วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ศาลชี้ทหารไม่เกี่ยวศพในเขาดิน



       ศาลอาญามีคำสั่งสาเหตุการตายของเจ้าหน้าที่เขา ดินช่วงกระชับพื้นที่คนเสื้อแดงปี 2553 เสียชีวิตจากกระสุนลูกโดดความเร็วสูงทำลายเนื้อสมอง ปลอกกระสุนที่เกิดเหตุไม่ตรงกับอาวุธของกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 ค่ายสุรนารี ที่รับผิดชอบบริเวณอาคารรัฐสภา ประกอบกับไม่มีประจักษ์พยานยืนยันเหตุการณ์ จึงไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำ เผยเป็นรายที่ 6 ที่ศาลมีคำสั่งสาเหตุการตายจากเหตุสลายการชุมนุมhttp://www.tnews.co.th/userfiles/image/2556/jan22/0111.jpg 
                                 
         วันที่ 21 ก.พ. 2556 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำสั่งคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 ยื่นคำร้องขอไต่สวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของนายมานะ อาจราญ ลูกจ้างสวนสัตว์ดุสิต แผนกบำรุงรักษา ที่ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 ระหว่างกระชับพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ แห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน

           ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าผู้ร้องไม่มีประจักษ์พยานขณะที่ผู้ตายถูกยิง และไม่สามารถยืนยันวิถีกระสุนได้ว่ามาจากทิศทางใด ประกอบกับการตรวจพิสูจน์ปลอกกระสุนจำนวน 2 ปลอกในที่เกิดเหตุ ไม่ตรงกับอาวุธปืน 29 กระบอก ของกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 ค่ายสุรนารี ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่บริเวณอาคารรัฐสภา

           นอกจากนี้ยังมีพยานเบิกความว่า พบบุคคลอื่นใช้อาวุธปืนสั้นยิงปืนขึ้นฟ้า พร้อมตะโกนข่มขู่พนักงานสวนสัตว์ดุสิต จึงทำให้พยานหลักฐานของผู้ร้องยังมีข้อสงสัย ศาลจึงมีคำสั่งให้นายมานะเสียชีวิตจากกระสุนลูกโดดความเร็วสูงทำลายเนื้อ สมอง โดยไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้กระทำ

           สำหรับคดีนี้เป็นสำนวนที่ 6 ของคดีที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ชุมนุมของ นปช. ปี 2553 ก่อนหน้านี้ศาลมีคำสั่งชี้พฤติการณ์การเสียชีวิตแล้ว 5 ราย ประกอบด้วย นายพัน คำกอง นายชาญณรงค์ พลศรีลา ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ หรือน้องอีซา นายชาติชาย ชาเหลา ชาวสุรินทร์ และนายบุญมี เริ่มสุข

โทษคุก 10 ปีปรับ 1 แสนมือติดสติ๊กเกอร์ข้อความโจมตี ‘พงศพัศ’

 http://www.innnews.co.th/images/news/2013/5/436030-02.jpg


           ตำรวจตั้งข้อหานักวิชาการสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษา กทม. เขต 2 ผิดมาตรา 57 อนุ 5 พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น โทษ จำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000 - 100,000 บาท กรณีทำสติ๊กเกอร์ข้อความโจมตี “พงศพัศ” จำนวนมากไปติดตามป้ายหาเสียง พร้อมขยายผลสอบสวนเชิงลึกเกี่ยวข้องกับพรรคคู่แข่งหรือไม่ 

http://www.matichon.co.th/online/2013/02/13614101101361410245l.jpg

         ด้าน “พงศพัศ” แจ้งผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยไม่ขอติดใจเอาความ “พร้อมพงศ์” จี้ กกต. ทำงาน 24 ชั่วโมง ช่วงหาเสียงโค้งสุดท้าย เชื่อมีวิชามารออกมาอีกเพียบ “ภูมิธรรม” ระบุไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตัดต่อภาพดารา นักร้อง นักมวย เตรียมทำหนังสือยืนยันความบริสุทธิ์กับ กกต. ด้านรองเลขาธิ กกต. เผยกำลังตรวจสอบที่มาของภาพตัดต่อ ประชาธิปัตย์ร้องเรียนสอบคนพรรคเพื่อไทยแจกแบบฟอร์มให้ประชาชนแจ้งความต้อง การ โดยอ้างเป็นโครงการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ หวั่นซื้อเสียงโดยงบประมาณรัฐ

                                 ++++++++++++++++++

         ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กล่าวถึงกรณีที่มีการจับกุมนายหทัยวุฒิ สายทอง อายุ 45 ปี นักวิชาการศึกษา 5 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) กรุงเทพมหานคร เขต 2 ขณะเตรียมนำสติ๊กเกอร์มีข้อความ “ไม่เลือกผู้ว่าสร้างภาพ” “เผาบ้านเผาเมือง” และ “ทักษิณติดคุก” ไปติดที่ป้ายหาเสียงของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) เบอร์ 9 พรรคเพื่อไทย ว่าจากการตรวจค้นบ้านพัก พบว่ายังมีสติ๊กเกอร์โจมตีผู้สมัครเบอร์ 9 อีกจำนวนมาก และมีบางส่วนนำไปติดที่ป้ายหาเสียงเบอร์ 9 แล้ว กำลังตรวจสอบว่าเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่

         พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 กล่าวว่า เบื้องต้น จะดำเนินคดีตามความผิด พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น มาตรา 57 อนุ 5 มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-100,000 บาท และจะตรวจสอบในเชิงลึกว่าการกระทำดังกล่าวเชื่อมโยงกับพรรคการเมืองฝ่ายตรง ข้ามหรือไม่

         ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค แถลงว่า พล.ต.อ.พงศพัศ และผู้ใหญ่ในพรรคหารือกันแล้ว ซึ่ง พล.ต.อ.พงศพัศแจ้งว่า ต้องการให้อภัย ไม่ติดใจเอาผิดผู้ทำสติ๊กเกอร์ พรรคเพื่อไทยขอเน้นหาเสียงเชิงบวก ส่วนความผิดที่เกิดขึ้นแล้วก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่จะดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ขอเตือนผู้สนับสนุนผู้สมัครท่านอื่นที่ไปเก็บป้ายหาเสียงผู้สมัครพรรคเพื่อ ไทยออก แล้วเอาป้ายใหม่ติดแทน ถือเป็นการทำลายทรัพย์สิน และผิดกฎหมายเลือกตั้ง

        “ช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงอยากให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำงาน 24 ชั่วโมง เพราะเชื่อว่าจะมีวิชามารออกมาอีกมาก”

        นายดนุพร ปุณณกันต์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แถลงยืนยันพรรคและผู้สมัครไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดต่อภาพดารา นักร้อง นักกีฬา สนับสนุน พล.ต.อ.พงศพัศ อย่างไรก็ตาม ต้องขอโทษทั้ง 3 ท่านที่ได้รับผลกระทบ และหวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก

        นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทยและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า อยากให้ทุกคนหาเสียงเชิงบวก ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยหาเสียงเชิงบวกมาตลอด ไม่เคยตอบโต้ ให้ร้ายทางการเมือง เพราะรู้ว่าประชาชนเบื่อความขัดแย้ง เรื่องการตัดต่อภาพดารา นักร้อง นั้นจะทำหนังสือยืนยันต่อ กกต. ว่าพรรคไม่เกี่ยวข้อง
นายสุเทพ พรหมวาศ รองเลขาธิการ กกต.ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวว่า กำลังตรวจสอบที่มาของภาพตัดต่อ และตรวจสอบว่าเป็นการกระทำเพื่อจูงใจให้เลือกผู้สมัครรายใดรายหนึ่งหรือไม่

       นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทีมกฎหมายของพรรคได้ยื่นเรื่องให้ กกต. ตรวจสอบเรื่องการแจกแบบฟอร์มของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ให้ประชาชนระบุชื่อและความต้องการ เนื่องจากคนที่แจกไม่ใช่คนของกระทรวง แต่เป็นคนของพรรคเพื่อไทย

       “จะติดตามว่าโครงการดังกล่าวเป็นโครงการของกระทรวงจริงหรือไม่ เพราะหากไม่จริงจะเข้าข่ายซื้อเสียงโดยใช้งบประมาณของรัฐ แต่หากเป็นโครงการของกระทรวงจริง ทำไมจึงไม่ให้ข้าราชการของกระทรวงเป็นผู้แจก”

ปชป.ขาย ‘ความจริง’หรือขาย ‘ความกลัว’

http://www.thairath.co.th/media/content/2013/02/20/327919/o3/420.jpg



          แม้ยังไม่ใช่เวทีสุดท้าย แต่ชัดเจนว่าอีก 5 วันที่เหลือพรรคประชาธิปัตย์จะใช้วิธีวาดความกลัว ขายความกลัว กับคนกรุงเทพฯ เพื่อให้หันมาเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) เบอร์ 16 แทนการเลือก พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 9 พรรคเพื่อไทย

         เวทีปราศรัยเมื่อค่ำวันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา เต็มไปด้วยประโยคเผาบ้านเผาเมืองเพื่อกระตุ้นคนเมืองหลวงให้คิดถึงภาพเก่าๆ เมื่อปี 2553 เพื่อผูกโยงไปถึงพรรคเพื่อไทย และกระทบชิ่งไปถึง พล.ต.อ.พงศพัศ แม้จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แม้แต่ลูกพี่ใหญ่อย่างนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษา ก็เอากับเขาด้วย

 
       นายชวนปราศรัยตอนหนึ่งว่า “...ใครสั่งเผาบ้านเผาเมือง ไม่สามารถนิรโทษกรรมหรือhttp://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3568532.0;attach=1138783;imageมาสั่งลดโทษตัวเองได้ ดังนั้น ประชาชนต้องตัดสินใจเองว่าจะเลือกพรรคไหน บ้านเมืองต้องมีรอยต่อ อย่าให้ใครกินรวบ ซึ่งรอยต่อหมายถึงระบบการตรวจสอบ คานอำนาจ เพราะทุกคนต้องอยู่ภายใต้ขอบเขต ไม่ใช้อำนาจข้ามกัน...”

เผาเมืองบ้านเมืองต้องมีรอยต่อเพื่อคานอำนาจ คือมุมมองของนายชวน ซึ่งอาจต่างจากการมีรอยต่อแบบขัดแข้งขัดขาจนงานไม่เดินในมุมมองของประชาชน

 

http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3623643.0;attach=1173835;image         ขณะที่ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า “...การที่กลุ่มรัฐบาลไม่ให้พูดเรื่องเผาบ้านเผาเมืองนั้น ก็เพราะเป็นเรื่องที่แทงใจดำ ทั้งที่เรื่องดังกล่าวเป็นความจริงที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ แต่ฝ่ายรัฐบาลคงคิดว่าคนกรุงเทพฯลืมไปแล้ว ซึ่งอยากจะบอกว่าวันนี้เราลืมไม่ได้ เพราะในอนาคตรัฐบาลจะเอากรุงเทพฯเป็นตัวประกัน และนำกรุงเทพฯมาสู่สมรภูมิอีกครั้ง...

...หากคนของรัฐบาลจริงใจ ทำไมไม่เคยได้ยินคำขอโทษเลย และในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง
ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยก็เป็นตำรวจอยู่ จึงอยากถามว่าทำไมไม่ออกมาทำอะไรเพื่อคนกรุงเทพฯบ้าง ซึ่งหากวันนี้ชาวกรุงเทพฯยังคิดไม่ออกว่าจะเลือกใคร ก็ขอให้ดูว่าใครจริงใจมากกว่ากัน...”

         ประโยคที่ว่า หากคนของรัฐบาลจริงใจ ทำไมไม่เคยได้ยินคำขอโทษเลย ก็มีเสียงสะท้อนกลับเหมือนกันว่า

       รัฐบาลที่บริหารสถานการณ์จนมีคนตาย 99 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 2,000 คน ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง ทำไมไม่คิดขอโทษประชาชนบ้าง

ขณะที่ประโยคที่ว่า ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยก็เป็นตำรวจอยู่ จึงอยากถามว่าทำไมไม่ออกมาทำอะไรเพื่อคนกรุงเทพฯบ้าง

         ก็มีคำถามกลับเช่นกันว่า คนพูดไม่รู้หรือว่ารัฐบาลที่ตัวเองร่วมนั่งบริหารอยู่ด้วยนั้นตั้งใจใช้ กำลังทหารกับผู้ชุมนุมเป็นหลัก และการเป็นตำรวจก็ใช่ว่าคิดจะทำอะไรก็ได้ เพราะต่างมีบทบาทตามตำแหน่งหน้าที่ของตัวเอง

        ข้ามมาถึงหัวหน้าพรรคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ยังปราศรัยถึงการเผาบ้านเผาเมือง และยกย่อง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ที่กล้าขัดแย้งกับรัฐบาลเพื่อคนกรุงเทพฯในช่วงน้ำท่วมใหญ่ ปี 2554  ชัดเจนว่าไม่ได้ไยดีต่อความเดือดร้อนของคนนนทบุรี ปทุมธานี บางส่วนของนครปฐม หรือแม้แต่คนที่อยู่ชายขอบของกรุงเทพฯ อย่างฝั่งธนบุรี หนองจอก ดอนเมือง ที่ต้องจมน้ำนานนับเดือน

        คนชายขอบของกรุงเทพฯเหล่านี้ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากความกล้าขัดแย้งกับรัฐบาลของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ที่ทำให้การระบายน้ำไม่สะดวก

        บางทีการปราศรัยโดยบิดประเด็นเพื่อเอาดีใส่ตัวโยนชั่วใส่คนอื่นก็ใช่ว่า จะประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะความน่าเชื่อถือขึ้นอยู่กับเครดิตของผู้พูด

      คำพูดของคนในพรรคประชาธิปัตย์ส่วนใหญ่วันนี้ถูกมองว่ามีความน่าเชื่อถือ อยู่ในระดับเดียวกันกับ ส.ส.วัชระ เพชรทอง ที่หน้าแหกจากการเอารูป น.ส.อามีนา กูล หรือไอซ์ ดารา มาโมเมแถลงข่าวเป็นลูกสาวของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง

       ข้อเท็จจริงของรัฐบาลที่บริหารสถานการณ์จนมีคนตาย 99 ศพ บาดเจ็บกว่า 2,000 คน


       ข้อเท็จจริงในความเดือดร้อนของคนชายขอบกรุงเทพฯจากปัญหาน้ำท่วมใหญ่ เพราะความไม่ร่วมมืออย่างจริงใจในการแก้ปัญหาของผู้ว่าฯ กทม. จากพรรคประชาธิปัตย์

เหล่านี้ต่างหากคือ “ความจริง” ที่คนกรุงเทพฯ...ต้องรู้