วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2555

กงล้อประวัติศาสตร์กำลังไล่ล่าบดขยี้คนชั่วไปจากแผ่นดิน

กงล้อประวัติศาสตร์กำลังไล่ล่าบดขยี้คนชั่วไปจากแผ่นดินที่ชื่อว่าประเทศไทย

    วัฒนธรรมการสร้างภาพและวาทะกรรมอันเป็นเท็จเป็นของพวกอำมาตย์ที่ได้กระทำ กันมาเป็นเวลาอันยาวนานเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อมีความรัก ความศรัทธา และเชื่อฟังพวกเขามาโดยตลอด เปรียบเสมือนฝังชิปไว้ใน
สมอง ของประชาชน  ยากที่จะถอนออกได้ ซึ่งความเชื่อ ความรัก ความศรัทธา และเชื่อฟังพวกเขาดังกล่าวนั้น  ไม่สามารถพิสูจน์หาความจริงไม่ว่าในทางใดๆได้  เป็นการกระทำโดยไม่มีมูลอะไรทั้งสิ้น  แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อกดทับมิให้ ประชาชนทั้งประเทศแสดงศักยภาพใด ๆ ได้อย่างอิสระ พร้อมกันนั้นพวกเขาก็กอบโกยผลประโยชน์อันเป็นทรัพยากรของชาติ กันอย่างเมามัน และกดขี่ขูดรีดหยาดเหงื่อแรงงานของประชาชน ทุกวิธีการมากว่าครึ่งศตวรรษมาแล้ว
 
   วัฒนธรรมการสร้างภาพและวาทะกรรมอันเป็นเท็จของคนกลุ่มนี้ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ตกอยู่ในความยากจนทุกข์ยากลำบากแสนเข็ญเหลือคณานับ และลูกหลานต้องรับมรดกความยากจนทุกข์ยากลำบากแสน เข็ญเหลือคณานับนี้ต่อเนื่องจากรุ่นสู่รุ่นอย่างไม่สิ้นสุด เช่นโซ่ไม่มีปลายฉันใดฉันนั้น  และไม่ทราบว่าพวกเขาจะทำอย่างไรจึงจะหลุดพ้นความทุกข์ยากลำบากแสนเข็ญเหลือ คณานับนี้ได้  มองไม่เห็นอนาคตของพวกเขาจริงๆ ที่ตราบใดคนกลุ่มนี้ยังดำรงอยู่ในประเทศนี้
 
   และเชื่อว่าในระยะเวลาอันใกล้นี้ คงจะปรากฏวัฒนธรรมการสร้างภาพและวาทะกรรมอันเป็นเท็จ ออกมาอย่างต่อเนื่องโดยใช้ความถี่มาก ๆ กว่าปกติ   มูล เหตุที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะกลุ่มคนหรือคณะบุคคลจำนวนไม่เกินสองหมื่นคน กำล้งตกอยู่ในสภาพที่ถูกความจริงของโลกไซเบอร์รุกไล่ล่าบดขยี้อย่างรุนแรงยากที่จะต่อต้านได้
 
   ด้วยกระบวนการรุกไล่ล่าบทขี้จากโลกไซเบอร์นี่เอง ทำให้พื้นที่ของคนกลุ่มนี้เหลือลดน้อยลงจะไม่มีที่ยืนแล้ว และคณะบุคคลดังกล่าวก็จำนนต่อความจริง ไม่สามารถหาข้อโต้แย้งหรือข้อแก้ตัวใดๆได้  แต่ด้วยความเคยชิน ต่อ การใช้อำนาจปกครองแบบกดขี่ขูดรีดเอารัดเอาเปรียบประชาชน  โดยไม่เกรงกลัวต่อบาป หรือมีความละอายต่อใครและผู้ใดมายาวนาน  นึกอยากได้อะไรหรือไม่อยากได้อะไรก็ชี้นิ้วสั่งการตามความต้องการ  โดยมิเคยจะต้องใช้ความ คิดใด ๆ ว่าผิดหรือถูกไม่คำนึงถึงจะมีเหตุผลหรือไม่มีข้าไม่สนทั้งสิ้น  เรียกว่าการกระทำดังกล่าวของคนกลุ่มนี้หรือคณะนี้ ใช้อำนาจจนเคยชิน  กลายเป็นสันดานไปเสียแล้ว 
 
           ครั้นมาถึงยุคโลกไซเบอร์เปิดหูเปิดตา ประชาชนจำนวนมาก หูตาสว่างไม่มีที่จะปกปิดความจริงหรือความเท็จใดๆได้  จากการที่เคยใช้วิธีการสร้างภาพและวาทะกรรมอันเป็นเท็จ  ซึ่งในอดีตประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นความจริง  ปัจจุบันคนกลุ่มนี้ก็ยังหลงใหลได้ปลื้มกับวิธีการเดิมๆของพวกตน  และ มีความหวังว่าประชาชนคงจะหลงใหลได้ปลื้มเช่นที่ผ่านมาในอดีต  ขอเรียนท่านด้วยความสมเพศว่าท่านเข้าใจผิดแล้ว  เพราะแทนที่ประชาชนจะหลงใหลได้ปลื้มเช่นในอดีต  แต่กลับกลายเป็นสร้างความเกลียดชังเครียดแค้นแก่ประชาชนเข้ามาทดแทน
 
   เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ยังมีวาทะกรรมอันเป็นเท็จ  เกิดขึ้นอีกแล้ววาทะกรรมอันเป็นเท็จที่บอกว่า”เราต้องช่วยกันสร้างคนดี ขจัดคนชั่วออกไป” วาทะกรรมนี้ยังไม่ถือว่าเท็จหรือจริง เพราะยังไม่ทราบว่าคนดีหรือคนชั่ว เป็น ผู้ใด เพราะเหตุว่ามันไม่มีเครื่องมืออะไรนำมาวัดได้ แต่พอจะอนุมานได้ว่าใครคือคนดีหรือใครคือคนชั่ว  โดยเอาเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อไม่นานนี้ และทำการวิเคราะห์เหตุการณ์ที่ผ่านมาพอที่จะนำมาพิเคราะห์ได้ว่าใครดีใคร ชั่ว       
                                 
   เริ่มเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ตั้งแต่วันนั้น และ ต่อเนื่องถึงปี2552, 2553,2554 และ 2555 เหตุการณ์ในปี 2549, 2552 และ 2553 ประชาชนทั้งประเทศ  และทั่วโลกต่างได้ทราบข้อเท็จจริงของความเป็นมาเป็นไป ตั้งแต่ต้นจนจบ ว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นทั้งหมดในประเทศไทยนั้น  เป็นการกระทำของฝ่ายที่เรียกว่าคนดีหรือคนชั่วประชาชนทั่วไปต่างทราบกันได้ ดี และเหตุการณ์ครั้งนั้น ประเทศชาติได้รับความเสียหาย คิดเป็นมูลค่าเป็นเงินกี่ล้านล้านบาท ไม่ทราบได้  พวกท่าน ตอบได้ไหมว่าการกระทำเช่นนี้ เป็นการกระทำของคนดีในความหมายของพวกท่านหรือ  แต่ ฝั่งฟากที่เป็นประชาชนทราบต่างพากันลุกขึ้นมาเรียกร้องเพื่อให้ประเทศนี้  ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ที่สมบูรณ์  อันเป็นไปตามบทบัญญัติที่รัฐธรรมนูญรับรองสิทธิเสรีภาพดังกล่าวนี้ไว้ แต่รัฐก็ได้ใช้กำลังทหารล้อมปราบอย่างเหี้ยมโหดอำมหิต  ซึ่งมีประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก บาดเจ็บเป็นจำนวนมากกว่าสองพัน และยังยัด เยียดข้อหาอันเป็นเท็จจับประชาชนผู้บริสุทธิ์เข้าคุกเป็นจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งผู้เป็นมนุษย์ด้วยกันจะไม่กระทำต่อกันเช่นนี้  
 
          โดยเฉพาะประเทศไทยเป็นประเทศที่นับถือศาสนาพุทธเป็นหลัก  ผู้คุมอำนาจรัฐเช่นนี้หรือเป็นคนดี  ประชาชน ที่ใช้สิทธิเสรีภาพที่พวกเขาพึงมีตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญรับรองไว้เช่นนี้  ประชาชนที่กระทำการดังกล่าวนี้เป็นคนชั่วทั่งนั้นใช่ไหม  แต่ถ้าเป็นบริวารของพวกท่านซึ่ง ได้มี แถลงการณ์หรือรายงานที่มีชื่อย่อว่า ”คอป”  รวมทั้ง ผู้ที่บางคนปลดเกษียรจากราชการแล้วแต่ยังคงอยู่บ้านหลวงฟรี  ใช้น้ำใช้ไฟฟ้าฟรี  ใช้รถยนต์หลวงฟรี  เครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่างฟรีทั้งหมด และอื่นๆฟรีทั้งนั้น แต่ประชาชนต้องเป็นผู้จ่ายเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายแทนให้ท่านอยู่ สบายๆ คนเช่นนี้หรือเป็นคนดี  
 
          หยุดเสียทีเถิดกับการสร้างภาพและวาทะกรรมอันเป็นเท็จแบบทุเรศๆเช่นในอดีต และสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา  ทุกวันนี้ประชาชนเขาหูตาสว่างกันทั่วทั้งแผ่นดินแล้วกับวาทะกรรมอันเป็น เท็จของ พวกท่าน  เรื่องทุกเรื่องที่อ้างว่าพวกท่านเป็นคนดี ความจริงก็ปรากฏแล้วจากการล้อมปราบประชาชนอย่างบ้าคลั่งเมื่อ 10 เมษายนถึง 19พฤษภา  2553  โดยศาลได้ชี้ออกมาแล้ว ว่าความตายของนายพัน คำกอง คนขับรถแท็กซี่รับ จ้างเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งตรงกับข้อเท็จจริง และข้อเท็จจริงเช่นนี้  คงจะปรากฏอย่างต่อเนื่องในรายอื่นๆต่อไปเรื่อยๆ สำหรับเหตุการณ์ของปี 2554และ 2555 ซึ่งรัฐบาลที่ประชาชนเลือกตั้งมาประมาณยี่สิบกว่าล้านเสียง ก็ยังบริหารงานให้เป็นไปตามนโยบายด้วยความยากลำบาก เพราะคนดีหรือคนชั่ว คอยบงการขัดขวางมิให้รัฐบาลบริหารงานไปได้ตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อประชาชนและ รัฐสภา 
 
          และพร้อมกันนี้ก็ยังหาวิธีการที่จะทำลายรัฐบาลทุกๆ วิถีทาง  แล้วใครล่ะที่ทำเช่นนี้  คำตอบก็คือไอ้กลุ่มคนพวกนี้แหละที่สถาปนาพวกของตนว่าเป็นคนดี  คนพวกนี้เขาเรียกว่าคนอัปรีย์คือเลวกว่าคนชั่วมิใช่หรือ  เชิญเถิดพวกท่านจะทำอย่างไรตามใจปรารถนา  เพราะความจริงก็คือความ จริง และขอแจ้งให้พวกท่านได้ตระหนักไว้ว่า ในโลกใบนี้มีความจริงเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ทุกวันนี้ไม่มีใครหลอกใครได้อีกแล้ว ตามที่กล่าวไว้แล้วว่าโลกใบนี้แสงสว่างสาดกระจายไปทั่วทุกมุมของโลก  พวกคนดีที่สำคัญผิดในตนเองจง รู้ไว้ซะว่า ในสายตาของประชาชนส่วนใหญ่ต่างเห็นและลงมติพร้อมกันว่าพวกท่านแท้จริง คือคนชั่ว...โว้ย
 
   ย้อนกลับไปเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งสภาฯกำหนดจะลงมติวาระสาม แต่ก็ต้องหยุดชะงักไปเพราะศาลรัฐธรรมนูญมาขัดจังหวะ และเป็นการขัดจังหวะที่ก้าวล่วงอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ นี่พวกคุณก็ทำได้เรียกว่าทำได้ แบบ ไม่อับอายและละอายต่อใครในแผ่นดินเละยังไปไกลทั่วโลกทีเดียวทุเรศมาก แต่เรื่องนี้ก็ผ่านไปการผ่านไปของเรื่องนี้ ทำให้ประชาชนทั้งประเทศตาสว่างมาก และทั่วโลกก็ได้เข้าใจแล้วว่าประเทศไทยปกครองด้วยระบอบอำมาตยา ธิปไตย ซึ่งเป็นระบอบที่กดทับระบอบประชาธิปไตยของประชาชนอย่างแท้จริงเห็นกันอย่าง ชัดๆอย่างนี้แหละ  ใครจะทำไมเพราะพวกกูเป็นคนดี...โว้ย
 
จาก นี้ต่อไปเวลาที่เหลือนี้พวกท่านกำลังวางแผนที่จะทำอะไรกันประชาชนเขารู้นะ แผนซึ่งจะทำลายรัฐบาลที่ประชาชนเลือกมา พวกท่านเตรียมการกันแบบโง่ๆที่จะใช้อำนาจบาดใหญ่อย่างที่เคยทำมาในอดีต  โดยตั้งความ หวังว่าเที่ยวนี้คงทำลายรัฐบาลได้สำเร็จแน่  ก็ขอให้ สำเร็จตามความปรารถนาแต่ใครจะเป็นผู้คว้าความสำเร็จระหว่างประชาชน กับพวกของท่านหรือคณะของท่านก็คงจะได้รู้กันเมื่อถึงวันนั้น  ประวัติศาสตร์มีไว้ให้มนุษย์เรียนรู้เพื่อ จะก้าวเดินต่อไปในอนาคตอย่างถูกต้องและมั่นคงอย่างถาวร และประวัติศาสตร์ก็ได้บันทึกไว้ว่าประชาชน ไม่เคยพ่ายแพ้แก่อำนาจที่ไม่เป็นธรรมในทุกกรณี ไม่ว่าจะเกิดที่ประเทศใดในโลกใบนี้  อาจจะมีที่ประชาชนตกเป็นฝ่ายพ่าย แพ้บ้าง แต่ก็เป็นการพ่ายแพ้ชั่วคราวเท่านั้นสุดท้าย ก็เป็นฝ่ายชนะและชนะแบบถาวรตลอดไปไม่เหลือแผ่นดินแม้เพียงตารางนิ้วให้พวก ท่านอาศัยอยู่ได้ 
 
   การกดขี่ขมเหงขูดรีดเอารัดเอาเปรียบของกลุ่มคนที่สร้างภาพและวาทะกรรมอัน เป็นเท็จ เพื่อให้ประชาชนเชื่อถือ มีความรักและศรัทธาได้ล้มเหลวลงไปอย่างยับเยินที่สุด หมดปัญญาของคนกลุ่มนี้ที่จะหาวิธีใดๆมาแก้ไข หรือ แทนที่ได้ จะมีก็เพียงท่านกำลังก้าวเดินไปสู่ความหายนะ และพวกท่านกำลังถูกกงล้อประวัติศาสตร์ไล่บดขยี้เข้าสู่เส้นทางที่พวกท่าน สร้างเอาไว้และพวกท่านก็กำลังจะเดินออกไปในเส้นทางดังกล่าวเพื่อออกจาก ประเทศนี้   แต่จนถึง บัดนี้พวกท่านก็ยังไม่สำนึกยังคง สร้างภาพและวาทะกรรมอันเป็นเท็จกันอย่างไม่สิ้นสุดสมเพศพวกท่านจริงๆ  
 
           ท่านพวกอำมาตย์ทั่นเอ๋ย เส้นทางสำหรับพวกท่านคงเหลือพื้นที่เพื่อก้าวเดินอีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น และพวกท่านซึ่งได้รับ การสูญเสียความเชื่อความศรัทธาและความรักจากประชาชนของเทศนี้อย่างถาวรไป แล้ว และไม่มีโอกาสที่จะนำกลับมาใช้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดๆ และอีกไม่นานเมื่อถึงวันนั้นประชาชนก็จะบดขยี้ขับไล่พวกท่านออกไปจากแผ่นดิน นี้ วัน นั้นเมื่อประชาชนขจัดพวกท่านออกจากแผ่นดินได้  ประชาชนก็จะเป็นผู้ปกครองกันเองจะไร้ซึ่งอำนาจเถื่อนอำนาจจอมปลอมเข้ามา ยุ่งเกี่ยวโดยเด็ดขาด 
 
            ประเทศนี้จะเป็นของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนโดยถาวรชั่วกาล นานแสนนานตลอดไป ซึ่งปัจจุบันกงล้อประวัติศาสตร์กำลังไล่บดขยี้คนดีเช่นพวกท่านออกไปจากแผ่น ดินนี้ที่ชื่อว่าประเทศไทยและคงเหลือลมหายใจที่นับได้ไม่กี่ครั้ง แผ่นดินนี้ก็จะปราศจากคนดีๆเช่นพวกท่านอีกต่อไป

แผนจลาจลล้มเหลว

แผนจลาจลเมื่อวาน 25 ก.ย. ล้มเหลว
แผนต่อไป...กบฏแยกใต้...ฟันธง

     ไอ้แมงสาบใต้...ไอ้เทือก...ไอ้ชวน...พวกมึงไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว..แผนสุดชั่วช้าเมื่อวานนี้..25 กย ทำได้....แต่จุดไม่ติด.....แดกแห้วตามเคย....ลำดับแผนชั่ว 25 กย ดังนี้ :-

         1....ใช้เบี้ย อีนางถ่อย พธม....เป็นตัวเปิดเกม...สะกดรอยเจ๊ดา...ไปที่พารากอนแล้วตรงเข้าด่า..ว่าหมิ่น
         2....มีคนของพวกมันแอบถ่ายคลิปเอง....โดยไม่ให้เห็นหน้าอีนางถ่อย...(แต่พลาด cctv จับภาพได้)
         3...นำคลิปไปขยายผลสร้างกระแสในสื่อต่างของมัน....เพื่อล่อให้ปลามากินเหยื่อ...................
         4...มีการนัดหมายวันเวลาชัด..เข้าแจ้งความดำเนินคดีที่กองปราบ...ระหว่างเจ๊ดา...กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ...
         5...เป็นไปตามแผนที่ไอ้พรรคแมงสาบชั่ววางไว้...นำม็อบมาที่กองปราบ...มีการแจกเสื้อยืดทันทีมีข้อความ .....ทรงพระเจริญและผ้าโพกศรีษะว่าคนรักในหลวงไม่ทิ้งกันเพื่อดึงสถาบันลงมาเล่นและเป็นเกราะป้องกัน
         6...เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนโดยที่ฝ่ายรัฐและ นปช ไม่ทราบล่วงหน้ามาก่อนเป็นการข่าวที่บกพร่องมากๆ

.....จากนั้นเมื่อสบโอกาส....จึงลงมือก่อการจารจลทันที่....แต่แดงไหวตัวทันแผนชั่วทั้งหมดจึงแดกแห้วแทน

==============================================
บทความ..แผนกบฏแยกใต้...
==============================================
การซ่องสุมกำลังไว้มากมายเป็นเรือนหมื่น(โจรใต้ศรีวิชัย)
....ตามตำราพิชัยสงคราม... 
หมายถึง...การซ่องสุมเพื่อก่อการกบฏ......นั่นเอง....เป็นหลักตรรกะธรรมดาง่ายๆ...


.......เมื่อการก่อวิาศกรรมชนิดบ้าคลั่งทุกอย่างได้ล้มเหลวลง..ไพ่ใบสุดท้ายคือ..ก่อการกบฏแยก  ดินแดน...เป้าหมายจากชุมพร..จนสุดชายแดนใต้..นี่คือพฤติกรรม..หนีคุก..หนีตายครั้งสุดท้าย  ของไอ้พรรคการเมืองโจรใต้...ชั่วช้าเหลือคณานับ...กำลังดิ้นพราดเหมือนหมาถูกน้ำร้อน..

.......มันมิใช่เป็นการกล่าวโดยลอยๆ....โมเดลเหล่านี้ได้มีการเริ่มต้นคิดตระเตรียมมาตั้งแต่
สมัยท่านนายกทักษิณ..นานมาแล้ว....โดยมีนาย ป. เป็นหัวหน้าก่อการหลัก...โดยมีเงื่อนไข
อยู่ว่า...ถ้าหากการโค้นล้มนายกทักษิณล้มเหลว...จะใช้กำลังทหารในมือที่มีอยู่หนีไปปักหลัก
ตั้งฐานที่มั่นใน 4 จว ภาคใต้โดยมี..สงขลาผนวกรวมอยู่ด้วย..ซึ่งช่วงนั้นมันได้มีการตระเตรียม พรบ พิเศษสำหรับ 4 จว ภาคใต้ไว้เรียบร้อยแล้ว....แต่เมื่อการทำรัฐประหารรัฐบาลทักษิณสำเร็จ  ทุกอย่างจึงเงียบหายไป..


.......มาจนถึงปัจจุบันสถานการณ์พลิกกลับ..คณะของท่านทักษิณ...สามารถแย่งชิงอำนาจรัฐ
กลับคืนมาได้.....จนทำให้คณะแมงสาบเกิดการระส่ำระสาย...เหมือนคนที่กำลัง..หนีคุกหนีตาย  ขาดสติบ้าคลั่งหน้ามืดลงมือกระทำสิ่งชั่วร้าย..ก่อวินาศกรรมปฏิบัติการฆ่าทำลายล้างทุกรูบแบบ โดยมี..นายชวน ชั่วช้า..หน..ตัวจริงกำกับอยู่เบื้องหลัง...ส่วน นาย ป. สังขารไม่ให้..กำลังฟอกตัวอยู่ เพื่อหวังนอนตายอย่างสงบสวนจะทำได้หรือไม่...ก็ต้องไปถามคนเสื้อแดงจะยอมไหม..


.....จะเห็นว่าแหล่งข่าวจากสายทหารแตงโม...ได้รายงานถึงไอ้พวกโจรศรีวิชัย..ได้แอบตระเตรียม อาวุธเสบียงและมีการฝึกฝนการต่อสู้ใช้อาวุธ...จรยุทธ์และการใช้ระเบิดทุกชนิดทำลายล้างได้ทุกรูปแบบ  มีจำนวนที่ผ่านการฝึกสำเร็จแล้วนับหมื่นคน...ฝังตัวอยู่ในกรุงเทพจำนวนมาก...เตรียมก่อวินาศกรรม  เมื่อสถานการณ์ก่อการร้ายนั้นๆได้ถูกจุดติดขึ้น...เป้าหมายเพื่อให้เกิดรัฐประหารขึ้นอีกครั้ง...

.....แต่ถ้าหากว่า....สถานะการณ์ก่อการร้ายวินาศกรรมทุกอย่าง..เกิดล้มเหลวลง..ไพ่ในมือใบสุดท้าย  ก็คือก่อการกบฏแยกดินแดนใต้....โดยคิดว่าความเป็นหนึ่งเดียวของพี่น้องชาวใต้...จะเป็นเกราะ  คุมครองพวกมันได้....จะมีการสนธิกำลังระหว่างโจรศรีวิชัย...กับทะเหี้ยสันหลังหวะที่มีคดีฆ่า  ปชช...ซึ่งมีโทษหนัก..ผนวกเข้าด้วยกัน...การคิดแบบแมงสาบจะทำแบบง่ายๆ...แต่จริงๆแล้วจะ  ไม่ง่ายอย่างที่คิด...ในเมื่อกบฏได้..ก็ต้องปราบได้.....ก็ต้องย้อนรอยไปถึงประวัติศาสตร์...ในสมัย สมเด็จพระเจ้าตากสินมหารราช....ท่านปราบกบฏเมือง นครฯ ได้อย่างไร...???

        จนมาถึงปัจจุบัน..เรามียอดคนสมองเพชรอย่างท่าน..ทักษิณ..จะปราบไอ้แมงสาบโสโครกตัวนี้ไม่ได้อย่างไร..?

อ๋อ...มันเป็นอย่างนี้นี่เอง.


          อ๋อ...มันเป็นอย่างนี้นี่เอง...การต่อต้านนายกฯยิ่งลักษณ์ใน NY มาจากขบวนการพวกเลวๆในเมืองไทยนี่เอง......
        ได้รับข้อความด่วนจากคนในสหรัฐที่ติดตามข่าวนายกฯยิ่งลักษณ์ส่งมาให้รับรู้ ผมก็มาเผยแพร่ต่อ
         บอกได้เลยว่าสันดานมันชาติชั่วเลวระยำมาก... ที่ส่ง forward mails กว่า 40 ฉบับไปยังเสื้อเหลืองในอเมริกาจากสนธิ ลิ้มทองกุล จากพรรคประชาธิปัตย์ จากแกนนำพธม. และจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์คนอื่นๆ
       การกระทำเยี่ยงนี้มันทำให้ขายหน้าประเทศชาติแต่ในที่สุดผลร้ายก็จะตกกับพวกมันเอง อย่างไรก็ดี...นายกฯยิ่งลักษณ์เป็นผู้บริหารสูงสุดของประเทศ เป็นหัวหน้าคณะรัฐบาลที่ประชาชนเลือกมาให้ดำรงตำแหน่งด้วยเสียงท่วมท้น.... จะทำลายลงได้ก็มีวิธีเดียว...คือใช้ตำหรับเดิม “รัฐประหาร” แต่คราวนี้ประชาชนจะไม่ยอมแน่.....ลองดูสิ.....
เชิญอ่านครับ:
สวัสดีครับคุณอาข่า
         ขอรายงานเบื้องหลังการถ่ายทำ กระบวนการเสื้อเหลืองที่ระดมพลมาต่อต้านนายกยิ่งลักษณ์ที่นิวยอร์ค ให้ชาวโลกได้รับทราบ ว่าทุกอย่างทำกันอย่างเป็นขบวนการ
        เริ่มจาก forward mails กว่า 40 ฉบับจากแกนนำ พธม. ในประเทศไทย
และจากพรรคประชาธิปัตย์ที่ร่วมกันส่งเสียงเรียกร้องปลุกเร้าสาวกเสื้อเหลืองในอเมริกาทุกรัฐ  ให้ร่วมมือระดมสรรพกำลังไปประนามด่าทอประท้วงนายกยิ่งลักษณ์ในการมาเยือนอเมริกาครั้งนี้ ก็ได้สาวกหน้ามืดจากรัฐใกล้เคียงมาบ้างแต่ไม่มากเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
       สาวกส่วนใหญ่ที่ร่วมประท้วงได้มาจากร้านอาหารที่เจ้าของร้านเป็นเสื้อเหลือง
โดยเจ้าของร้านได้ขอร้องแกมบังคับลูกจ้างของตนให้หยุดงานไปร่วมประท้วง
โดยจะได้รับค่าจ้างรายวันตามปรกติ  รวมผู้มาประท้วงทั้งหมดทั้งลูกจ้างในร้านอาหารของคนเสื้อเหลือง  และคนเสื้อเหลืองจากรัฐใกล้เคียงผู้ที่หลงเชื่อ forward mails ทั้ง 40 กว่าฉบับ จากสนธิ ลิ้มทองกุล จากพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำพธม. และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์คนอื่น ๆ  ทั้งหมดไม่เกิน 30 คน โดยมีนางไพลิน (หญิงงามเมือง) เป็นผู้ให้บริการรถบัสรับส่งทั้งไปและกลับ

         นายกฯยิ่งลักษณ์ได้รับรู้ถึงความเป็นมาของการประท้วงครั้งนี้ล่วงหน้า
แต่ท่านก็บอกว่าไม่เป็นไร เพราะท่านเป็นแขกของรัฐบาลอเมริกันเค้าคงดูแลความเรียบร้อยให้เอง  ก็อย่างที่เป็นข่าว พวกที่มาประท้วงต้องยืนตากแดดตากลมอยู่ถนนฝั่งตรงข้ามโรงแรม แต่คนเสื้อแดงเจ้าหน้าตำรวจและหน่วยรักษาความปลอดภัยอนุญาตให้เข้าไปนั่งพักในโรงแรมได้
          บรรยากาศรื่นรมณ์ ร่วมทั้งห้องน้ำสะดวกสบาย ตามสไตล์โรงแรม 5 ดาว + และตอนค่ำๆของวันนี้ คณะคนเสื้อแดงจะรวมตัวกันไปกล่าวอำลานายกยิ่งลัษณ์ที่โรงแรม เนื่องจากท่านนายกได้เสร็จสิ้นภาระกิจและจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันพรุ่งนี้
        ผมเขียนมายืดยาวเพียงอยากให้คุณอาข่า นำสาระที่ผมเขียนไปตั้งกระทู้ให้ประชากรในโซเชี่ยลมีเดียได้อ่านและรับรู้กัน
จากใจ