วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เบื้องหลังประกัน 7 แกนนำ:โดยมานิตย์ จิตจันทร์กลับ
http://www.internetfreedom.us/thread-15244.html
มานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ
แกนนำและที่ปรึกษาแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้­านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบสัดส่วน พรรคเพื่อไทย
และอดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา
ในงานเสวนา"วิกฤติปาก-ท้อง"
จัดโดยชมรมสื่อมวลชนเพื่อประชาธิปไตย
ณ มูลนิธิ111
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2554

[Image: img_2215.jpg]


ไอ้คุณปิ๊สิทธิ...เมิงยังมีหน้ามาเสนอตัวเป็นนายกฯ อีกสมัยหรือครับ
http://www.internetfreedom.us/thread-15246.html
ประเทศนี้ ยังวิบัติไม่พอ ชิมิ ๆ ๆ ๆ พี่มาร์ค

เมื่อวานเห็นเคมเปญ 25 อะไรนี่แหละ ของพรรคประชาวิบัติ ที่ทำงานผ่านโพเดียมมาตลอดกว่า 2 ขวบปี กระผมเห็นท่านนายกฯ กอดและจูบปาก กับไมค์และโพเดียมมาตลอดท่านจะเพิ่มต่าแรง แบบนึกเอา (ที่บ้านเรียก โม้) โดยลืมไปว่าไอ้ห่า คนเพิ่มหนะ เจ้าของโรงงาน เขาจะคุยการขึ้นค่าแรงแบบไตรภาคี ไม่ใช่รัฐบาลมาชี้นิ้วว่าจะเอาแบบนี้

ท่านจะเพิ่มโฉนด ชุมชน 25000 ใบ (เล่นเอาฝันถึง สปก. 4-01 Return)

ท่านจะทำไอ้โน้น จะทำไอ้นี่ ประมาณว่า โฮ้โห...พรรคประชาธิปัตย์ เนี่ย"นี่แม่มสวรรค์ของปวงชนชาวไทยชัด ๆ" ยิ่งกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้า โตชิบ้า ที่เขามักจะยิงแคมเปญว่า โตชิบ้านำสิ่งที่ดี สู่ชีวิต Big GrinBig GrinBig Grin

เล่นเอาผมเกือบเคลิ้ม แบบเมาใบกระท่อม ถ้าไม่คิดถึงสโลแกนอันเก่า ประชาชนต้องมาก่อน กับปฏิบัติการ 99 วันทำได้จริง ที่ประชาวิบัติเคยหาเสียงเอาไว้

พาลทำเอาผมสะดุ้งแทน ปวงชานชวงทรุยแลนด์ มิได้

ปวงชนชาวทุย อย่างผมยัง " แขยง " ไม่หาย กับลดทันที สรรพสามิตรนำ้มัน ลิตรละ 2 บาททันที มาเป็นกระทืบเมิง(ประชาชน) ทันที ลิตรละ 7 บาท

ครั้นสื่อทวงถาม...ว่าทำไมหละ ที่เคยบอกไว้ว่าจะทำแล้วทำไมไม่ทำ

ปิ๊สิทธิ แลบลิ้น สองแฉกตอบออกมาัทันทีว่า "บริบท มันเปลี่ยนไป" (ฮา)

นี่แค่น้ำจิ้ม ที่ปิ๊สิทธิ พูดอย่างแต่ทำอีกอย่าง...

ขี้เกียจจะยกตัวอย่าง การพูดอย่าง แต่ทำอีกอย่าง ซึ่งมันเยอะจนจำไม่ไหว

วันแถลงนโยบาย มันบอกว่า..จะยกระดับให้ประชาชนชาวรากหญ้าได้กินดีอยู่ดี ......

เราก็ได้เห็น ปวงชนชาวไทยทุกระดับเข้าคิวซื้อน้ำมันพืช (ฮาดีมั้ย) ทั้ง ๆ ที่ประเทศนี้ เป็นประเทศเกษตรกรรม และปลูกปาลม์น้ำมัน แต่ถ้าจะมองในทางที่ดี "อาจจะเป็นกุศโลบายลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม" ที่ว่าไม่ว่าจะไฮโว หรือ โลโซ ท่านอาจต้องตบตีกัน จากการเข้าคิวซื้อน้ำมันไปทำกับข้าว

เราจะแก้ไขปัญหาปากท้อง โดยการจ้างคนทำโปรเจค 70 กว่าล้านบาท คิดโครงการช่วยปากท้องชาวบ้าน ด้วยการซื้อขายไข่ด้วยการชั่งกิโลขาย (อันนี้ฮาไม่ออก)

เราได้เห็น กฏเหล็ก 9 ข้อ ที่บอกว่า..รัฐบาลนี้จะไม่มีการโกง...แต่เราได้เห็นภาคธุรกิจออกมาร้องกับสังคมว่า เป็นยุคที่มีการเรียกเก็บค่าหัวคิว หรือค่าปากถุง กับโครงการของรัฐมากที่สุดที่ประเทศไทย เคยมีมา จากเดิม 5 หรือ 10 เปอร์เซ็นต์

แต่ยุครัฐบาล ที่การันตี โดยข้าวเหนียวถั่วดำว่า ประเทศไทยโชคดีได้ได้อภิสิทธิ เป็นนายกฯ "ล่อเข้าไป 25 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์"

เราได้เห็น...ความสนิทสนมกลมเกลียวกันของคนในชาติ ผ่านช่อง 3 หรือชุมชน ในการเยียวยา พี่น้องร่วมชาติจากภัยธรรมชาติ (น้ำท่วม) เล่นเอาปวงชนชาวไทย งง ไม่หายว่า ในขณะนั้นนายกประเทศนี้" ชื่อ อภิสิทธ หรือ สรยุทธ"

เราได้เห็น การขึ้นอันดับ 1 ในเอเชียติดอันดับทอป 5 ในโลก จากการแก้ปัญหาไข้หวัดมรณะ จากฝีมืออันลือเลื่อง ของนายกฯ และรัฐมนตรีสาธารณสุข

เราได้เห็น ฝีมืออันเอกอุ ที่เปลี่ยนการค้าขายตามแนวชายแดนอย่างเป็นสุข กลายเป็น ดินแดนแห่งสงคราม ได้อย่างชนิดที่คาดไม่ถึง

เราได้เห็น !@#$%^&*()_++_)()(**&&^^%$$#@!.. พอเหอะ กูเครียดดดดดดด

ขี้เกียจจะนับ ว่า ท่านได้ทำระยำตำบอนอะไรไว้กับประเทศชาติบ้าง

ไหน ลองบอกมาเป็นภาพรวมสิว่า ...ตั้งแต่ทำงานด้วยปากมา 2 ปีกว่า

มีอะไรที่คิดขึ้นมาเอง แล้วมันเป็นบุญคุญอันใหญ่หลวงกับประเทศนี้บ้าง

ล่าสุด คนไทยในลิเบีย หนีตายด้วยตัวเอง จากการเกิดการจลาจล ประท้วงไล่รัฐบาล จนเกิดสงครามกลางเมือง

หนีตาย โดยไร้การช่วยเหลือ จากรัฐบวยหัวคาน (ที่ไม่ว่าง ตอนนี้กำลังท้าตีท้าต่อยกับประเทศอื่น ๆ อยู่) หนีเพื่อชีวิตตัวเองรอด หนีด้วยความสิ้นหวัง

ยิ่งคนไทยในลิเบีย พูดว่า ถามว่าจะช่วยยังงัย รัฐบาลบอกว่า จะประสาน ประสาน จะประสาน จะประสาน ไม่รู้ประสานเชี่ยยย อารายอยู่ ขนาดประเทศที่แย่ อย่างบังคลาเทศ แม่มยังเอาเรือมารอรับคนของเขาก่อนประเทศทรวยยยยยยยยยเลย

ประเทศทรวย โชคดีที่ได้ปิสิทธ เป็นนายก เจง ๆ

แต่ถ้าคิดอีกที รัฐบาลเทพประทาน เขาก็กระจายความทุกข์ยากให้ปวงชนชาวไทยอย่างทั่้วถึงนะ

ถ้าประชาชนในเมืองทรวยนี้ลำบากลำบนจากพิษข้าวยากหมากแพง จนระบมกันทั่วหน้า

ประชาชนไทยในลิเบีย ก็เอาเรื่องนี้ไป เพื่อเป็นการแบ่งปันความทุกข์ กันทั่วหน้า เดี๋ยวจะหาว่ารัฐบาลนี้ลำเอียง[Image: ihm34.gif][Image: ihm34.gif]

คิดเอาเองแล้วกัน ชีวิตของคนงานไทยในลิเบีย ขึ้นอยู่กับการจับสลากว่า วันนี้ใครจะได้หนีตายก่อน

ได้ยินเสียงนี้บ้างหรือเปล่า ไอ้มาร์ค ไอ้กษิต

ขี้เกียจจะบ่นแระ ผมเหนื่อยใจ อิบอ๋าย

กับรัฐบาลคนดี รัฐบาลคนเก่ง รัฐบาลปากหวาน รูปหล่อ ของป๋า

ยังมีหน้ามาบอกว่า จะขอทำงานอีกสมัย

โธ่....ไอ้วรนัสเอ้ย...แค่นี้ประเทศยังวิบัติไม่พอใช่มั้ย
จำลอง ประกาศ สาวกทางบ้านอย่าเพิ่งออกมามืดฟ้ามัวดินนะจ๊ะ
ที่มา: ASsTV 28 กุมภาพันธ์ 2554
http://www.internetfreedom.us/thread-15248.html
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า พี่น้องที่ดูทีวีอยู่ที่บ้านและพี่น้องที่ชุมนุมอยู่ที่นี่ เป็นไปตามที่เราคาดการณ์ รัฐบาลต้องสั่งสลายการชุมนุม เช้านี้ตำรวจทำความเดือดร้อน รื้อเต็นท์ที่เราใช้บังแดด บังฝน พร้อมกับเปิดการจราจรให้รถวิ่งผ่าฝูงชนเข้ามา เราชุมนุมมาแล้ว 35 วัน ไม่ได้มีอะไรเดือดร้อน การกระทำครั้งนี้เป็นความตั้งใจของรัฐบาล ไม่ได้เป็นความตั้งใจของตำรวจ เนื่องจากรัฐบาลเห็นว่าหากพันธมิตรฯ ชุมนุมอยู่อย่างนี้ เขาแย่แน่ๆ

อย่างไรก็ตาม ตำรวจรื้อเต็นท์เราออกไปเราถือว่าทำตามคำสั่ง แต่ขออย่ารื้อห้องน้ำของเรา เพราะเป็นเงินประชาชน เราใช้ตามความจำเป็น เนื่องจากไม่อยากรบกวนกรุงเทพฯ ที่ต้องเอารถสุขามา จึงได้สร้างขึ้นมาเอง คนมามากไม่มีห้องน้ำจะทำอย่างไร อีกอย่างห้องน้ำของเราสะอาดไม่มีกลิ่นเหม็น

พล.ต.จำลองกล่าวอีกว่า พี่น้องประชาชนที่อยู่ทางบ้านไม่ต้องมามากเป็นพิเศษ ถึงแม้เรารู้ว่ามากกว่านี้ก็ดี แต่ยังไม่จำเป็น เมื่อถึงเวลารัฐบาลจะเป่านกหวีดเอง เราอยู่แค่นี้ก็พอเป็นพอไป ยังไม่จำเป็นต้องมามืดฟ้ามัวดิน แต่ใกล้เข้ามาแล้ว ขอให้มาเป็นปกติก็แล้วกันจัดเวรกันมา ยาวให้เป็น เย็นเรื่อยไป ไขความจริง ออกมาให้มากๆ เราสามารถเอาแผ่นดินรอบเขาวิหารกลับมาได้แน่นอนหากเราชุมนุมกันอยู่อย่างนี้

#####################################

[Image: Image.aspx?ID=554000002763812]

[Image: Image.aspx?ID=554000002763808]

[Image: Image.aspx?ID=554000002763806]

อย่าเพิ่งออกมาแบบมืดฟ้ามัวดินนะจ๊ะ... เดี๋ยวเป่านกหวีดเรียกเอง 555555

[Image: Sep01-Whistle-DogTraining-300x225.jpg]

[Image: 12973254111297339202l.jpg]

ทหารอิเหนาถึงเขมรแล้ว


ไอ่หน้าโง่!..ถือเคล็ดแช่งตัวเองอีกและ...
http://bit.ly/dMPCSI
http://www.internetfreedom.us/thread-15259.html
ปชป.ถือเคล็ด“เลข25”นำโชคลุยเลือกตั้ง
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

[Image: news_img_379337_1.jpg][Image: 0images.jpg]
ปชป. เริ่มเดินหน้าหาเสียง ถือเคล็ด “ เลข 25 ” สร้างนโยบายสานฝันประชาชน อภิสิทธิ์ โวเลือกตั้งครั้งหน้าต้องได้ 250 ที่นั่ง


เมื่อ เวลา 14.30 น วันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอนหนึ่งในงาน “ ร่วมกำหนดอนาคตประเทศไทย “ ซึ่งจัดโดยพรรคประชาธิปัตย์ว่า 

วันนี้ รู้ดีว่าแม้จะแก้ปัญหาไปอย่างไร แต่ก็ไม่เป็นที่พอใจ เพราะยังมีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ แต่คนส่วนใหญ่ ในสังคมมีความอดทน อดกลั้น ยึดมั่นในความสามัคคี ดังนั้นปชป . จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาต่อไป แม้จะมีอุปสรรค 

ที่ผ่านมาตนเองเจอปัญหาทุกรสมีการเอาเลือดไปเทหน้าบ้าน แค่ก็ยังยิ้มได้ เพราะอาสาเข้ามาทำงานแล้ว ไม่มีสิทธิ์บ่น โวยวายหรือบอกให้ประชาชนรับรู้ได้ ต้องเดินหน้าแก้ไขปัญหาต่อไป

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันรัฐบาลกำลังเร่งเดินหน้าในการทำนโยบายเพื่อประชาชนซึ่งมีบางส่วน ดำเนินการไปแล้ว และบางส่วนกำลังดำเนินการ แม้แต่เรื่องน้ำมันปาล์ม ซึ่งได้ให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติดูแลแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำมันปาล์ม แต่ก็ทำดีเกินไป จากเมื่อก่อนที่ปาล์มน้ำมันมีราคาเพียงแค่ 3 บาท ซึ่งทางนายสุเทพ รับปากจะดำเนินการให้ปัญหาน้ำมันขาดแคลน

ทั้งนี้ในเรื่องของน้ำมันปาล์มจะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งในวันที่ 8 มีนาคม คิดว่าแนวโน้มน่าจะดีขึ้น ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลจะดูแล เรื่องการผลิต และคาดว่า ประมาณปลายเดือนมีนาคม หรือเมษายน ผลผลิตจะออกมาเยอะ ราคาก็จะตกลงไปตามปกติ แต่ยืนยันว่ารัฐบาลจะยืนยันราคา 47 บาท โดยไม่ต้องมีเงินรัฐบาลไปอุดหนุน ยอมรับว่าสินค้าราคาแพงต่างๆ รัฐบาลโดนด่า ซึ่งไม่ขอแก้ตัว ซึ่งเราต้องแก้ไขปัญหากันไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า นโยบายต่างๆ ของพรรคที่ออกมาถือเคล็ดเลข 25 ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาอีก 2.5 แสนทุน โฉนดชุมชน จะเพิ่มเป็น 2.5 แสนราย เรื่องยาเสพติดมีการจัดกองกำลัง 2,500 นาย 

เพราะทางนายสุเทพ รองนายกฯ และเลขาพรรคประชาธิปัตย์ บอกแล้วว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า ประมาณกลางปี จะได้ส.ส. 250 คน ซึ่งถ้าเลือกพรรคประชาธิปัตย์ก็จะเดินหน้านโยบายเพื่อประชาชนต่อไป แต่ถ้าเลือกพรรคเพื่อไทย ก็ต้องถามว่าจะทำอะไร แต่เห็นแล้วว่าคงต่างกันนิดเดียว เท่าที่ดูในวันพรุ่งนี้จะมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในเรื่องที่พูดเมื่อปี ที่แล้ว ก็เท่ากับว่า ไม่มีการเดินหน้า มีแต่เดินวน เดินถอยหลัง คิดดูแล้วกันว่าประชาชน จะเลือกอะไร จะเดินหน้า หรือจะเดินวน นี่คือความแตกต่าง

ขณะเดียวกันก่อนหน้านั้นได้มีการเปิดตัวแผนการ รณรงค์การเลือกตั้งของประชาธิปัตย์ ในเคมแปญ“ เดินหน้าต่อไปด้วยนโยบายเพื่อประชาชน ” ซึ่งเป็นการเปิดตัวนโยบายชุดแรก ได้แก่ 1.การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำอีกร้อยละ 25 ภายใน 2 ปี 2.การเพิ่มทุนกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำเพื่อการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย 250,000 คนต่อปี 3.การเพิ่มโฉนดชุมชนให้เกษตรกร 250,000 คน
ไอ้หน้าโง่โหนตัวไหนให้ถือเอาเลข 25
ถ้าเป็นเลขศาสตร์ เลข 25 เอา 2+5 = 7


ปีนี้มหาทักษา ดาวเสาร์ สัญลักษณ์คือเลข 7 เป็นกาลกิณีจรในดวงพรรคประชาธิปัตย์ไปจนถึง วันที่ 6 เมษายน 2554

เอาไว้รอประกาศหลังวันเกิดพรรคไม่ดีกว่าเรอะ...555
แต่ก็อะนะ...


หลังวันที่ 6 เมษา 54 ดาวพฤหัสก็เป็นกาลีจรเข้าฆาตปัสวะชีโว หนักกว่าเก่าเข้าไปอีก 

สัตว์มนุษย์ตัวสุดท้าย ที่ยอมขายวิญญาณพร้อมตระกูลให้กับความระยำต่ำช้า

[Image: g2255932-10.jpg]

วันหนึ่งฝนตกหนัก ไอ้เจ้าคางคกตัวอ้วนๆที่ไม่เคยได้ออกกำลังกายอาศัยอยู่กินแต่ในเวจ ที่กินแล้วก็นอนอืดอยู่แต่ในนั้น มันก็ได้พบเห็นบางสิ่งบ้างอย่างเกิดขึ้น ในท่ามกลางฝนนั้นยังมีอาหารอันโอชะที่มันจะใช้ความสามารถของมันเองโดยการใช้ลิ้นที่ย​าวมากตวัดกินอาหารในสายฝนนั้นได้ มันเป็นอาหาที่เลิศรสกว่าพวกแมลงในเวจที่มันเคยกินเคยสวาปามมา มันเป็นพวกแมลงตัวอ้วนใหญ่สดๆที่หนีสายฝนออกมาจากพงหญ้า มาให้ตัวมันได้ใช้ลิ้นตวัดกินอย่างสำราญใจ
เมื่อมันได้มีโอกาสได้ลิ้มรสมันจึงติดใจและใคร่ที่จะออกไปสู่โลกภายนอกเฉกเช่นสัตว์อ​ื่นกับเขาบ้าง มันลืมสิ้นในคำสอนของพ่อมัน ที่ให้มันแดกแต่พอเพียง อยู่อย่างพอเพียง มันลืมสิ้นทิ้งเวจไว้ข้างหลังและมุ่งหน้าเขาสู้ท้องทุ่งอันกว้างใหญ่แสวงหาที่อยู่ให​ม่เพื่อจะได้เลิกอะไรที่พอเพียงทั้งหมดเสียที
เพราะพ่อของมันแม่ของมันที่อยู่ในเวจ ปากก็ตะโกนปาวๆๆๆออกไปให้ลูกๆ “พอเพียง” แต่ ตนเองนั้นรวยล้นฟ้าล้นแผ่นดิน ทั้งที่ไม่ได้เคยทำมาหากินอะไรเลยเพียงแต่หาเศษหาเลยส่วนที่เป็นอาหารจากน้ำพักน้ำแร​งของลูกๆเท่านั้น มันจึงใคร่จะเลียนแบบพ่อแม่ของมันบ้าง 


ในช่วงนั้นประมาณปี๔๙ปลายปีจนถึงต้นปี๕๓ เป็นช่วงที่เกิดอาเพศหลายๆอย่างกับแผ่นดินที่มันอยู่ เทวดากลับกลายเป็นอสูร นางฟ้ากลายร่างเป็นนางมาร ฝนตกตลอดทั้งปีไม่มีหยุด มีบางครั้งฝนตกหนักมีบางครั้งฝนตกเบาก็แล้วแต่สถานการณ์ในช่วงนั้นๆ
ไอ้คางคกตัวอ้วนๆตัวนั้นเห็นได้โอกาสช่องทางดีจึงคืบคลานออกมากจากเวจนั้น แล้วอาศัยจังหวะที่ท้องฟ้าวิปริต แผ่นดินถูกฝนกระหน่ำ สัตว์เล็กสัตว์น้อยแตกรังกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศคนละทาง
ไอ้เจ้าคางคกตัวอ้วน มันได้เข้าไปอาศัยร่มชายคากับกลุ่มเสือสิงห์กระทิงแรดกับเขาด้วย มันพองตัวเองเหมือนว่าใหญ่นักหนาแล้วก็สามารถทำได้ด้วย มันสามารถแหกตาบรรดาสัตว์เดียรฉานทั้งหลายนั้นได้ มันก้าวขึ้นมาสู่ผู้นำในการแดกอย่างสมใจจนได้ ในชื่อที่โก้หรูว่า “ผบ.ต.ร.”(ผู้บังอาจแดกแต่รวย) ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวบิ๊กตัวหนึ่งในบรรดาพวกสวาปามแล้วไม่ผิดทั้งหลายเช่นเดียวกัน


ที่จะเขียนต่อจากนี้เป็นชื่อจริงนามสกุลจริงของมนุษย์ปกติคนหนึ่ง เป็นคนอีสานโดยกำเนิดพื้นฐานไมใช่ดิบดีมาจากไหนเป็นไพร่โดยกำเนิดเหมือนกับพวกเราทุก​คน จับพลัดจับหูได้มีโอกาสเข้าไปรับใช้ในสำนักพระราชวังในสายงานของความปรอดภัยในยศและต​ำแหน่งที่ใหญ่โต
ในปลายปี๒๕๔๙เกิดการรัฐประหารขึ้น ตนเองอยู่ในฐานะราชองครักษ์ไม่ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ปล่อยให้มีการทำผิดกฎหมายบ้านเมือ​งที่ยิ่งใหญ่ คือการให้ผู้ที่ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยโดยประชาชนเป็นผู้เลือกเข้ามาตาม​รัฐธรรมนูญ ปล่อยให้พวกที่ทำรัฐประหารได้มีโอกาสเข้าเฝ้าองค์พระประมุขในยามวิกาลได้ ถือว่ามีความผิดอย่างร้ายแรงที่สุดในระเบียบราชการในขณะนั้น
แต่กาลกลับเป็นว่า บุคคลผู้นั้นมิได้รับโทษทัณฑ์แต่อย่างใดซ้ำกลับตรงกันข้าม ในเวลาต่อมาท่านผู้นั้นได้รับการปูนบำเหน็จความดีความชอบเสียจนยิ่งใหญ่อย่างชนิดหาใ​ครเทียบไม่ได้ในแผ่นดินนี้
นามท่านผู้นั้น พล.ต.อ. วิเชียร พจน์โพธิ์ศรีตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในยุคปัจจุบัน นามนี้แทบไม่ได้มีบทบาทอะไรสำคัญมากนักเลยแม้แต่เหตุการณ์ในวันที่๑๐เมษายนต์หรือ๑๙พ​ฤษภาคมพ.ศ.๒๕๕๓ที่ผ่านมา ท่านผู้นี้ก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรมากนักทั้งที่เป็นหน้าที่โดยตรงในการปราบปรามประชาชนผ​ู้บริสุทธิ์และกระทำการสังหารประชาชนไปกว่า๙๒คนแบบชนิดที่คนทั้งโลกก็ไม่เคยคาดคิดว่​าคนในประเทศนี้จะกระทำกันได้ถึงเพียงนี้ท่านก็มายุ่งเกี่ยวกับเเรื่องนี้ด้วย
ท่านจึงพ้นมลทินในเรื่องนี้ไปในส่วนของภาคประชานที่ยืนมองอยู่ ส่วนคนที่รับไปเต็มๆในเรื่องนี้ได้แก่อธิบดี ดีเอสไอ ที่ชื่อไอ้ลูกหมา ธาริต เพ็งดิษฐ์แทน และ ก็เป็นเป้าสำคัญในการตามล้างตามล่าต่อไปของบรรดาญาติมิตรผู้ที่เสียชีวิตไปทั้งหลาย ทั้งนี้ด้วยปากที่เป็นเสนียดของตัวมันเองทั้งสิ้น 

เหมือนว่าจะดี แต่ มีเค้าว่ากำลังจะเลว
ประเทศที่มันไม่สงบอยู่ในขณะนี้ เหตุผลหลักๆมีอยู่ไม่กี่เรื่องและหนึ่งในไม่กี่เรื่องงนั้นก็มีเรื่อง สองมาตรฐานในความยุติธรรมรวมอยู่ในนั้นด้วย บ้านเมืองจึงเป็นแดนมิคสัญญีอยู่ในปัจจุบันนี้
พวกหนึ่งทำเลวขนาดไหนก็ไม่เคยผิดอีกพวกหนึ่งออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมขอคืนอำนาจให​้กับประชาชนแค่นั้นมันก็สั่งฆ่าแกงกันไปเลย 

ข่าวยังไม่ได้กรองออกมาว่า “ผบ.ต.ร.กำลังจะสั่งไม่ฟ้องพันมิตร”ในข้อหาก่อการร้าย ข่าวนี้มันยิ่งกว่าการจับแกนนำคนเสื้อแดงเข้าคุกโดยไม่มีความผิดซะอีก มันเป็นข่าวที่สะเทือนใจคนไทยมิใช่น้อย คนทั้งประเทศได้คิด ไม่รู้จะทำความดีไปทำไมอีกแล้วกับประทศนี้ ทำดีมีแต่ฉิบหายเข้าตัว สู้ทำชั่วดีกว่าอนาคตจะได้เจริญรุ่งเรืองด้วยเหมือนไอ้พวกพันธมิตรเสื้อเหลือง
ปล้นสนามบินบุกเข้ายึดทำเนียบฯ ปิดสถานที่ราชการเข้าไปทำลายข้าวของพร้อมขโมยทรัพย์สินสถานีโทรทัศน์ช่อง๑๑หลักฐานข้​อมูลเยอะแยะ ทั้งพยานภาพทั้งพยานบุคคลมากมายมีให้เห็นไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไรได้อีก แต่ทั้งหมดกลับไม่มีความผิดในสายตาของผบ.ตร.


ถ้า..ทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วข้างต้นมันคือเรื่องจริงผบ.ต.ร.ไม่สั่งฟ้องพันธมิตรจริงๆ
สัตว์มนุษย์ตัวสุดท้าย ที่ยอมขายวิญญาณพร้อมตระกูลให้กับความระยำต่ำช้าก็คงไม่พ้น นามนี้ พล.ต.อ. วิเชียร พจน์โพธิ์ศรีหรืออดีตที่เพื่อนๆเรียกขานกันว่า”ไอ้บักหำน้อย”ตัวนี้อีกตัวหนึ่ง
ที่คล้ายกับไอ้คางคกตัวอ้วนๆตัวหนึ่งหลังได้กลิ่นฝนตกหนักก็ออกมาหากิน พองตัวจนมองดูเหมือนใหญ่โตแล้วก็เอาแต่กินกินๆและสร้างความเลวในสายฝนที่ปิดไม่มิดนั​้น นึกว่าคนภายนอกไม่เห็นตามสัญชาติญาณโง่เง่าของมัน

ที่สุดทั้งวงศ์ตระกูลของมันก็ไม่พ้นคนสาปแช่งกันเหมือนไอ้ลูกหมา ธาริต อีกเฉกเช่นเดียวกันเลย ล่าสุดมันแปรเปลี่ยนกระบวนการยุติธรรมอีกแล้ว
สำนวนเดิม ลูกปืนจากทหารที่ยิงนักข่าวญี่ปุ่นในสำนวนการสอบสวนเบื้องต้นสรุปไว้ว่าเป็นของทหาร มันแถไปไกลตามกระแสคำสั่งบวกกับจำนวนเงินที่รับมา เหมือนว่าคนทั้งโลกมันโง่ ตนเองฉลาดแต่เพียงผู้เดียว ลูกปืนคนละชนิดอีกแล้วเป็น คนละอย่างที่ทหารนำมาใช้ ไอ้ระยำมันกล้าหน้าด้านเช่นนั้นจริงๆ
และตัวมันเองเมื่อเกษียณอายุไปแล้วชีวิตก็คงจะไม่ยั่งยืน เป็นอีกเป้าหนึ่งที่ต้องจดไว้ในบัญชีหนังเหี้ยที่ต้องตามล้างตามเช็ดกันไม่เลิกอีต่อ​ไปเช่นกัน 


ขอเตือนด้วยความหวังดี นามสกุล”พจน์โพธิ์ศรี”ที่เคยได้เปลี่ยนจาก “โพธิ์ศรี”มาแล้วครั้งหนึ่ง สมควรแก่บรรดาลูกหลานและญาติควรเลิกใช้ มิฉะนั้น ชาตินี้ทั้งชาตินามสกุลนี้อาจจะไม่มีความสุขได้ครับ
ก็ขอให้เป็นคนๆกันไป ใครระยำแล้วได้ดีอย่าเลียนแบบเพราะวันหนึ่งวันใดเมื่อสิ้นวาสนาผลกรรมที่ก่อไว้ย่อมไ​ม่ไปไหนเสียเวลานี้กรรมมันติดจรวดแล้ว กรรมนั้นต้องอาคืนแน่นอน
แม้ว่าศักดิ์ศรีของความเป็นคนยังคงหลงเหลืออยู่ แต่ถ้าแม้สิ้นแล้วศักดิ์ศรีก็เชิญตามบายครับว่ากันตามสะดวก
พจน์โพธิ์ศรี จะต่ำชั้นเท่ากับ เพ็งดิษฐ์ ก็ไม่ว่ากัน
หรือคางคก

เผื่อว่าบางภาพอาจช่วยตอบคำถามได้

รัฐบาล DSI และไอ้เมือก ออกมาแถมากมายหลายเรื่อง หน้านี้
ลุงคำต๋ำ ขอเถียงมันด้วยภาพก็แล้วกัน

เรื่องแรกที่บอกว่า ช่างภาพญี่ปุ่านตายด้วยปืน AK
ก็เอาภาพนี้ไป

[Image: 01.jpg]



เรื่องที่สอง ที่บอกว่าทหารไทยไม่มีหน่วยไหนใช้ AK  ก็เอาภาพนี้ไป แถมชุดดำให้ด้วย


เรื่องที่สาม ที่บอกว่า คนเสื้อแดง ยิงร่มเกล้า  เอาภาพไอ้คนยิงมาให้ดู
ว่ามันชุดดำ แล้วก็ AK ด้วย สนใจป่าว เดี๋ยวเอาชื่อมาให้ว่าอยู่หน่วยไหน
ที่กระเป๋าสะพายมันมีตัวหนังสือสีขาวเขียนว่า ARMY ด้วยหละ




เรื่องที่สี่ ที่บอกว่าเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง
ดูกันให้ชัด ๆ ว่า พันมิตรควายเหลืองที่ตะหานจ้างมาเผาเมืองหรือปล่าว
มันข้อมือเหลืองวะ คนเสื้อแดงไม่มีข้อมือเหลือง เพราะพวกมึงกล่าวหาว่าเค้าล้มเจ้าไม่ใช่เหรอ
เค้าจะข้อมือเหลืองหาหอกอะไรละวะ




เรื่องที่ห้าที่บอกว่า ทหารไม่ได้ยิงคนเสื้อแดง
ที่แท้ ก็ตะหานไม่ยอมใส่เครื่องแบบ (หน้าตัวเมีย) ยิงประชาชน




เรื่องที่หก ที่บอกว่า คนเสื้อแดงยิง M79 ใส่ทหาร
การปฏิบัติครั้งนี้ ทหารไม่ได้ใช้ M79 ในการปราบปรามประชาชน
ดูกันซะ ใครใช้อะไร ยิงใส่ใคร

http://news.thaihealth.net/wp-content/uploads/firing-m79.jpg

เรื่องที่เจ็ด ทหารไม่ได้ยิงประชาชนแล้วหมาที่ไหนกันเล่า
ที่อยุ่ในรูปข้างล่างนี้




และยังมีเรื่องฟ้องด้วยภาพอีกมากมาย

[รักคนเสื้อแดง] ผู้ก่อการร้ายเมื่อถูกยิงเสียชีวิตแล้วก็มีคนหยิบอาวุธไป (กระทู้ภาคต่อคุณไป่ฉีตอนที่1)

อย่างที่ผมเคยเกริ่นไว้นะครับว่า ที่ยังมีคนไปเชื่อในคำพูดของนายสุเทพที่เคยกล่าวไว้ในสภาว่า "...ที่บอกว่าไม่เคยเจอปืนในมือผู้เสียชีวิต ต้องยอมรับว่าคนเหล่านี้ฝึกมาดี เมื่อปะทะกับเจ้าหน้าที่แนวอยู่กันไกล เจ้าหน้าที่ไม่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ ก็มีการหยิบอาวุธไป..." ขอตอกย้ำอีกครั้งว่าถ้าไม่ใช่เป็นแฟนพันธุ์แท้นายสุเทพประเภทรักจริงหลงจริง ผมว่าคอการเมืองเมื่อได้ดูได้ฟังนายสุเทพอภิปรายโต้ตอบในลักษณะตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จ บางครั้งถึงกับมีบีบเสียงสั่นเครือเหมือนต่อมน้ำตาจะแตก บอกตรงๆ ว่าร้อยทั้งร้อย คอการเมืองทั้งหลายแทบจะอ้วกแตกเมื่อได้ดูนายสุเทพแสดงลีลาขั้นเทพตีบทนาง อิจฉาใส่ความนางเอกแตกกระจุย

แต่ทั้งนี้ถ้าผมพิมพ์ไปโดยไม่แสดงหลักฐาน ก็ดูจะไม่ยุติธรรมกับนายสุเทพและก็อาจมีเพื่อนสมาชิกบางท่านตั้งครหานินทา ได้ว่าผมเชื่อตามที่เขาเล่าว่า แกนนำเล่าว่า จินตนาการเอาเอง หรือถึงขั้นครหาว่าเพราะผมเป็นคนเสื้อแดงผมจึงใช้อคติในการโต้แย้งที่ว่า ผู้เสียชีวิตคนเสื้อแดงไม่มีอาวุธปืนสงครามอยู่ในมือ และไม่ได้เป็นผู้ก่อการร้ายหรือเป็นกองกำลังที่ถูกฝึกมาดี ดังนั้นเพื่อเป็นการพิสูจน์เบื้องต้นผมจะขอนำภาพและคลิปของสื่อต่างๆ รวมไปถึงภาพและคลิปของผู้ชุมนุมเองบางส่วนในบางวันที่มีการเสียชีวิต ที่ใครๆ ก็สามารถหาดูได้จากแหล่งข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต มาใช้เป็นหลักฐานในการยืนยันถ้อยคำตัวอักษรสีแดงพื้นขาวข้างบนโดยมีคำอธิบาย ความประกอบ ดังนี้

วันที่ 13 พฤษภาคม 2553




(คลิกอ่าน > แม่นปช.ผู้เสียชีวิตร่ำไห้ หลังเห็นศพลูก)


สถานที่ สวนลุมพินี ผู้เสียชีวิตชื่อ นายชาติชาย ชาเหลา ที่ได้ทราบข่าวว่าเสธ.แดงถูกยิงเสียชีวิต จึงคว้ากล้องถ่ายวิดีโอเพื่อมาบันทึกภาพเหตุการณ์การปะทะ ผลปรากฎนายชาติชาย ชาเหลาถูกยิงเสียชีวิตโดยมีอาวุธที่อยู่ในมือคือ กล้องวิดีโอ และจากภาพชุดนี้ เราจะเห็นได้ว่ามีนักข่าวที่คอยทำข่าวในแนวปะทะเยอะมาก ไม่ใช่ไม่มี มีน้อย อย่างที่คุณไป่ฉีเคยเข้าใจ


ถ้า ในแนวปะทะมีคนเสื้อแดงที่ถือและใช้อาวุธปืนสงครามอยู่จริง รับรองไม่รอดสายตาเหยี่ยวข่าวพวกนี้หรอกครับ สื่อต่างประเทศรอบโลกถึงขนาดพากันบินมาเพื่อทำข่าวเหตุการณ์ที่เมืองไทยกัน หลายร้อยชีวิตเป็นการเฉพาะเลยนะครับ

สำหรับภาพนี้ ผมหยิบเอามาให้คุณไป่ฉีดูว่า จากการที่สื่อไทยออกข่าวตามหน้าจอทีวี ผู้สื่อข่าวบางรายดันพูดตั้งข้อสงสัยเชิงชี้นำว่าภาพพลุตะไลที่คนเสื้อแดง จุดนั้นเป็นการยิงระเบิด M79 หรือไม่? แท้ที่จริงแล้วอาวุธที่คนเสื้อแดงใช้ตอบโต้หลังจากมีการยิงเสธ.แดงและนาย ชาติชาย ชาเหลา คือ พลุ ตะไล บั้งไฟ ก้อนหิน และหนังสติ๊ก

วันที่ 14 พฤษภาคม 2553



(คลิกอ่าน > ตำรวจแจงเหตุปะทะแยกศาลาแดงตายแล้ว 3 ศพ)


สถานที่ บ่อนไก่ คลองเตย ผู้เสียชีวิตชื่อ นายเสน่ห์ นิลเหลือง ภาพชุดนี้ ผมนำภาพที่ถ่ายจากฝั่งทหารมองไปยังกลุ่มคนเสื้อแดงที่บ่อนไก่ ซึ่งเราจะเห็นภาพคนเสื้อแดงกำลังช่วยกันแบกร่างผู้ที่ถูกยิงออกไป และอีกสองภาพข้างล่างในภาพชุดนี้คือ นายเสน่ห์ นิลเหลือง ที่ถูกยิงเสียเสียชีวิตในขณะที่อาวุธ(หนังสติ๊ก)ยังอยู่ในมือ(แขน) ยังไม่ได้ถูกคน(ผู้ก่อการร้าย)อื่นหยิบไป




สถานที่ ซอยงามดูพลี คลองเตย วันเดียวกัน (14 พ.ค. 53) เป็นภาพเหตุการณ์ที่ทหารทำการกระชับวงล้อม ซึ่งคุณไป่ฉีเคยเข้าใจว่าทหารอยู่กับที่ แต่เสื้อแดงได้ทำการบุกประชิด ผมจึงได้นำภาพชุดนี้มาแสดงยืนยันว่า ใครกันแน่ที่บุกประชิด และภาพชุดนี้จะเป็นหลักฐานที่บ่งบอกว่า นี่หรือคือปฏิบัติการที่รอบคอบ ไม่เชื่อลองไปอ่านเหตุการณ์ทั้งหมดของภาพนี้ครับว่ามีจุดกำเนิดอย่างไรและลง ท้ายด้วยจุดจบอย่างไร (คลิกอ่าน ปากคำ ‘หน่วยกู้ภัย’ : Q: “ยิงทำไม นี่รถพยาบาล?” A: “ก็พวก...”)

วันที่ 15 พฤษภาคม 2553



(คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 24ศพ"ราชปรารภ-สามเหลี่ยมดินแดง")


ภาพชุด 1, 2 และ 3 เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องที่ผู้เสียชีวิตถูกยิงที่ซอยรางน้ำ ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดที่น้องเฌออดีตการ์ดพันธมิตรถูกยิงเสียชีวิตตามคลิป จากภาพชุดคุณไป่ฉีน่าจะเห็นได้ว่า คนเสื้อแดงที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นกองกำลังที่ถูกฝึกมาอย่างดี กำลังพยายามช่วยกันที่จะดึงร่างผู้ถูกยิงและช่วยกันแบกร่างผู้ถูกยิงออกมาในสภาพทุลักทุเลพอควร


อย่าว่าแต่อาวุธปืนสงครามที่ทางนายสุเทพเคยพูดไว้ว่าถูกหยิบไป แม้แต่ชีวิตตนเองก็ยังแทบเอาตัวไม่หรอก ไหนจะห่วงเพื่อนคนเสื้อแดงที่ถูกยิง ไหนจะต้องมาคอยวิ่งหลบกระสุนปืนที่ถูกทหารไล่ยิงในขณะที่กำลังแบกร่างผู้ที่ ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตออกมาด้วย คุณไป่ฉีน่าจะเคยดูคลิปต่างๆ ที่มีมากผ่านตาพอสมควรว่า ในขณะที่คนเสื้อแดงกำลังช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการถูกยิง พวกเขาเหล่านั้นกลับต้องมาถูกยิงเสียเอง ซึ่งภาพเหตุการณ์เหล่านั้นผมจะนำมาแสดงไว้เป็นตัวอย่างอยู่ในลำดับถัดไป

ภาพชุดที่ 1

ภาพชุดที่ 2

ภาพชุดที่ 3

ภาพชุดที่ 4


(คลิกอ่านแม่ปอเต็กตึ๊งร่ำไห้รับศพลูก-เพื่อนเผยยกธงกาชาดแล้วยังถูกยิง)


สถานที่ บ่อนไก่ คลองเตย ผู้เสียชีวิตชื่อ นายมานะ แสนประเสริฐศรี เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิปอเต็กตึ้ง และหน่วยบรรเทาสาธารณภัย ที่ถูกยิงเสียชีวิตที่บ่อนไก่ในวันที่ 15 พ.ค. 2553

  • คำอธิบายภาพชุดที่ 1
  • จากภาพชุดนี้ เราจะได้เห็นนายมานะวิ่งหนีลูกกระสุนเอาตัวรอดครั้งแล้วครั้งเล่า นายมานะได้ช่วยเหลือผู้ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ และมาจนถึงนายมานะได้กลายเป็นผู้ถูกยิงเสียชีวิตเสียเองตามภาพชุดที่ 3 ภาพสุดท้ายในภาพชุดนี้จะมีภาพชายที่ศอฉ.แถลงว่าเป็นผู้ที่มีอาวุธปืนสงคราม M16 วิ่งไปมา ซึ่งเป็นเท็จ และผมจะขออธิบายในช่วงท้าย
  • คำอธิบายภาพชุดที่ 2
  • เป็นภาพนายมานะถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ขอให้คุณไป่ฉีสังเกตว่า มีผู้สื่อข่าวอยู่หลายคน และมีผู้สื่อข่าวคนหนึ่งได้วิ่งเข้าไปช่วยแบกร่างนายมานะออก (ผู้สื่อข่าวคนนี้เป็นคนเดียวกับผู้สื่อข่าวคนที่แบกร่างนักข่าวอิตาลีที่ ถูกยิงเสียชีวิตในวันที่ 19 พฤษภาคม)
  • คำอธิบายภาพชุดที่ 4
  • เอาภาพที่ถ่ายจากมุมทหารมองเข้าไปทางฝั่งผู้ชุมนุม กับ ภาพถ่ายจากมุมผู้ชุมนุมมองไปทางฝั่งทหารในวันเดียวกัน ซึ่งผมขอให้สังเกตร่มแดงเป็นหลัก


และ จากคลิป vdo ของ CNN ที่เป็น Talk of the town นี้เอง ที่ทำให้นายแดน ริเวอร์ ถูกกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลมีการส่งจดหมายไปต่อว่า CNN กล่าวหาว่านายแดน ริเวอร์ทำข่าวบิดเบือน








(คลิกอ่านNick Nostitz in the killing zone) และ (คลิกอ่านนักข่าวเยอรมันยืนยัน...ยิงคนขับแท๊กซี่ตาย)


สถานที่ ปั๊มน้ำมัน ถนนราชปรารภ ผู้เสียชีวิตชื่อ นายชาญณรงค์ พลศรีลา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ผมเคยตั้งกระทู้ทวงสัญญาไก่อูลาออกถ้าโกหกไว้ที่ราชดำเนินพันทิปและกระทู้ได้ถูกลบไปแล้ว แต่คุณไป่ฉีถ้าอยากรู้ก็ยังสามารถเข้าไปหาดูได้ที่เว็บเพื่อนบ้านราชดำเนินดอทNet ที่มีเพื่อนสมาชิกนำไปโพสต์ไว้ (คลิก) จากภาพและคลิปที่ถ่ายทั้งมุมสูงมุมต่ำ คุณไป่ฉีน่าจะเห็นได้ชัดเจนว่ากลุ่มผู้ชุมนุมรวมถึงคนเสื้อแดงไม่มีอาวุธสงคราม และในขณะที่ทำการมอบหลบ ก็ยังไม่วายถูกยิงมาเป็นระยะ ไหนบอกว่าไม่ประสงค์เอาชีวิต ไหนบอกว่ายิงเพื่อขู่ ขณะที่คนเสื้อแดงจะทำการหลบหนีก็ยังไม่วายยิงมาเป็นระยะๆ

วันที่ 16 พฤษภาคม 2553




สถานที่ บ่อนไก่ คลองเตย จากหลายเหตุการณ์คุณไป่ฉีน่าจะเห็นแล้วว่า สถานที่ที่คนเสื้อแดงหรือประชาชนถูกยิงได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จะมีนักข่าวอยู่เต็มไปหมด อย่างที่ผมบอกล่ะครับว่า ทำไมไม่ใครนักข่าวคนไหนสามารถถ่ายภาพคนเสื้อแดงวิ่งถืออาวุธปืนสงครามที่เก็บได้มาเลย ผิดกับภาพข่าวที่ทหารโดน M79 ลงที่แยกสารสินในวันที่ 19 พ.ค. 53 เรายังได้เห็นภาพทหารถือปืนของเพื่อนทหารเช่นภาพนี้


และผมขอให้คุณไป่ฉีช่วยตั้งสังเกตภาพนี้หน่อยนะครับว่ามีอะไรผิดปรกติ (ภาพเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่บ่อนไก่) ก่อนที่จะดูคำเฉลย ซึ่งผมจะบอกไว้ใต้ภาพ



สิ่งที่ผิดปรกติคือ
  • ทหารบอกว่าเสื้อแดงมีกองกำลังติดอาวุธปืนสงคราม เสื้อแดงมีพลซุ่มยิงบนตึกสูง
  • แต่ทหารสามารถเอาเก้าอี้ออกมานั่งล่อเป้านั่งสบายใจเฉิบ ทหารไม่มีใครถูกกระสุนปืนยิงเลย
  • ภาพนี้คือหน้าสนามมวยลุมพินี วันที่ 16 พ.ค. 53
  • กลับกัน ภาพทั่วไปที่คนเสื้อแดงต้องหลบอยู่ในซอย หรือไม่ก็ต้องหลบอยู่ใต้บังเกอร์ยางที่ต้องตั้งสูงท่วมหัว แต่ก็ไม่วายที่จะถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย








"มี 2 สัญชาติเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้":จาตุรนต์


http://www.internetfreedom.us/thread-15183.html

"การที่คุณอภิสิทธิ์บอกว่าจะสละสัญชาติอังกฤษก็ได้แต่ไม่สละนั้นมีความหมายว่า ไม่ว่าที่ผ่านมาคุณอภิสิทธิ์จะเคยใช้สิทธิของการมีสัญชาติอังกฤษหรือไม่ก็ตาม แต่วันหนึ่งข้างหน้าคุณอภิสิทธิ์อาจจะใช้สิทธิของการมีสัญชาติอังกฤษก็ได้ เช่นถ้าในอนาคตจะมีการดำเนินคดีกับคุณอภิสิทธิ์ในข้อหาสั่งการให้สังหารประชาชน แล้วคุณอภิสิทธิ์เกิดเดินทางไปอยู่เสียที่ประเทศอังกฤษแล้วก็ขอใช้สิทธิในฐานะที่มีส​ัญชาติอังกฤษคุณอภิสิทธิ์ก็ย่อมจะได้รับการคุ้มครองอย่างพลเมืองอังกฤษขึ้นมาทันที" 

โดย จาตุรนต์ ฉายแสง
27 กุมภาพันธ์ 2554

ในระยะหลังนี้ ดูเหมือนคุณอภิสิทธิ์จะอยู่ในสภาพโรคซ้ำกรรมซัด ต้องพบกับปัญหาใหญ่ๆที่ตนเองจัดการอะไรไม่ได้ และไม่สามารถใช้ความสามารถในการพูดเอาตัวรอดไปได้ง่ายๆเหมือนระยะก่อนๆ

คุณอภิสิทธิ์ถูกพันธมิตรโจมตีอย่างสาดเสียเทเสีย และในหลายเรื่องก็เป็นเรื่องที่แก้ตัวไม่ได้เสียด้วย

ขณะเดียวกันก็เดินแนวทางที่ผิดพลาดในกรณีความขัดแย้งกับกัมพูชาที่มีแต่จะนำไปสู่ควา​มล้มเหลวเสียหายมากยิ่งขึ้นทุกที

ส่วนปัญหาน้ำมันปาล์มที่ทำให้คนเดือดร้อนกันไปทั่วประเทศและใครที่ติดตามเรื่องพอสมค​วรก็คงจะรู้ว่าผลประโยชน์มหาศาลตกอยู่กับคนของพรรคประชาธิปัตย์เสียเป็นส่วนใหญ่นั้น​ คุณอภิสิทธิ์ก็กลับทำอะไรไม่ได้หรืออาจจะต้องใช้คำพูดว่าไม่คิดทำอะไรเลย

เรื่องเหล่านี้รวมทั้งกรณีทุจริตหรือความล้มเหลวในการบริหารของคุณอภิสิทธิ์อีกจำนวน​มาก ประชาชนทั่วประเทศคงจะรอฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้อย่างใจจดใจจ​่อมากกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลปัจจุบันในครั้งก่อนๆ

และน่าจะพอคาดการณ์ได้ว่าถ้าฝ่ายค้านเตรียมการได้ดีพอสมควรคุณอภิสิทธิ์และรัฐบาลนี้​คงอยู่ในสภาพย่ำแย่เต็มทีแน่ๆ

มีเรื่องหนึ่งที่ผมคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ของคุณอภิสิทธิ์และว่าไปแล้วก็ต้องถือว่าเป็​นเรื่องใหญ่ของประเทศไทยเราเสียมากกว่าที่ควรจะนำมาพูดกันให้เกิดความชัดเจนไปเสียโด​ยไม่ต้องรอจนถึงวันที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้ใจก็คือ เรื่องที่คุณอภิสิทธิ์มี 2 สัญชาติ

เรื่องนี้เริ่มมาจากมีคนนำเรื่องกรณีการสังหารประชาชนเมื่อเดือนเมษา-พฤษภา ปีที่แล้วไปฟ้องศาลคดีอาญาระหว่างประเทศซึ่งหลายคนเชื่อว่าศาลคงไม่รับฟ้อง เพราะรัฐบาลไทยไม่ได้ลงสัตยาบันรับรองอำนาจของศาล แต่ต่อมาก็มีการอธิบายว่าสามารถฟ้องคุณอภิสิทธิ์ได้เนื่องจากคุณอภิสิทธิ์ถือสัญชาติ​อังกฤษด้วย

เมื่อมีการไปถามคุณอภิสิทธิ์ในตอนแรกๆ คุณอภิสิทธิ์ตอบบ่ายเบี่ยงว่าเลือกที่เกิดไม่ได้และในระหว่างที่อยู่ในประเทศอังกฤษไ​ม่เคยใช้สิทธิของพลเมืองอังกฤษเช่นเวลาเรียนหนังสือก็จ่ายค่าเล่าเรียนอย่างชาวต่างป​ระเทศ แต่ไม่บอกว่ายังมีสัญชาติอังกฤษหรือไม่

ต่อมามีการยกประเด็นขึ้นว่าเนื่องจากคุณอภิสิทธิ์เกิดในประเทศอังกฤษ คุณอภิสิทธ์จึงได้สัญชาติโดยอัตโนมัติตามกฎหมายอังกฤษและตราบใดที่คุณอภิสิทธ์ยังไม่​สละสัญชาติอังกฤษ คุณอภิสิทธิ์ก็ยังคงมีสัญชาติอังกฤษด้วยซึ่งก็คือมี 2 สัญชาตินั่นเอง

คุณอภิสิทธิ์บ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบเรื่องนี้ให้กระจ่างอยู่นาน จนกระทั่งถูกจี้ถามในสภาฯซึ่งตอนแรกๆก็ยังใช้สำนวนโวหารบ่ายเบี่ยงประเด็นตามที่ถนัด​เช่น "อยากถามท่านว่าเป็นคนแจ้งเกิดตัวเองหรือไม่"

แต่ในที่สุดก็ยอมรับว่าไม่เคยทำเรื่องสละสัญชาติอังกฤษด้วยเหตุเพราะตนเข้าใจว่าถ้าเ​ป็นกฎหมายที่ขัดกันก็ให้ถือกฎหมายไทยเป็นหลักและตนได้แสดงเจตนามาตลอดว่าใช้สัญชาติไ​ทย

คุณอภิสิทธิ์บอกว่าจะให้สละสัญชาติอังกฤษ สละได้ แต่ถ้าสละตอนนี้ก็อาจถูกหาว่ากลัวจะไปขึ้นศาลโลก คุณอภิสิทธิ์ยังอธิบายต่อไปว่าไม่เคยคิดจะไปหาผลประโยชน์ในประเทศอื่น ที่ทำอยู่คิดถึงแต่ผลประโยชน์ของประเทศไทย และยังบอกด้วยว่าจะให้สละให้เหลือสัญชาติไทยสัญชาติเดียวก็ได้ แต่ถามว่าให้ปฏิบัติอย่างเสมอกันทุกคนเอาไหม

ฟังคุณอภิสิทธิ์อธิบายมาถึงตรงนี้ ผมคิดว่าคุณอภิสิทธิ์เสียศูนย์และผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งแล้ว ผิดพลาดอย่างไม่น่าเชื่อ จะเป็นเพราะกำลังมีเรื่องหนักๆประเดประดังเข้ามาหรือว่าถนัดแต่การใช้โวหารแบบฉาบฉวย​เป็นคราวๆไป พอมาเจอเรื่องยากจริงๆเข้าก็เลยหาคำอธิบายที่เป็นเหตุเป็นผลไม่ได้หรืออย่างไรก็ไม่ท​ราบ

ผมไม่ได้ต้องการวิเคราะห์เรื่องคุณอภิสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีในศาลคดีอาญาระหว่างประเท​ศหรือไม่และก็ไม่ได้สนใจว่าคุณอภิสิทธิ์ควรสละสัญชาติอังกฤษหรือไม่ แต่ผมกำลังสนใจกลับเป็นประเด็นว่าเมื่อคุณอภิสิทธิ์เองก็ยอมรับแล้วว่าตนมี 2 สัญชาติและยังยอมรับด้วยว่าจะสละสัญชาติอังกฤษก็ได้แต่ต้องมีเงื่อนไขอย่างนั้นอย่าง​นี้อย่างที่คุณอภิสิทธิ์ชี้แจงไปนั้น คุณอภิสิทธิ์ยังควรเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยอยู่ต่อไปอีกหรือไม่ หรือถ้าจะพูดให้ถูกต้องยิ่งกว่านั้นก็คือคุณอภิสิทธิ์ควรเป็นนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่ต​้นหรือไม่

เข้าใจว่ามีประชาชนไทยจำนวนหนึ่งที่มี 2 สัญชาติอยู่เหมือนกัน แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่โตอะไร การจะไปไล่หาทางบังคับให้คนเหล่านั้นสละสัญชาติให้เหลือสัญชาติไทยอย่างเดียวบางทีอา​จจะเป็นปัญหากับบ้านเมืองและทำให้ประชาชนเหล่านั้นเดือดร้อนกันเสียเปล่าๆ

แต่คุณอภิสิทธิ์ไม่ใช่ประชาชนทั่วไปแต่เป็นนายกรัฐมนตรี จะอ้างว่าที่คนอื่นถือสัญชาติ 2 สัญชาติได้ ทำไมจะมาให้ตนสละสัญชาติอยู่คนเดียวคงจะอ้างไม่ได้ ส่วนที่บอกว่าไม่ได้เคยคิดหรือทำอะไรเพื่อผลประโยชน์ของประเทศอื่นนั้นก็ไม่ใช่ประเด​็นและไม่มีใครกล่าวหาคุณอภิสิทธิ์ในเรื่องนี้ อย่างน้อยก็ในตอนนี้

ประเด็นอยู่ที่ว่าคนจะเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยต้องมีความรับผิดเท่ากับคนไทยทั่​วไป ไม่ใช่มีอภิสิทธิ์หรือมีภูมิคุ้มกันมากกว่าคนอื่นๆ มิฉะนั้นเวลาที่ทำหน้าที่นายกฯก็อาจจะคิดหรือทำอะไรให้เกิดความเสียหายแก่ประชานหรือ​แก่บ้านเมืองได้เนื่องจากในใจอาจคิดว่าตนเองมีภูมิต้านทานมากกว่าคนไทยทั่วไปก็ได้

การที่คุณอภิสิทธิ์บอกว่าจะสละสัญชาติอังกฤษก็ได้แต่ไม่สละนั้นมีความหมายว่า ไม่ว่าที่ผ่านมาคุณอภิสิทธิ์จะเคยใช้สิทธิของการมีสัญชาติอังกฤษหรือไม่ก็ตาม แต่วันหนึ่งข้างหน้าคุณอภิสิทธิ์อาจจะใช้สิทธิของการมีสัญชาติอังกฤษก็ได้ เช่นถ้าในอนาคตจะมีการดำเนินคดีกับคุณอภิสิทธิ์ในข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับรัฐมนตรีในรัฐ​บาลของตนทุจิตประพฤติมิชอบ หรือสั่งการให้สังหารประชาชนจำนวนมากเป็นต้น แล้วคุณอภิสิทธิ์เกิดเดินทางไปอยู่เสียที่ประเทศอังกฤษแล้วก็ขอใช้สิทธิในฐานะที่มีส​ัญชาติอังกฤษคุณอภิสิทธิ์ก็ย่อมจะได้รับการคุ้มครองอย่างพลเมืองอังกฤษขึ้นมาทันที

เมื่อถึงตอนนั้นข้อตกลงว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนจะใช้ได้กับคุณอภิสิทธิ์ผู้ถือสั​ญชาติอังกฤษหรือไม่ ถ้ารัฐบาลไทยหรือประชาชนไทยจะไปร้องต่อศาลอังกฤษเพื่อให้ส่งตัวคุณอภิสิทธิ์มาขึ้นศา​ลไทยจะทำได้หรือไม่และต้องรออีกเป็นสิบๆปีหรือไม่

กลายเป็นว่าคุณอภิสิทธิ์จะต้องไปขึ้นศาลคดีอาญาระหว่างประเทศหรือไม่ก็น่าสนใจ แต่ตอนนี้กลับมีประเด็นที่น่าเป็นห่วงไม่น้อยเหมือนกันก็คือถึงเวลาที่มีใครจะดำเนิน​คดีคุณอภิสิทธิ์ในประเทศไทย คุณอภิสิทธิ์อาจจะไม่ต้องขึ้นศาลไทยก็ได้

คุณอภิสิทธิ์อาจจะได้รับการคุ้มครองมากกว่าที่ยกมานี้อีกก็ได้ รายละเอียดคงต้องให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยกันศึกษาดู แต่ก็คงไม่ใช่ประเด็นสำคัญในเฉพาะหน้านี้

ประเด็นสำคัญก็คือ เชื่อได้แน่ว่าตลอดเวลาที่คุณอภิสิทธิ์เป็นนายกฯมาจนถึงปัจจุบันรวมถึงในอนาคตข้างหน​้าไม่ว่าจะยังเป็นนายกฯอยู่หรือไม่ก็ตาม คุณอภิสิทธิ์มีภูมิคุ้มกันต่อกฎหมายไทยมากว่าคนอื่นๆ

ผมอธิบายมาถึงตรงนี้ อาจมีบางท่านแย้งว่าถึงแม้จะเป็นเหตุเป็นผล แต่ก็คงไม่เกิดขึ้นในทางปฏิบัติได้ง่ายๆหรอก

กรณีทำนองนี้ไม่ใช่ไม่เคยเกิดมาก่อน เมื่อไม่นานมานี้มีกรณีของประเทศเปรูเป็นตัวอย่าง ประธานาธิบดีของเปรูชื่อนายอัลเบอร์โต ฟูจิมูริ ก็เป็นคนสองสัญชาติ คือสัญชาติเปรูและสัญชาติญี่ปุ่น นายฟูจิมูริถูกรัฐบาลเปรูในเวลาต่อมาดำเนินคดีทั้งเรื่องทุจริตและเรืองการใช้อำนาจโ​ดยมิชอบเป็นข้อหาร้ายแรง มีอยู่ช่วงหนึ่งนายฟูจิมูริได้หนีไปอยู่ในประเทศญี่ปุ่น และในระหว่างนั้นก็ได้รับการคุ้มครองในฐานะเป็นคนญี่ปุ่นจนรัฐบาลเปรูทำอะไรไม่ได้ ต้องรอจนกระทั่งนายฟูจิมูริ ไปวางแผนยึดอำนาจคืนอยู่ที่ชิลีจึงถูกจับในชิลีและถูกส่งตัวไปดำเนินคดีในเปรู นายฟูจิมูริกับรัฐบาลเปรูใครผิดใครถูกอย่างไรผมไม่ขอวิจารณ์

แต่เห็นว่ากรณีนี้เป็นตัวอย่างได้อย่างดีว่าการที่นายกรัฐมนตรีของไทยมีสองสัญชาตินั​้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรให้เกิดขึ้นแน่ด้วยเหตุผลดังที่ได้กล่าวมาแล้ว มีคนไปถามกกต.ซึ่งเข้าใจว่ายังไม่ทันหาข้อมูลให้ชัดเจนและยังไม่ได้ประชุมหารือกันก็ด่วนออกมาชี้แ​จงเสียแล้วว่าการที่คุณอภิสิทธ์มีสองสัญชาติไม่ทำให้ขาดคุณสมบัติเพราะมีคุณสมบัติคร​บถ้วนตามรัฐธรรมนูญ

เรื่องการมีสองสัญชาตินี้ รัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุไว้ แต่โดยสามัญสำนึกก็น่าจะเข้าใจได้ไม่ยากว่าระบบกฎหมายของไทยเราไม่น่ายินยอมให้นายกร​ัฐมนตรีเป็นบุคคลสองสัญชาติไปได้ และถ้าเรื่องนี้ไปสู่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญด้วยวิธีใดก็ตาม หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่เป็นไรแล้วละก็ คงจะสนุกกันใหญ่ละประเทศไทย

แต่ในขั้นนี้ผมคิดว่ายังไม่น่าใส่ใจกับการไปร้องกับกกต.หรือศาลรัฐธรรมนูญให้มากนักเพราะอาจต้องใช้เวลาและไม่เกิดประโยชน์อะไรมากนัก

คงต้องใช้หลักว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาทางการเมืองของประเทศ และเมื่อเป็นเรื่องการเมือง ก็ต้องแก้ด้วยการเมือง ฟ้องประชาชนกันดีกว่า

ขอย้ำครับว่า ผมไม่ได้กำลังบอกว่าคุณอภิสิทธิ์ควรสละสัญชาติอังกฤษเสีย แต่กำลังบอกว่าคุณอภิสิทธิ์ซึ่งรู้อยู่แก่ใจมาตลอดว่าตนเองมี 2 สัญชาติ จะสละสัญชาติก็ได้แต่ไม่สละนั้น ไม่ควรเป็นนายกฯมาตั้งแต่ต้นและไม่ควรเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป

แม่ค้าเสื้อแดงขายน้ำดื่มโผล่ตะโกนด่าไอ้มาร์ค

http://www.internetfreedom.us/thread-15189.html
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะหัวหน้าพรรคปชป.มาร่วมเปิดนโยบายของพรรคปชป. ที่จะใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งต่อไป โดยในระหว่างที่นายอภิสิทธิ์กล่าวบนเวที มีผู้หญิงสวมเสื้อยืดสีดำ อายุประมาณ 40 ปี พร้อมตะโกนด่านายอภิสิทธิ์ ว่าเป็นนายกฯสั่งประชาชน เป็นเวลาเกือบ 1 นาที ซึ่งระหว่างนั้นนายกฯ ก็ชะงักในการกล่าวเปิดงานไปสักครู่ หลังจากนั้นก็ได้กล่าวเปิดงานต่อ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญไปแม่ค้าคนดังกล่าวออกจากบริเวณพื้นที่จัดงาน

นายเดชา ยิ้มอำนวย ผู้ช่วยผู้อำนวยการกองตลาดนัดจตุจักร กล่าวว่า แม่ค้าคนดังกล่าวเป็นแม่ค้าขายน้ำดื่ม ซึ่งร้านอยู่พื้นที่โครงการ 1 ของตลาดนัดจตุจักร นอกนากนี้ผู้ค้าในตลาดจตุจักรทราบดีว่าแม่ค้าคนดังกล่าวเป็นคนที่มีความชื่นชอบคนเสื​้อแดงอย่างมาก

จาก เนชั่นทันข่าว 


สม โดนทุกวันเลย รู้สึกอะไรบ้างป่าว คนเกลียดทั่วไปหมดแถมเค้ามาคนเดียวเค้ายังแสดงออกขนาดนี้เลย

http://www.thairath.co.th/content/pol/152156

[Image: e5444.jpg]


เสียดายไม่มีรูปตอนมันโดนด่า...

รูปตอนมาเปิดงานค่ะ...




[Image: x2_4c9bd46.jpg]


[Image: x2_4c9c3b9.jpg]


[Image: x2_4c9d07d.jpg]



แม่ค้าเสื้อแดงขายน้ำดื่มโผล่ตะโกนด่าไอ้มาร์ค

ออกไปออกไปออกไปออกไปออกไปออกไปออกไปออกไป

[Image: 630.jpg]