ์
ดังนั้น หลังเวลา 22.00 น. ถึง 05.00 น. ของวันใหม่ หากไม่มีความจำเป็น ขอให้พี่น้องประชาชนไม่ควรออกนอกเคหะสถาน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินและไม่ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มบุคคลที่สามดังกล่าว
รัฐบาลขอประกาศว่าขณะนี้รัฐบาลได้ควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ไว้ด้วยความเรียบร้อย อย่างไรก็ดีรัฐบาลมีความปรารถนาดีที่จะรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย พวกเราทุกคนจะหันหน้าเข้ามาปรึกษาหารือ เพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและประชาชน จึงกราบเรียนให้ประชาชนมีความมั่นใจและสบายใจว่ารัฐบาลนี้เป็นของพี่น้องประชาชนทุกคน ดังนั้นรัฐบาลจะให้ความสำคัญด้วยการรับฟังความเห็นทุกฝ่าย ยึดเอาผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง ทำหน้าที่ปกป้องประชาชนและจะนำมาซึ่งความปกติสุขโดยเร็วที่สุด เพื่อให้พสกนิกรชาวไทยมีความพร้อมถวายความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน