วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554


เอกยุทธกัดดะ ด่า : ฝรั่งหน้าโง่
ฝรั่งโต้ : กูไม่กลัวมึง
คณาจารย์ล้านนาจี้ขอขมาสตรีชาวเหนือ-นายกฯ
ภาพประกอบโดย: Gag Las Vegas

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
4 พฤศจิกายน 2554

             วิวาทะร้อนแรงกรณีนายเอกยุทธ อัญชัญบุตร เขียนข้อความกระทบชิ่งนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าเป็นสาวภาคเหนือหน้าโง่ควรคู่กับอาชีพโสเภณีมากกว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี ยังลุกลามต่อไปในวันนี้ โดยเขาได้เปิดศึกกับนักข่าวฝรั่งที่วิจารณ์เขาด้วยข้อกล่าวหา"รับเงินทักษิณ" และบอกว่าเป็น"ฝรั่งหน้าโง่"ทำให้นักข่าวผู้นี้ทำจดหมายเปิดผนึกตอบโต้อย่างเผ็ดร้อน

ดูท่าแล้วโลกนี้อาจเหลือคนฉลาดคือนายเอกยุทธคนเดียวเสียแล้ว

            นายแอนดรูว์ แมคเกรเกอร์ มาร์แชลล์ (Andrew MacGregor Marshall) อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าวรอยเตอร์ ซึ่งลาออกจากรอยเตอร์เมื่อไม่นานมานี้ เพื่อจะได้มีอิสระในการเปิดเผยข้อมูลลับวิกิลีกส์เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย ได้เขียนจดหมาเปิดผนึกในบันทึกเฟซบุ๊คของเขาด้วยภาษาไทย และใช้รูปประจำสถานะประจำตัวใหม่ในสไตล์ไทยๆโดยเป็นรูปกำลังยกถ้วยกาแฟที่เขียนไว้ว่า "กูไม่กลัวมึง" โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

Open letter to Akeyuth Anchanbutr

เรียน คุณเอกยุทธ

          ผมรู้สึกสนใจที่ได้อ่านความคิดเห็นล่าสุดบนเพจเฟซบุ๊คของคุณที่คุณได้เรียกผมว่า "ฝรั่งหน้าโง่" และกล่าวหาว่าผมได้รับเงินเพื่อบ่อนทำลายประเทศไทยและใครก็ตามที่ต่อต้านทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวของเขา ดูเหมือนว่าคุณจะไม่พอใจ เพราะผมได้วิพากษ์วิจารณ์ข้อความอันน่าทึ่งของคุณเมื่อเร็ววันนี้ ที่คุณกล่าวว่าสาวเหนือที่ไร้การศึกษาและขี้เกียจนั้นควรจะทำงานขายบริการ และได้บอกเป็นนัยอีกว่านายกรัฐมนตรีของประเทศคุณนั้นควรจะเลือกทำอาชีพนี้

          ผมถือว่าความคิดเห็นเช่นนี้นั้นน่ารังเกียจยิ่ง และผมก็กล่าวไปเช่นนั้น

           วิกฤติทางการเมืองอันซับซ้อนที่ได้แบ่งแยกประเทศไทยในทศวรรษที่ผ่านมานั้นมีหลายมิติ และไม่สามารถทำให้ดูไม่ยุ่งเหยิงโดยง่าย แต่ข้อคิดเห็นของคุณนั้นเป็นตัวอย่างของทัศนคติที่อยู่ในใจกลางของวิกฤตินี้ ชาวไทยบางส่วนเชื่อว่าผู้ที่มีทรัพย์สินและฐานะที่มั่งคั่งนั้น สมควรได้รับความเคารพมากกว่าผู้อื่น มีอำนาจทางการเมืองมากกว่าผู้อื่น และไม่สมควรอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกับผู้อื่น พวกเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องสนุกที่จะล้อเลียนและข่มเหงคนจน และปฏิบัติต่อเพศสตรีด้อยกว่าบุรุษ พวกเขาไม่เชื่อในสังคมที่เท่าเทียมกัน พวกเขาเชื่อในสังคมเจ้าขุนมูลนายที่มีพวกเขาอยู่บนยอดสุด

         คนไทยส่วนอื่นนั้นเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีสิทธิ์ในการได้รับความเคารพและเกียรติที่เท่าเทียมกัน มีสิทธิ์ที่จะได้รับการนับคะแนนเสียงทางประชาธิปไตย และมีสิทธิ์ที่จะได้รับการปฏิบัติภายใต้กฎหมายเท่าๆกัน พวกเขาเชื่อในสังคมประชาธิปไตยที่เท่าเทียม ซื่อสัตย์ ไม่มีสองมาตรฐาน

         ผมได้ลาออกจากงานที่รอยเตอร์ในเดือนมิถุนายนของปีนี้ หลังจากที่ใช้เวลา 17 ปี เป็นผู้สื่อข่าวนานาชาติ เพื่อที่ผมจะได้เขียนเกี่ยวกับประเทศไทยอย่างเปิดเผยและซื่อตรง ผมทำเช่นนี้เพราะผมรักประเทศไทยจากใจจริง และผมเชื่อว่าประเทศไทยนั้นมีศักยภาพมหาศาลเมื่อแก้ไขปัญหาทางการเมืองในปัจจุบันแล้ว ผมยังเชื่ออีกว่าประชาชนชาวไทยนั้นมีสิทธิที่จะได้รับรู้ความจริงเกี่ยวกับการเมืองและประวัติศาสตร์ของพวกเขา แทนที่จะเป็นคำโกหกที่คนที่มีอำนาจมักจะชอบกล่าว 

         ไม่มีใครจ่ายเงินให้ผมทำสิ่งนี้ และแน่นอน การทำแบบนี้นั้นเป็นการเสียสละทางการเงินพอสมควร แต่ผมก็รู้สึกยินดีกับการตัดสินใจนี้ เพราะผมเชื่อว่าคุณธรรม ความซื่อสัตย์ และการช่วยเหลือผู้อื่นนั้นมีความสำคัญและมีค่ามากกว่าเงิน

            มันน่าผิดหวังที่ได้เห็นคุณได้กล่าวอ้างอย่างผิดๆ ว่าผมได้รับเงินมาเพื่อบ่อนทำลายประเทศไทย บางทีคุณอาจอธิบายได้ - อะไรที่ผมเขียนได้สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศไทย? มันดูแปลกสำหรับผมที่ความจริงนั้นเป็นสิ่งที่อันตรายได้ขนาดนี้ และอีกข้อคือ คุณมีหลักฐานอะไรที่จะมาพิสูจน์คำกล่าวอ้างของคุณที่ว่าผมได้รับเงินจากศัตรูของประเทศไทย? ผมรู้คำตอบสำหรับคำถามนี้: คุณไม่มีหลักฐาน เพราะมันไม่มีหลักฐาน เพราะว่ามันไม่ใช่ความจริง

            ผมเคยคิดว่าคนที่มีภูมิหลังอย่างเช่นคุณจะใช้ความระมัดระวังมากกว่านี้ ก่อนที่จะพยายามป้ายสีผู้อื่น ในเมื่อภูมิหลังส่วนตัวคุณนั้นดูน่าสงสัยเป็นอย่างยิ่ง เป็นที่รู้กันอย่างกว้างขวางว่าบริษัทชาร์เตอร์อินเวสต์เมนต์ของคุณนั้นเป็นธุรกิจแชร์ผิดกฎหมาย คนไทยธรรมดาหลายๆคนนั้นถูกทำลายชีวิตลงเมื่อบริษัทล้มละลายไปในปีพ.ศ. 2526 ในขณะคุณหลบหนีไปยังสหราชอาณาจักรและใช้ทรัพย์สินที่คุณขโมยมาจัดตั้งเครือร้านค้า คุณรอเวลา 20 ปีเพื่อที่คดีความจะหมดอายุ และคุณก็กลับมายังประเทศไทย

          ในตอนนี้ดูเหมือนคุณจะเชื่อว่าคุณมีสิทธิที่จะออกความเห็นชี้ขาดทางศีลธรรมเกี่ยวกับผู้อื่น และไม่ควรมีใครมาวิพากษ์วิจารณ์คุณ ผมไม่เห็นด้วย

           ประชาชนของประเทศไทย รวมไปถึงประชาชนทางเหนือและทางใต้และทุกๆจังหวัด นั้นเฉลียวฉลาดพอที่จะตัดสินได้สำหรับตัวพวกเขาเอง พวกเขาสามารถอ่านความคิดเห็นของคุณ และอ่านคำตอบของผม และตัดสินว่าใครคือศัตรูตัวจริงของความเจริญ ความซื่อสัตย์ และประชาธิปไตยในประเทศไทย

ด้วยความจริงใจ

Andrew MacGregor Marshall

คณาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งล้านนาประนามเอกยุทธ
กดดันต้องขอขมาต่อสตรีชาวเหนือ-นายกฯยิ่งลักษณ์


           คณาจารย์ของมหาวิทยาลัยแห่งล้านนา นำโดย ศ.ดร. ธเนศวร์ เจริญเมือง ได้ออกแถลงการณ์ของมหาวิทยาลัยแห่งล้านนา ประนามทัศนะของนายเอกยุทธ อัญชัญบุตร ที่ดูหมิ่นสตรีล้านนาและนายกรัฐมนตรีหญิงของไทย พร้อมเรียกร้องให้นายเอกยุทธจะต้องกล่าวขอขมาต่อสตรีชาวเหนือ ต่อนายกรัฐมนตรี และต่อประชาชนไทยอย่างเป็นทางการ พี่น้องคนไทยจะต้องร่วมกันคัดค้าน อย่าให้ทัศนะที่ผิดพลาดร้ายแรงครั้งนี้ดำรงอยู่อีกต่อไปในสังคมไทย

โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

แถลงการณ์ของมหาวิทยาลัยแห่งล้านนา
เรื่อง:ขอประนามทัศนะของนายเอกยุทธ อัญชัญบุตร
ที่ดูหมิ่นสตรีล้านนาและนายกรัฐมนตรีหญิงของไทย


          จากกรณีที่นายเอกยุทธ อัญชัญบุตร ออกมากล่าวเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2554 นี้ ว่า


           “ ไม่อยากจะกล่าวคำแบบนี้ เพราะจะดูเสมือนดูถูกสตรี..แต่ในความเป็นจริงนั้น...สาวเหนือที่ไร้การศึกษาหรือขี้เกียจ และด้อยปัญญา จะมาทำงานสบายที่หญิงปกติไม่ทำกัน..หลักๆก็คือขายบริการ..ฉะนั้นสาวเหนือที่ไร้สติปัญญาและโง่เขลาขนาดหนักแต่หน้าด้านมารับตำแหน่ง ก็ควรจะรู้นะว่าอาชีพอะไรที่เหมาะแก่คุณ ?...” และ...

         “ ตำแหน่งนายกฯ นั้น ไม่ใช่ของครอบครัว..และไม่ใช่ที่ฝึกหัดงาน..หากไร้ปัญญาก็อย่าหน้าด้านมารับตำแหน่ง......"

           เรา คณาจารย์ของมหาวิทยาลัยแห่งล้านนา รู้สึกเศร้าสลดใจเป็นอย่างยิ่ง คิดไม่ถึงว่าจะมีคนไทยคนใดออกมากล่าวถ้อยคำเช่นนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่ประชาชนไทยหลายล้านคน โดยเฉพาะในเขตภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ ต้องประสบปัญหาจากภัยน้ำท่วมที่รุนแรงที่สุดในรอบศตวรรษ

ข้อที่หนึ่ง ถ้อยคำของนายเอกยุทธที่ดูหมิ่นเหยียดหยามสตรีภาคเหนือว่า คนที่ไร้การศึกษา หรือคนที่ขี้เกียจ และด้อยปัญญา ชอบงานสบายคือการขายตัว นั้นไม่เป็นความจริงเพราะ

          1. สตรีภาคเหนือก็เหมือนสตรีภาคอื่นๆทั่วโลก นั่นคือ เป็นคนมีสติปัญญา ต่อสู้ดิ้นรน ไม่กลัวงานหนัก รักครอบครัว รับผิดชอบต่อครอบครัวและส่วนรวม

          ในสังคมไทยยุคก่อนที่ประเพณีการแต่งงาน คือชายเข้าไปอยู่บ้านของฝ่ายหญิง และสังคมไทยไม่มีนามสกุล ทำให้หญิงกับชายมีฐานะและศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน ต่างคนต่างช่วยกันทำงานสร้างครอบครัวและสร้างสรรค์สังคม กระทั่งในหลายกรณี หญิงมีบทบาทมากยิ่งกว่าชาย สตรีในสังคมเช่นนี้มีบทบาทโดดเด่น แตกต่างจากสังคมบางแห่งที่ยกย่องให้ชายเป็นใหญ่ และกดขี่หญิงให้เป็นเช่นทาส ไร้สิทธิไร้เสียง

          2. ในรอบกึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ระบบเศรษฐกิจการค้าเสรีที่ขยายตัวได้กระตุ้นให้เกิดการค้าโสเภณี มีการล่อลวงหญิงจากต่างจังหวัดเข้าไปเป็นโสเภณีในเขตเมืองหลวงและลามออกไป

การกล่าวว่าสตรีภาค เหนือขี้เกียจ โง่เขลา และชอบงานสบายเลยไปขายตัว
จึงเป็นการโป้ปดและดูถูกกันอย่างรุนแรง


            3. โลกทุนนิยมเสรีทุกวันนี้ยังคงมีการหลอกลวงและบีบบังคับสตรีจากทุกสังคมให้เข้าสู่ธุรกิจการขายตัว ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะภาคเหนือ

            สตรีชาวเหนือมีปัญญา ไม่เคยเกี่ยงงาน หาเงินเลี้ยงครอบครัวในทุกสาขาอาชีพ ขณะที่เขียนแถลงการณ์นี้ ก็มีสตรีชาวเหนือจำนวนหลายคันรถที่สละเวลาไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคกลางและกรุงเทพฯ คนที่ไปไม่ได้ก็ช่วยกันบริจาคสิ่งของตามจุดต่างๆในแทบทุกอำเภอของภาค

ข้อที่สอง การที่นายเอกยุทธกล่าวในทำนองนายกฯหญิงของไทยไร้สติปัญญา และโง่เขลาอย่างมาก ทั้งหน้าด้านมารับตำแหน่ง และกล่าวว่าน.ส. ยิ่งลักษณ์น่าจะรู้ว่าอาชีพอะไรเหมาะกับตัวเอง จึงไม่ใช่เพียงการดูถูกสตรีชาวเหนือคนนี้ หากยังเป็นการดูถูกประชาชนไทยส่วนใหญ่ว่าโง่เง่าที่เลือกน.ส. ยิ่งลักษณ์ให้เป็นนายกรัฐมนตรี และดูถูกสติปัญญาของคนไทยทั้งประเทศ ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาที่ยังคงยินยอมให้เธอบริหารประเทศต่อไปในฐานะนายกรัฐมนตรี

นี่เป็นทัศนะที่ต่ำทรามและไม่สร้างสรรค์อย่างที่สุด

            คำกล่าวของนายเอกยุทธ ช่วยเปิดด้านที่หยาบช้าและเลวร้ายในสติปัญญาของคนกลุ่มหนึ่ง ที่ต้องการดิสเครดิตผู้นำของรัฐบา ลและหวังสร้างความปั่นป่วนในสังคม เอาปัญหาอคติทางเพศ ปัญหาสังคม และปัญหาการเมืองมาพันกัน หวังทำลายสังคมการเมืองแบบประชาธิปไตยในปัจจุบัน ด้วยการด่ากราดสตรีชาวเหนือและหมิ่นแคลนนายกรัฐมนตรี

ทั้งๆที่ทุกๆฝ่ายควรจะช่วยกันแก้ไขวิกฤตปัญหาน้ำท่วมให้มากที่สุด

         คณาจารย์ของมหาวิทยาลัยแห่งล้านนา ขอประณามคำกล่าว และทัศนะของนายเอกยุทธ อัญชัญบุตรในครั้งนี้ ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันประณามทัศนะกดขี่ทางเพศ ทัศนะที่ดูถูกประชาชนในระบอบประชาธิปไตย และทัศนะที่ดูถูกเหยียดหยามและเหยียบย่ำคนที่เป็นผู้นำของประเทศ

         นายเอกยุทธจะต้องกล่าวขอขมาต่อสตรีชาวเหนือ ต่อนายกรัฐมนตรี และต่อประชาชนไทยอย่างเป็นทางการ พี่น้องคนไทยจะต้องร่วมกันคัดค้าน อย่าให้ทัศนะที่ผิดพลาดร้ายแรงครั้งนี้ดำรงอยู่อีกต่อไปในสังคมไทย.

คณาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งล้านนา

รศ.ดร. รังสรรค์ จันต๊ะ
อ. สมชาย ประทุมเมศร์
อ. สุทธิวัฒน์ วงศ์รังสรรค์
อ. ภูรินทร์ เทพเทพินทร์
อ. วัชระ ศรีสรรค์
อ. สมจินต์ รักยุติธรรม
อ.พลดี มงคล
ศ.ดร. ธเนศวร์ เจริญเมือง

3 พฤศจิกายน 2554

************
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:คุณยายเสื้อแดง-คำผกาจัดหนัก-สตรีล้านนาเอาเรื่องแจ้งจับ โดนเข้ามั่งเอกยุทธแหกปากโวยกระทบสิทธิ
http://redusala.blogspot.com

แมลงสาบ เทะขาตัวเองซะแล้ว
หมัดเด็ดลูกพรรคปชป.ย้อนศรน็อกมาร์คซะเอง
http://thaienews.blogspot.com/2011/11/blog-post_5332.html


           ทีเด็ด-นายเจ๊ะอามิง โต๊ะตาหยง รมช.มหาดไทยเงาพรรคประชาธิปัตย์ นำสถิติระดับน้ำในเขื่อนภูมิพลมาแสดงต่อสื่อมวลชน เพื่อให้ห็นว่าระดับน้ำในเขื่อนภูมิพลยุคที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ บริหารงานสูงถึง 9 พันล้านลูกบาศก์เมตรในวันที่ 3 สิงหาคม แต่ปล่อยให้น้ำสูงถึง 1.3 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตรจึงค่อยปล่อยน้ำออกมา

            แตกต่างจากรัฐบาลประชาธิปัตย์ที่จะพร่องน้ำจากเขื่อนเมื่อระดับน้ำสูงไม่เกิน 1 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร แต่ทำไมรัฐบาลชุดนี้กับปล่อยให้ระดับน้ำสูง 1.3 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตรค่อยปล่อยน้ำ ถือว่าเกินระดับที่เขื่อนจะรับไหว เท่ากับตั้งใจให้เกิดน้ำท่วมใช่หรือไม่(มติชน)

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
3 พฤศจิกายน 2554

         จากคำกล่าวดังกล่าวของนายเจ๊ะอามิงที่ระบุวันที่ 3 สิงหาคมน้ำสูงจนเข้าขีดอันตราย แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ยอมปล่อยน้ำ จน1.3ล้านลูกบาศก์เมตรค่อยปล่อย เหมือนมีเจตนาให้น้ำท่วมนั้น จากการลำดับเวลาจะพบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เพิ่งได้รับลงมติจากสภาให้เป็นนายกฯในวันที่ 5 สิงหาคม ได้รับโปรดเกล้าฯเป็นทางการในว้นที่ 8 สิงหาคม และประชุมครม.นัดแรกในวันที่ 11 สิงหาคม

          ดังนั้นในวันที่ 3 สิงหาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังคงรักษาการนายกรัฐมนตรีอยู่ และยังเป็นเช่นนั้นมาจนกระทั่งวัีนที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้รับโปรดเกล้าฯเป็นทางการในวันที่ 8 สิงหาคม

          คำถามมีอยู่ว่า 5 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 3-8 สิงหาคมนั้น เมื่อรัฐบาลอภิสิทธิ์รู้ข้อมูลดีขนาดนี้ รัฐบาลรักษาการของนายอภิสิทธิ์กำลังทำอะไรอยู่ในเวลานั้น?


                5 สิงหาคม-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับการลงมติจากที่ประชุมสภาให้ขึ้นเป็นนายกฯคนใหม่ (รอยเตอร์)


                   8 สิงหาคม-โปรดเกล้าฯ'ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรี (กรุงเทพธุรกิจ)


11 สิงหาคม-ประชุมครม.ยิ่งลักษณ์นัดแรก (ข่าว อสมท.)

            นายแพทย์เหวง โตจิราการ ส.ส.เพื่อไทย และแกนนำนปช.โต้พรรคประชาธิปัตย์กรณีนี้  เรื่องเกี่ยวเนื่อง:สุดท้ายชายชุดดำผิดภัยพิบัติน้ำถล่มกรุง
http://redusala.blogspot.com

ใครนำทุกข์น้ำท่วมเล่นเกมการเมือง << จาก โพล Thai E News


http://redusala.blogspot.com

*เก็บตกข่าวน้ำท่วม จาก Thai E News*

ข่าวคืบหน้าจ่าเฉยไม่รอด-เจ้าหน้าที่ตำรวจสภต.คูคต ปทุมธานีพากันหามร่างจ่าเฉยที่กลายเป็นจ่าแฉะไปแล้ว ส่วนจะส่งที่ไหน ข่าวไม่ได้แจ้ง(ที่มา:facebook หลวงเจ๊ว.วินมอไซค์ อัณฑะญานโตงเตง)

ข่าวสารการจราจร-โดนกันไปถ้วนหน้า จ่ามีเหรอจะรอด แต่ยังอุตส่าห์ทำหน้าที่แข็งขัน ในที่สุดก็สู้ไม่ไหว ดังภาพแรก(ที่มา:facebook Love Nan Thung Chang)

น้องน้ำกับพี่กรุง-มวลน้ำใหญ่มากดูท่าพี่กรุงคงไม่รอด อย่าเพิ่งวางใจแม้หน้าบ้านใครยังแห้งๆ(ภาพเฟซบุ๊ค แชร์ต่อๆกันมา)

ท่วมแค่เข่า-ข่าวดีของชาวกรุง น้ำท่วมแค่เข่า ไม่มิดหัวเท่าปทุม-อยุธยา(ภาพส่งต่อๆกันมาทางเฟซบุ๊ค)

ข่าวสืบ-ในที่สุดก็สืบเจอตัวการ"สลิ่ม"มือไม่พายเอาเท้าราน้ำแล้ว (ที่มา:facebook เจเจ สาทร)

ข่าวเจาะ-น้ำท่วมใหญ่หนนี้เป็นเพราะคนๆเดียว (ที่มา:แชร์ต่อๆกันมาทางfacebook)

ข่าวเศร้า-สลด! ดาราดังญี่ปุ่น สังเวยน้ำท่วมในไทย เสียชีวิตลอยมาติดตลิ่ง!! ขนาดซุปตาร์ ยังไม่รอด...(ที่มา:facebbok Bbberry.net )

ข่าวส่งเสริมคุณธรรม-ท่ากดATMของคนกรุงเทพฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเป็นอันมาก(ที่มา:แชร์ต่อๆกันมาทางfacebook)
ข่าวชิล-ไม่รู้จะชิลไปถึงไหนพ่อคนนี้(ที่มา:แชร์ต่อๆกันมาทางfacebook)
ข่า่วรั่วๆ-เิฮ้ย!กลางน้ำต่อหน้าต่อตาคนนี่นะ ไม่กลัวเด็กและเยาวชนคนชราหญิงมีครรภ์จะกรี๊ดเลยใช่มะ...(ที่มา:แชร์ต่อๆกันมาทางfacebook)
ข่าวคนหาย-ประกาศ ใครทำภรรยาหายระหว่างน้ำท่วม รีบติดต่อมาด่วน ที่ผ่านมาให้อภัยหมดแล้ว (ที่มา:facebook ThailandExhibition)
ข่าวกีฬาทางน้ำ-ภาพมันฟ้องอ่ะนะ(ที่มา:แชร์ต่อๆกันมาทางเฟซบุ๊ค)
ข่าวอาชญากรรม-เวลาแอบกลับไปดูบ้านน้ำท่วมค่ำๆมืดๆ ท่านสุภาพสตรีโปรดระวังโจรหื่นคุกคามทางเพศด้วย(ที่มา:facebookแชร์ต่อๆกันมา)

ข่าวสารคดีชีวิตสัตว์โลก:(ที่มา:แชร์ต่อๆกันมาทางfacebookยังหาต้นตอไม่เจอ)

คน:เฮ้ย!มาได้ไงวะเนี่ย!

เข้:ผมก็อยู่ของผมดีๆ ว่าแต่พี่มาได้ไงหละเนี่ย?
ข่าวประกาศ-น้องน้ำโปรดทราบ(ภาพแชร์ต่อๆกันมาทางเฟซบุ๊ค)
http://redusala.blogspot.com


สงครามเปลี่ยนระบอบยังไม่ยุติ
 สงครามเปลี่ยนระบอบยังไม่ยุติ
บทความพิเศษโดย...นายฉลาด ยามา
วันที่ 28 ตุลาคม 2554
          ในขณะนี้ วิกฤตมหาอุทกภัย ยังถาโถมกระหน่ำสู่พื้นที่ต่างๆที่ประชาชนอาศัย จะเป็นเขตอุตสาหกรรม ชุมชนหมู่บ้านอย่างเท่าเทียมกันในหลายจังหวัด เรียกได้ว่าน้ำดำเนินการไปด้วยมาตรฐานเดียวอย่างทั่วถึงจริง แม้บางพื้นที่ประชาชนจะพยายามจะสร้างสองมาตรฐานให้กับน้ำ แต่ก็ต้องล้มเหลวกันอย่างไม่เป็นท่ามาแล้วในจำนวนหลายพื้นที่

                 การรักษามาตรฐานของน้ำมันช่างแตกต่างกับสิ่งที่มนุษย์ได้กระทำคนละด้านทีเดียว น้ำรักษามาตรฐานของตนเองได้อย่างมั่นคงเสมอมาโดยปกติ แต่มาตรฐานของมนุษย์ซึ่งเป็นผู้มีสมอง มีความคิด สามารถแยกแยะอะไรดี อะไรไม่ดีและเลือกที่จะทำแต่ในสิ่งดีๆ มนุษย์ไม่สามารถรักษามาตรฐานเดียวกันได้ แปลกแต่เป็นเรื่องจริง ซึ่งมีเหตุการณ์สองมาตรฐานที่มนุษย์สร้างขึ้นมีให้เห็นโดยตลอดนั้นเป็นระยะเวลานานผ่านช่วงหลายอายุคนมาแล้วไม่ทราบว่ากี่ชั่วชีวิตคน และปัจจุบันมนุษย์ยังคงรักษาความเป็นสองมาตรฐานได้อย่างเสมอต้นเสมอปลายไม่ขาดตกบกพร่องแต่อย่างใดเลย

          เขียนมาทั้งหมดหลายท่านก็คงจะงงว่าผู้เขียนเขียนเรื่องอะไรงงมากๆ อย่าเพิ่งงงครับท่านผู้เจริญ
เป็นที่ยอมรับได้อย่างแท้จริงว่าที่ตั้งหัวข้อเรื่องว่า”สงครามเปลี่ยนระบอบยังไม่ยุติ”สงครามในความหมายตามหัวข้อเรื่องนี้ หลายท่านอาจจะคิดว่าสงครามที่ต้องต่อสู้ในขณะนี้คือ การแก้ปัญหาอุทกภัยอันทำให้ประชาชนต้องประสบกับความเดือดร้อนเป็นจำนวนล้านๆคน อันนี้เป็นการแก้ปัญหาอุทกภัย ซึ่งเป็นภัยตามธรรมชาติมิใช่สงครามตามชื่อเรื่อง

           การต่อสู้กับวิกฤตมหาอุทกภัยที่กำลังดำรงอยู่ ขณะนี้รัฐบาลได้ระดมสรรพกำลังของหน่วยงานของรัฐทุกฝ่าย และภาคประชาชนอีกเป็นจำนวนไม่น้อยที่มีมีจิตอาสาเข้ามาร่วมกับรัฐบาลในการแก้ปัญหากับวิกฤตมหาอุทกภัยอย่างเต็มกำลังความสามารถ อันเป็นการบ่งบอกว่ายามพบกับวิกฤตคนไทยจำนวนมากมาร่วมด้วยทั้งนำปัจจัยสิ่งของและแรงงานโดยไม่มีการต่อรองหรือเรียกร้องผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง ลาภยศอะไรทั้งสิ้น ผู้เขียนขอคารวะการกระทำของบุคคลทั้งหลายเหล่านี้ด้วยความจริงใจ และขอเชิดชูการกระทำความดีของท่านทั้งหลายจารึกไว้ในจิตใจของผู้เขียนตลอดไป


          ท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่าน การแก้ปัญหาวิกฤตมหาอุทกภัยนั้นเชื่อว่าปัญหานี้คงจะยุติในเร็วๆนี้ แต่ศึกในสงครามการเปลี่ยนระบอบคือ ระบอบการปกครองของประเทศ นับวันแต่จะรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล กำลังถูกข้าศึกถล่มอาวุธนานาชนิดแบบไม่ยั้งมือทีเดียว อาวุธที่กล่าวถึงนี้เป็นอาวุธมาในรูปสื่อต่างๆ จะเป็นสิ่งพิมพ์หรือหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ อินเตอร์เน็ต เฟสบุ๊ค หรือที่เรียกว่าโลกไซเบอร์ ฯลฯ สื่อต่างๆเหล่านี้นำความเท็จในสัดส่วนมากกว่าความจริงเสนอต่อประชาชน โดยเฉพาะข้อความอันเป็นเท็จนั้น เช่น การใส่ร้ายในแง่มุมต่างๆกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อหวังผลให้รัฐบาลนำโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับความเสียหาย และนำไปสู่การปลุกระดมมวลชน ในวันที่การใส่ร้ายป้ายสีจนประชาชนส่วนใหญ่ มีความเห็นคล้อยตามกับพวกสื่อต่างๆที่ไร้จรรยาบรรณ ไม่คำนึงถึงความถูกผิดเพียงแต่หวังว่า สิ่งที่ตัวเองนำเสนอต่อประชาชนนั้นแม้จะไม่เป็น ความเท็จโดยสมบูรณ์แบบอย่างไร ก็ไม่สามารถทำให้สื่อชั่วๆทั้งหลายเหล่านี้เกิดความละอายแก่ใจตัวเองแต่อย่างใด ขอให้บรรลุวัตถุประสงค์ของตัวเอง 


          แม้ประเทศจะต้องพบกับความเสียหายประชาชนจะเดือดร้อนอย่างไร เขาไม่เดือดร้อนก็พอ พวกเขาไม่สนใจเพียงขออย่างเดียว ขอให้สิ่งที่พวกเขากระทำบรรลุตามวัตถุประสงค์ของพวกเขา ก็ถือว่าเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จ และเป็นผลงานที่เจ้านายของพวกเขาบรรลุตามเป้าหมาย และพวกสื่อเลวๆพวกนี้ก็จะมีรางวัลตอบแทนมีมูลค่าเป็นเงินจำนวนมาก โดยไม่รวมรายการจ่ายในระหว่างปฏิบัติหน้าที่นั้น ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายในขณะปฏิบัติหน้าที่เป็นการกระทำงานที่คุ้มค่ามากทีเดียว

          วัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของคนพวกนี้คืออะไร เป็นคำถามที่มีคำตอบได้ทันทีว่า เขาต้องการแย่งชิงอำนาจรัฐจากรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยแท้ เป็นการยากที่จะล้มรัฐบาลของประชาชน ด้วยเหตุนี้สื่อทุกสาขาทุกแขนง จึงถล่มโจมตีข้อความอันเป็นเท็จมากกว่าความจริง ทำให้ประชาชนเชื่อไปตามนั้น แล้วก็เมื่อถึงโอกาสก็จะทำการชุมนุมขับไล่รัฐบาล โดยข้อกล่าวหาว่าไม่มีความสามารถในการบริหารประเทศชาติ และขาดความชอบธรรม ตามความเท็จที่พวกเขานำเสนอต่อประชาชนไว้แล้ว

           เหตุการณ์ทั้งหมดตามที่นำเสนอมานี้ ขอให้ท่านผู้อ่านจงตั้งสติและตรวจสอบข้อมูลของสื่อ จะเป็นสื่อประเภทไหนก็ตามนำเสนออย่าได้เชื่อทันที และขณะนี้ศึกด้านฝ่ายสื่อถล่มโจมตีรัฐบาลเริ่มมาก่อนเลือกตั้ง และการเลือกตั้งฝ่ายรัฐบาลปัจจุบันก็ชนะแบบขาดลอย แต่คนกลุ่มนี้ก็ไม่ยอมรับว่าอำนาจของประชาชน ได้เลือกรัฐบาลเป็นตัวแทนของตนเอง โดยเขาเห็นว่าอำนาจของประชาชนไม่ศักดิ์สิทธิ์ หรือมีเหตุผลอะไรที่จะไปยอมรับ เพราะการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามความต้องการหรือฝ่ายของตัวเอง คนพวกนี้หรือฝ่ายนี้มีอัตตาสูงมาก(เห็นแก่ตัว)นั่นคือ เขาถือว่าฝ่ายพวกเขามีศักดิ์ศรี มีฐานะเหนือกว่าประชาชน ประชาชนด้อยกว่าคนฝ่ายของพวกตน เมื่อแพ้การเลือกตั้ง พวกเขาหรือฝ่ายเขาจึงไม่อาจจะยอมรับได้ ความคิดเห็นที่คนพวกนี้ประเมินว่า ประชาชนที่ลงคะแนนเสียงให้พรรคเพื่อไทย เป็นพันธุ์มนุษย์ที่ต่ำต้อย โง่เขลา ปัญญาอ่อน เชื่อถืออะไรไม่ได้ ซึ่งต่างจากพวกเขา ที่เป็นมนุษย์พันธุ์พิเศษ ซึ่งสามารถบันดาลทุกสิ่งทุกอย่างได้ตามใจปรารถนา และเหนือกว่านั่นเอง

             ด้วยเหตุดังที่นำเสนอมาแล้ว นายกรัฐมนตรี น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงเป็นเป้าหมายให้กับคนเหล่านี้โจมตี โดยนำเอาความเท็จเสนอต่อประชาชนอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยแต่ประการใด และยังจะดำเนินต่อเนื่องไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายของคนพวกนี้หรือฝ่ายนี้จึงจะยุติ


           เมื่อนำเสนอมาถึงจุดนี้ มีผู้อ่านหลายท่านคงจะเข้าใจได้ แต่จำนวนผู้อ่านอีกจำนวนหนึ่งก็คงจะงง ๆ อยู่ หยุดงงได้แล้วครับ คนกลุ่มดังที่กล่าวเป็นคนของฝ่าย”อำมาตย์”ทั้งนั้น เพราะอำมาตย์เขาควบคุมกลไกของรัฐไว้ได้ทั้งหมด นอกจากจะมีอำนาจควบคุมกลไกรัฐได้เบ็ดเสร็จก็ตาม แต่เขาจะทำอะไรแบบผลีผลามหรือโจ๋งครึ้มเช่นที่เคยทำมาแล้วในอดีตไม่ได้ จึงใช้วิธีเปิดแนวรบโดยใช้สื่อที่อำมาตย์สั่งได้และพร้อมจ่าย ดำเนินการรบในด้านนี้อย่างไม่ยั้งมือ เพราะในอดีตเขาจะใช้วิธีเอาทหารออกมายึดอำนาจเป็นส่วนมาก แต่ในอนาคตต่อไปนี้จะใช้ทหารมายึดอำนาจคงยากแล้ว เพราะจะได้รับการต่อต้านอย่างรุนแรง ยุทธศาสตร์ของพวกอำมาตย์จึงนำวิธีการรบด้วยการใช้สื่อที่เขาสั่งหรือจ่ายได้ทุกแขนงให้ดำเนินการกันอย่างเต็มที่และทำทุกวันทุกเวลาที่มีโอกาสทำได้

          จึงสรุปนำเสนอต่อท่านผู้อ่านขอได้ทราบว่า ”สงครามยังไม่ยุติ” ก็คือสงครามระหว่าง“ฝ่ายประชาธิปไตย” ซึ่งประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจนี้กับ ”ฝ่ายอำมาตยาธิปไตย” ซึ่งมีกลุ่มบุคคลเพียงไม่กี่คนมีอำนาจในการกดขี่ข่มเหง ขูดรีด ฉ้อโกงทรัพยากรของชาติ และทำร้ายให้บาดเจ็บ หรือถึงกับเสียชีวิตตามความต้องการได้โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายและกฎหมายก็ทำอะไรกับคนพวกนี้ไม่ได้

           การปะทะกันระหว่างฝ่าย ”ประชาธิปไตย” กับฝ่าย ”อำมาตย์” เป็นสงครามเปลี่ยนระบอบให้เป็นประชาธิปไตยยังไม่ยุติ 


           ผู้อ่านที่รักประชาธิปไตยและความยุติธรรม เตรียมตัว เตรียมกาย เตรียมใจ เตรียมทุกอย่างให้พร้อมเสมอจะประมาทมิได้เลยแม้แต่เพียงพริบตาเดียว เพราะศึกใหญ่ในสงครามเปลี่ยนระบอบนี้ จะเกิดขึ้นและรุนแรงชนิดที่เราคาดไม่ถึงทีเดียว 


           แต่ถ้าการคาดการณ์ดังกล่าวนี้ไม่เกิดในอนาคต สงครามก็ยุติ แต่โดยข้อเท็จจริงเป็นไปได้ยาก เว้นแต่ฝ่าย ”อำมาตย์” ยอมรับให้ประชาชนปกครองตนเอง ตามระบอบ “ประชาธิปไตย” เช่น นานาอารยะประเทศที่ทั่วโลกเขายึดเป็นกติกา และปฏิบัติตามโดยเคร่งครัดแล้ว วันนั้นแหละ เป็นวันที่สงครามเปลี่ยนระบอบจาก ”อำมาตย์” เป็น “ประชาธิปไตย” ก็จะยุติลงทันที
http://redusala.blogspot.com


จิตอาสา VS จิตอิจฉา
                 วันนี้น้ำกำลังไปถึงกรุงเทพฯในบางส่วน และมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นเพราะน้ำเหนือกรุงเทพฯยังมีจำนวนอีกมากกว่า 3 เท่าของน้ำที่ยังไปไม่ถึงกรุงเทพฯ โอกาสที่กรุงเทพฯจะมีน้ำเพิ่มขึ้นตามเขตต่างๆย่อมจะต้องเพิ่มขึ้น เว้นแต่การแก้ปัญหาน้ำท่วมครั้งนี้ของรัฐบาลหาทางผันน้ำไปทิศทางอื่นได้บ้าง จำนวนน้ำจะท่วมกรุงเทพฯก็อาจจะไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ ซึ่งขณะนี้กำลังแก้ไขกันอยู่อย่างเอาจริงเอาจัง เรียกว่าทุ่มเทกันเต็มความสามารถจริงๆทีเดียว ก็ขอให้จงสำเร็จนะครับ

ในท่ามกลางวิกฤตมหาอุทกภัยครั้งนี้ เราจะเห็นอะไรที่ปรากฏอยู่สองประการ คือ

         1. ประชาชนจำนวนมากต่างช่วยกันสละสิ่งของโดยเฉพาะปัจจัย 4 ซึ่งมีความจำเป็นต่อการดำรงชีพของมนุษย์ทุกชีวิตจะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งมิได้ทีเดียว

         กลุ่มประชาชนทุกอาชีพ เพศชาย เพศหญิง หรือทุกเพศ ต่างร่วมกันนำปัจจัย 4 เป็นจำนวนมากจริงๆ นำไปมอบให้กับผู้ประสบภัย ซึ่งคนเหล่านี้ผู้เขียนก็จะเรียกว่าเป็นบุคคลที่มีจิตอาสา “คำว่าจิตอาสา” เป็นคำที่มีคุณค่า หมายความว่า เป็นการทำหน้าที่เพื่อประโยชน์หรือจิตที่พร้อมสละเวลา แรงกาย ทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แก่มวลมนุษย์ ซึ่งกลุ่มประชาชนจำนวนมากนี้ เขาทำการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์โดยไม่หวังผลตอบแทน หรือชื่อเสียง ลาภยศอะไรทั้งสิ้น เป้าหมายของประชาชนกลุ่มนี้มีเพียงว่า จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ไม่ให้ขาดแคลนปัจจัย 4 คือมิให้ผู้ประสบภัยต้องเดือดร้อนในเรื่องนี้ นับว่าเป็นการกระทำที่จะต้องขออนุโมทนาอย่างยิ่ง อันเป็นความดีงามที่ยากจะบรรยายได้หมด ผู้เขียนก็ขอให้ทุกท่านประสบความสุขความเจริญทั้งปวงในชีวิตของท่านและครอบครัวท่านด้วยนะครับ

           สำหรับคนอีกกลุ่มหนึ่ง คนกลุ่มนี้จะมีความอิจฉาเป็นที่กำหนดซึ่งความอิจฉา หมายความว่า ตามภาษาบาลีใช้คำว่า อิสรา หรือ อิสราเจตสิก คือธรรมชาติที่ปรุงจิต ทำให้จิตเกิดความไม่ยินดี ความริษยาในการได้ลาภได้ยศของผู้อื่น ภาษาไทยใช้คำว่าอิจฉารวมกับคำว่าริษยาไปเลยในคราวเดียวกัน ภาษาบาลีเรียกว่ามูลเหตุ

            ดังนั้นรากเหง้าของความริษยา,โลภะ ปะปนกัน สนใจ พอใจเรื่องของตัวเองเป็นพิเศษจนเกินไปเป็นโลภะ มีศรัทธาจริตขวนขวายไปสนใจคนอื่นว่าถ้ามีลาภ มียศหรือมีอะไรมากกว่าพวกตนหรือจะเป็นการเสมอกับพวกตน คนพวกนี้ก็จะมีความโกรธ ความเกลียดอย่างรุนแรง ต้องแสดงออกไม่ทางกาย ก็ทางวาจา หรือแสดงออกทั้งทางกายและทางวาจา หาทางทำร้ายทำลายฝ่ายตรงข้ามให้ย่อยยับจะด้วยกายหรือวาจาเขาทำกันได้ โดยไม่คำนึงว่าสิ่งที่พวกตนทำไปนั้นจะถูกหรือผิด ไม่มีความจำเป็นของคนพวกนี้จะมีความละอายต่อใครทั้งนั้น เรียกว่าเอาความอิจฉารวมกับโทสะไปด้วยกัน

          ความหมายของ จิตอาสา กับความหมายของความ อิจฉา ตามที่ได้อธิบายให้ทราบความหมายแล้วนั้น ท่านผู้อ่านพอมองเห็นหรือยังครับใครเป็นคนกลุ่มไหน โดยเฉพาะคนกลุ่มจิตอาสาท่านก็คงทราบแล้วว่า คือคนกลุ่มไหน แต่คนกลุ่มที่อิจฉานี่สิ มองกันยาก เพราะคนพวกนี้เล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิง เทคนิคมากมาย วิธีทำร้ายทำลายเพื่อนมนุษย์ด้วยกันมันมากจนบรรยายไม่จบ พวกนี้ไม่แสดงออกทางกาย ก็แสดงออกทางวาจา หาทางที่จะทำให้คนที่พวกตนอิจฉานั้นได้รับความเสียหายต่างๆนานา เพื่อจะเป็นการบำบัดความอิจฉาของตัวเองจนกว่าฝ่ายตรงข้ามจะถูกทำลายจนย่อยยับ ก็จะเป็นที่พึงพอใจของพวกตน 

               แต่ปัญหามีอยู่ว่า ในปัจจุบันนี้ คนกลุ่มนี้ยังควบคุมกลไกของรัฐไว้ได้ทั้งหมด ดังนั้นคนกลุ่มนี้จะพูดเสียงดังกว่าคนกลุ่มจิตอาสา เพราะเหตุว่า สื่อทางทีวี หนังสือพิมพ์ อินเตอร์เน็ต เว็บไซต์ เฟสบุ๊ค หรือฯลฯ เกาะกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่นมาก การที่พวกเขาเกาะกลุ่มกันได้อย่างเหนียวแน่นนี้ เพราะผลประโยชน์ของคนเหล่านี้มันมากเสียจริงๆ หรือถ้าเราจะเรียกแบบชาวบ้านก็คือ จ่ายไม่อั้นนั่นเอง

           การจ่ายไม่อั้นของคนพวกนี้ เอากันตั้งแต่ออกไปเยี่ยมประชาชนที่ถูกน้ำท่วม จำนวนสื่อที่ติดตามคนพวกนี้จะมีจำนวนมากอย่างหนาแน่นกว่าจำนวนของท่านนายก น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ของประเทศไทย ที่ออกไปพบจะเป็นแจกสิ่งของ ถุงยังชีพ หรือจะออกไปตรวจราชการก็ตาม ยังมีสื่อติดตามทำข่าวจำนวนน้อยมากไม่ถึงครึ่งของอีกฝ่ายหนึ่ง แม้จะมีจำนวนน้อยนั้น ก็ยังมีสื่อประเภทมือปืนรับจ้างก็ไม่เสนอข่าวตามข้อเท็จจริง แต่จะพยายามนำความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆหรือขยายข้อเท็จจริงเป็นไปในทางเสียหายแก่นายก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่เสมอ เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในหน้าจอทีวี หนังสือพิมพ์ อินเตอร์เน็ต เฟสบุ๊ค ฯลฯ อยู่ให้เห็นเป็นประจำทุกวัน
            การกระทำของพวกจิตอิจฉา ไม่เพียงแต่การใช้สื่อเป็นเครื่องมือ ยังใช้อิทธิพลที่พวกตนได้ทำลายในหลายสิ่งหลายอย่าง โดยเฉพาะเกี่ยวกับคันกั้นน้ำ ประตูน้ำ ที่มีปัญหามันมิใช่เกิดขึ้นเพราะเหตุเกิดจากธรรมชาติทั้งหมด แต่มีบางส่วนเกิดจากการกระทำของมนุษย์ จะเป็นใครคนไหนไม่ทราบได้ แต่ทราบได้ก็จากกลุ่มคนพวกอิจฉาบางคนนั่นเอง ท่านผู้เจริญทั้งหลายไม่ทราบก็ขอได้โปรดได้รับทราบเถิดว่า ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นความจริง แม้จะทำกันอย่างเป็นความลับแต่ความลับดังกล่าวนี้สวรรค์มีตา ฟ้ามีหู ความลับดังกล่าวนี้จึงมีการแพร่งพรายออกมาให้บุคคลภายนอกได้ทราบ สมดังพุทธสุภาษิตที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า นัตถิ โลเก ระโห นามะ ปาปะกัมมัง ปะกุพพะโต แปลว่า เชื่อว่าความลับของผู้ทำบาปกรรมไม่มีในโลก

          ท่านผู้อ่านครับ อ่านแล้วขอให้เป็นความรู้อย่างหนึ่งและอีกอย่าง ท่านไม่ต้องเครียดนะครับ เพราะโลกนี้หรือที่พระพุทธองค์ได้สอนไว้ว่า มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ มีสุขก็มีทุกข์ มีสรรเสริญก็มีนินทา เรียกว่าโลกธรรม 8 ท่านพุทธศาสนิกชนก็ทราบกันดีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นขอให้ท่านมองว่าโลกนี้คือละคร ทุกท่านก็คงได้ดูหนัง ดูละคร กันมาแล้วทั้งนั้น ในเนื้อเรื่องจะมีฝ่ายพระเอกและฝ่ายตัวร้ายทุกเรื่องไป is that so แปลว่ามันเป็นเช่นนั้นเอง

           เรื่องวิกฤตมหาอุทกภัยก็เช่นเดียวกันกับละครในทุกเรื่อง ฝ่ายพวกจิตอาสา เป็นฝ่ายพระเอกครับ ฝ่ายพวกจิตอิจฉาพวกนี้เป็นฝ่ายตัวร้าย เป็นพวกที่ทำให้วิกฤตมหาอุทกภัยเป็นปัญหาที่พวกเราจะต้องแก้ปัญหาหนักขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น 

          แต่การณ์กลับเป็นว่า ฝ่ายพวกเราต้องเพิ่มแรงกาย แรงใจ ปัจจัย 4 และทรัพย์สินมากขึ้น ก็ทำใจเถิดครับ เพราะแมลงสาบมันไม่มีพิษอะไรหรอก เพียงแต่มันสร้างความรำคาญให้พวกเราเท่านั้น

          อ้อ!ไม่ใช่สิ มันยังมีอีกอย่าง มันเป็นสัตว์ที่เป็นผู้นำเชื้อโรคมาให้เราด้วย โดยเฉพาะโรครถถัง เอ็ม16 และสไนเปอร์เชียวนะ ล้วนเป็นโรคร้ายแรงทั้งนั้น ก็ต้องขอเตือนสติท่านแล้วล่ะว่า อย่าได้ไว้วางใจพวกแมลงสาบพวกนี้เชียวนะ การที่ระวังเชื้อโรคจากไอ้พวกแมลงสาบนี้ ต้องใช้สติปัญญากันใช้จิตที่เข้มแข็งพร้อมเผชิญกับเชื้อโรคร้ายกันอย่างเต็มกำลัง และพร้อมเพรียงกันอย่าแตกแยกกันเป็นอันขาด เพราะเท่าที่ทราบมาเวลานี้ไอ้เจ้าของแมลงสาบ มันส่งแมลงสาบปลอมเข้ามาร่วมกับพวกเราจำนวนไม่น้อยทีเดียวนะครับ นอกจากนี้ยังมีคนฝ่ายเรากลายไปเป็นพวกแมลงสาบก็เริ่มมีให้ฝ่ายเราเห็นกันหลายตัวแล้ว

           ความยุ่งยากที่ฝ่ายจิตอาสาที่ช่วยบรรเทาทุกข์ผู้ประสบอุทกภัยก็มากพอแล้ว ฝ่ายเราจะต้องมาช่วยกันระวังฝ่ายจิตอิจฉาอีก ก็เลยเป็นการทำลายการบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบอุทกภัยอีก ผมขอให้ทุกท่านถือว่าเป็นเรื่องสนุก หรือเป็นการบันเทิงให้ฝ่ายพวกเราก็แล้วกันนะ ถ้าไม่มีอุทกภัยฝ่ายเราก็จะไม่ทราบฝ่ายอิจฉาได้ว่าใครกลุ่มไหนตามที่กล่าวมาแล้วครับ


http://www.pchannel.org/index.php?name=shalad&category=13&file=readknowledge&id=1074
http://redusala.blogspot.com