วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

จับสุรชัยแซ่ด่าน


สหภาพไทย-อเมริกันเพื่อประชาธิปไตย ยืนจดหมายถึงโอบามา เรียกร้องปล่อยตัวแกนนำและนักโทษคดีหมิ่นฯ
http://www.internetfreedom.us/thread-14213.html
[Image: redsatuscongressmenands.jpg]

เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2554 สหภาพ คนไทย-อเมริกันเพื่อประชาธิปไตย ที่มีสมาชิกกว่าหมื่นคนในสหรัฐฯ
เคลื่อนไหวเข้าพบยื่นจดหมายให้กับ ส.ส. และวุฒิสมาชิกของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่คาลิฟอร์เนีย
ทั้งนี้ตัวแทนสหภาพได้เข้าพบและยื่นหนังสือให้กับ ส.ส. Howard L. Berman ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญ
และอยู่ในคณะกรรมาธิการด้านการต่างประเทศของ สหรัฐฯ รวมทั้งเข้ายื่นจดหมายให้กับวุฒิสมาชิก
Dianne Feinstein ซึ่งเป็นวุฒิสมาชิกที่มีชื่อเสียงและมีบทบาทสำคัญที่วอชิงตัน และได้เข้าพบและยื่นหนังสือให้กับ
ส.ส. อีกสองท่านได้แก่ Henry Waxman ซึ่งเป็น ส.ส. สมัยที่ 3 และมีอิทธิพลในวอชิงตันคนหนึ่งทีเดียว
และสุดท้ายได้ไปยื่นหนังสือให้ ส.ส. Karen Bass ที่ใกล้ชิดกับคณะทำงานของประธานาธิบดีโอบามามาก

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
19 กุมภาพันธ์ 2554


สหภาพคนไทย-อเมริกันเพื่อประชาธิปไตย ที่มีสมาชิกกว่าหมื่นคนในสหรัฐฯ สุดทนกับการรังแกคนเสื้อแดง
เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงประธานาธิบดีบารัค โอบามา เรียกร้องให้สหรัฐฯ ทบทวนนโยบายด้านการเมือง
การทหารกับประเทศไทย พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลไทยปล่อยตัวคนเสื้อแดงและนักโทษคดีหมิ่นฯ ทุกคนที่ถูกจับกุมคุมขัง
พร้อมทั้งจำหน่ายคดีที่ยังค้างอยู่ทั้งหมด ถ้าทำไม่ได้ขอให้ตัดสิทธิ์พิเศษทางการค้าที่มีกับประเทศไทย

การกระทำของสหภาพไทย-อเมริกันเพื่อประชาธิปไตย เป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงเพื่อประกาศให้ชาวโลกรู้ถึงความเป็นจริง
ในประเทศไทย และความอยุติธรรมต่างๆ ที่คนเสื้อแดงและคนจนในประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้

ยิ่งคนไทยตาสว่างมากขึ้นเท่าไร คนที่อยู่ในต่างประเทศก็จะช่วยทำให้โลกตาสว่างไปกับความจริงของประเทศไทย
ด้วยเช่นกัน วันนี้สหภาพไทย-อเมริกันเพื่อประชาธิปไตย บอกว่า "เราตาสว่างแล้ว และกำลังจะช่วยทำให้โลกตาสว่างไปด้วย"
สะท้อนมาว่าคนที่อยู่ในเมืองไทยไม่ได้ต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว พลังคนไทยในต่างประเทศนับแสนคนก็ร่วมสู้ในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

เป็นพลังความสมานฉันท์ของคนไทยในต่างประเทศ ที่ยืนยันว่า "เราจะไม่ทอดทิ้งกัน" และร่วมต่อสู้กับคนเสื้อแดง
และคนไทยผู้รักความยุติธรรมในประเทศไทย

คนเสื้อแดงในสหรัฐอเมริกา และชาวสมาชิกสหภาพไทย-อเมริกันเพื่อประชาธิปไตย ขอได้รับความขอบคุณ
จากพวกเราชาวไทยที่เคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ที่แท้จริง


หมายเหตุ:ไทยอีนิวส์ได้เซ็นเซอร์บางถ้อยคำที่ละเอียดอ่อนในแถลงการณ์นี้

[Image: obamaabhisit.jpg]

สหภาพคนไทย-อเมริกันเพื่อประชาธิปไตย (Union of Thai-Americans for Democracy)
P.O. Box 4293 Inglewood,
CA 90309

18 กุมภาพันธ์ 2554

กราบเรียนท่านประธานาธิบดีโอบามา

ก่อนอื่นพวกเราอยากจะแนะนำตัวเองว่า พวกเราคือชาวอเมริกันเชื้อสายไทยซึ่งมาจากหลากหลายสาขาอาชีพ
อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีสมาชิกประมาณหนึ่งหมื่นคน พวกเราอยากจะเรียนให้ท่านเลิกให้การสนับสนุน
ระบบปกครองศักดินาอำมาตย์กับนาย พลของไทยและรัฐบาลหุ่นเชิดที่นำโดยอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
หัวหน้าพรรคที่เรียกว่า “พรรคประชาธิปปัตย์”

นโยบายต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาที่มีต่อประเทศไทยไม่สามารถใช้ได้กับประเทศไทยอีกต่​อไป
และจำเป็นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง

ในยุคสงครามเวียดนามและสงครามเย็น รัฐบาลสหรัฐมีความกลัวต่อระบบคอมมิวนิสต์ จึงทำทุกอย่างในการ
ที่จะหยุดยั้งการขยายของระบบดังกล่าวนั้น ถึงแม้ว่าท่านจำเป็นจะต้องสนับสนุนเผด็จทางทหารหรือเผด็จการ
ในระบอบอำมาตย์ ศักดินา แต่นั่นก็คือเหตุการณ์ในอดีต

ประชาชนคนไทยในทุกวันนี้ได้รับ ข้อมูลข่าวสารมากขึ้น ไม่เหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา ประชาชนส่วนใหญ่
ของประเทศหิวกระหายต่อการที่จะได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง เช่นที่พวกเราชาวไทยอเมริกันต่างก็มีความสุข
ที่ได้อยู่ในบรรยากาศ ประชาธิปไตยที่ยิ่งใหญ่ที่สหรัฐอเมริกาเช่นนี้

ประชาชนขาวไทย สรรเสริญเยินยอต่อชีวิตการเป็นอยู่ของผู้คนในประเทศสหรัฐและระบอบการเมือง
ที่รัฐบาลต้องมาจากประชาชนโดยประชาชน และเพื่อประชาชน ประชาชนชาวไทยเรียกร้องประชาธิปไตย
และเสรีภาพในการออกความคิดเห็นโดยที่ไม่ กล้วการถูกทำร้ายไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
ในขณะเดียวกันคนไทยก็มีความงุนงงเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลอเมริกันให้การ สนับสนุนเผด็จการที่อำมหิตในประเทศไทยและทั่วโลก

มันเป็นสิ่งที่ผิดอย่างยิ่งที่ทหารไทยใช้ปืนเอ็มสิบหก และสไนเปอร์ ซึ่งได้รับการฝึกฝนจากอเมริกา
เพื่อที่จะเข่นฆ่าคนไทยที่มีแต่มือเปล่า และเข่นฆ่าคนเสื้อแดงที่เรียกหาประชาธิปไตยเท่านั้น พวกเราเพียงแต่ต้องการ
ให้พี่น้องชาวไทยในประเทศไทย มีความเป็นอยู่ที่สงบและอยู่ในสังคมประชาธิปไตย ที่ผู้คนไม่มีความกลัว
ต่อการเสนอความคิดเห็นของตัวเอง หรือมีกฏหมายหมิ่นที่ป่าเถื่อนและไม่เป็นธรรม มาห้ามให้คนวิจารณ์
สถาบันพระ มหากษัตริย์ ถึงแม้ว่าคำวิจารณ์นั้นๆจะตั้งอยู่บนรากฐานของความจริงก็ตาม ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
มีความรุนแรงที่จะต้องติดคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 15 ปี

ภายใต้ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน พระมหากษัตริย์ทรงประมุขของประเทศ ดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย
และทรงแต่งตั้งผู้พิพากษาทั้งหมด ในขณะเดียวกันพระองค์ก็ยังเป็นเจ้าของเครือธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
และพระองค์ยังทรงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การวิพากษ์วิจารณ์
ถึงความจริงเหล่านี้ในประเทศไทย ไม่สามารถรอดพ้นไปจากความเสี่ยงที่จะถูกคุกคามและคุมขัง

พวกเราต้องการให้คนรากหญ้าและคนจนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ มีโอกาสเท่าเทียมกับคนรวยคนชั้นสูงทั้งหลายในกรุงเทพฯ
ในการที่ได้รับการศึกษาที่เท่าเทียม และมีสิทธิในการรับการดูแลรักษาในกรณีที่เจ็บป่วย เมื่ออดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร
ถูกยึดอำนาจโดยรัฐประหาร 2549 - ซึ่งเป็นรัฐประหารที่เห็นชอบโดยที่ปรึกษาระดับสูงของหัวหน้าศักดินาใหญ่
ประชาชนจึงได้ลุกขึ้นประท้วงความอยุติธรรมที่เห็นได้อย่างชัดเจนเช่นนี้

ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคการเมืองของทักษิณ ผู้สนับสนุนอดีตนายกทักษิณจึงได้ตั้งพรรคการเมืองใหม่
เพื่อชิงชัยในการเลือกตั้งใหม่ ผลปรากฏว่าพรรคการเมืองนี้ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น เพียงไม่ถึงหนึ่งปี
เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของวัง นายกรัฐมนตรีถูกตั้งข้อกล่าวหาเกี่ยวกับกฏหมายเลือกตั้ง และก็อีกครั้ง
ที่ฝ่ายสนับสนุนทักษิณตั้งพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมาอีกและได้รับ ชัยชนะที่คูหาเลือกตั้ง อีกครั้งแม้ว่าจะได้
นายกรัฐมนตรีที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่มีความจงรักภักดี ต่อพระมหากษัตริย์ ถึงกระนั้นก็ตาม ระบอบอำมาตย์ศักดินา
ก็มีสัญญาณว่าไม่ไว้ใจเนื่องจากว่า พรรคการเมืองนี้เกิดขึ้นโดยผู้ที่ให้การสนับสนุนอดีตนายกทักษิณ
ในที่สุดก็ถูกโค่นล้มด้วยข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูล และถือเป็นครั้งที่สามที่ศาลรัฐธรรมนูญ
ทำหน้าที่ยุบพรรคของทักษิณและถอดถอน นายกรัฐมนตรี

ในเดือนธันวาคม 2551 โดยได้รับการสนับสนุนจากอำมาตย์ศักดินาอย่างเปิดเผย ผู้นำพรรคประชาธิปไตย
ผู้จบการศึกษาจากอีตัน และอ๊อกซ์ฟอร์ด อภิสิทธิ์ เวชาชีวะ ได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
โดยไม่มีการจัดการเลือกตั้ง

ทักษิณ ผู้สร้างตัวจนเป็นมหาเศรษฐี ไม่แตกต่างจากนักธุรกิจคนอื่นๆ ที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย
แต่สิ่งที่แตกต่างระหว่างเขากับชนช้ันอภิสิทธิชนคนอื่นๆ คือทักษิณมีความห่วงใยในคนทั่วไป และคนรากหญ้าในประเทศไทย
นั่นจึงเป็นที่มาที่ทำให้เขาอยู่ในหัวใจของคนจนในประเทศไทยทั้งประเทศ

ด้วยความเบื่อหน่ายต่อความอยุติธรรมและความฉ้อฉลต่างๆ ในฤดูร้อนปี 2553 ขบวนการคนเสื้อแดงได้ออกมาประท้วง
เรียกร้องให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ยุบสภาและมีการเลือกตั้งใหม่ พวกเขาไม่ได้ขออะไรมากไปกว่านี้ แต่สิ่งที่พวกเขาได้รับกลับเป็น
กระสุนปืนสไนเปอร์จากทหารที่มาจากค่ายรักษา พระองค์ ประชาชนกว่า 90 คน ถูกยิงเสียชีวิต และสูญหาย
และอีกกว่าสองพันคนได้รับบาดเจ็บ ไม่มีรัฐบาลใดที่จ้างสไนเปอร์ยิงประชาชน แล้วยังจะได้รับอนุญาตให้ปกครองประเทศต่อไป

ในขณะที่สร้างภาพลักษณ์ต่อชาวโลกว่าสถานการณ์กลับคืนสู่สภาวะปกติแล้วและได้มีการตั้​งคณะกรรมการ ต่างๆ ขึ้นมา
เพื่อกระบวนการ "การปรองดอง" และการเยียวยา แต่รัฐบาลเผด็จการได้ให้การสนับสนุนอย่างลับๆ ต่อกลุ่มทหารนักฆ่าให้ล่าตัว
และฆ่าปิดปากคนเสื้อแดงฝีปากกล้าที่อยู่ทั่ว ประเทศ แกนนำคนเสื้อแดงที่มอบตัวเพื่อยุติการปราบปรามประชาชนของรัฐบาล
ในช่วงเดือน พฤษภาคม 2553 จำนวนมากยังอยู่ในคุก และหลายคนยังต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ

การสังหารพลเรือนปราศจากอาวุธเมื่อปลายเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2553 คือคำให้การต่อโลกว่า
รัฐบาลเผด็จการในปัจจุบันไม่มีความชอบธรรม โหดร้ายป่าเถือน และจะไม่ยอมให้อะไรทั้งนั้นมาขัดขวาง
การดำรงอยู่ในอำนาจของพวกเขา ความโหดร้ายของพวกเขา และยิ่งจะสร้างความโกรธแค้นให้เกิดในหมู่
ประชาชนมากยิ่งขึ้น รัฐบาลเผด็จการอภิสิทธิ์อาจจะมีปืนและสไนเปอร์ แต่พลังแห่งประชาชนจะชนะในที่สุด

รัฐบาลอเมริกันควรเรียนรู้ข้อผิด พลาดจากประวัติศาสตร์ในอดีต จำได้หรือไม่ เผด็จการของกษัตริย์ชาห์ ของอิหร่าน
นายพลออกัสโต พินโนเช่ ของชิลี รัฐบาลอเมริกาทำให้ประชาชนของสองประเทศมีความเกลียดชังประเทศสหรัฐอเมริกา มาก
เนื่องจากการให้การสนับสนุนที่ไม่ถูกต้อง

ชาวเสื้อแดงมีประมาณ 45 ล้านคน ชาวเสื้อแดงไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย ไม่ใช่พวกคอมมิวนิสต์ เขาเพียงแต่ต้องการเรียกร้องอิสรภาพ
เช่นเดียวกันกับพวกเราชาวอเมริกัน เป็นประชาชนที่ต่อสู้ เช่นเดียวกับชาวตูนีเซีย และชาวอียิปต์
ต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิขั้นพื้นฐานแห่งความเป็นมนุษย์

มันเป็นเรื่องที่ผิดพลาดอย่างยิ่งที่ทหารที่ได้รับการฝึกฝนในการใช้สไนเปอร์และ M 16 จากสหรัฐฯ
ได้ใช้ฝีมือเหล่านั้นในการสังหารพลเรือนที่ปราศจากอาวุธ

โดยสรุปแล้ว พวกเราขอเรียกร้องต่อรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ทบทวนนโยบายเกี่ยวกับประเทศไทย
ที่สอดคล้องกับการเปลียนแปลงอย่างรวดเร็วยิ่งของบรรยากาศทางการเมืองใน ประเทศไทย

พวกเราขอเรียกร้องให้หยุดการให้การช่วยเหลือสนับสนุนทางการ ทหารแก่ประเทศไทย นอกเสียจากว่ามีข้อแม้ที่เข้มงวด
เช่นห้ามการนำอาวุธสงครามไปเข่นฆ่าบุคคลที่ชุมนุมโดยสงบ

โปรดกรุณาเรียกร้องให้ประเทศปลดปล่อยนักโทษการเมือง นักโทษที่โดนกฏหมายหมิ่น รวมทั้งแกนนำเสื้อแดงทั้งหมด
และให้ประกาศจำหน่ายคดีกฏหมายหมิ่นที่ยังคั่งค้างอยู่ทั้งหมด รวมทั้งคดีการเมืองทุกคดี

หากข้อเรียกร้องข้างต้นไม่ได้รับการตอบรับ โดยดี พวกเราขอเรียกร้องให้ตัดสิทธิ์ประเทศไทยออกจาก
กลุ่มประเทศที่ได้รับสิทธิพิเศษทางการค้า และถ้าหากข้อเรียกร้องข้างต้นได้รับการตอบรับและปฏิบัติโดยดี
ประเทศอเมริกาจะเป็นประเทศที่อยู่ในหัวใจของชาวไทยทุกคนที่รักประชาธิปไตย

ด้วยความนับถืออย่างสูง

พวกเราขอแสดงความขอบคุณมายังท่าน

สหภาพคนไทย-อเมริกันเพื่อประชาธิปไตย (UTAD)

Email: utad2011@gmail.com

************************************
ติดตามชมภาพ และอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.thaienews.blogspot.com/

[Image: redsatuscongressmenands.jpg][Image: redsatuscongressmenandsd.jpg]
===============================
 ไม่น่าเชื่อ! กระบวนการยุติธรรมไทย จะตกต่ำถึงขนาดนี้...

http://www.internetfreedom.us/thread-14217.html
[Image: jpl_20110220_081.jpg]

ภาพนี้ภาพเดียวแสดงความรู้สึกแทนประชาชนคนเสื้อแดงได้เป็นอย่างดี....
อีกฝ่ายได้รับการปกป้องดูแล จากกระบวนการยุติธรรมอย่างมากจนล้น....
ตัดสินจากผิดให้การเป็นถูก บิดเบือนหลักกฎหมายช่วยเหลือกันอย่างหน้าด้านๆ....

แต่ประชาชนคนเสื้อแดง กลับถูกปฏิบัติเหมือนไม่ใช่คนไทย....
ใส่ร้าย ยัดเยียดข้อกล่าวหา จับติดคุกขังลืม....

ตุลาการภิวัฒน์ ที่เหล่าคนดีศรีสยามคุยโม้เอาไว้....
มาถึงตรงนี้ถ้ายังไม่รีบกลับตัว...คงถึงคราวต้องวิบัติของจริง...
เพราะตกต่ำถึงขีดสุดแล้ว....สิทธิ์ขั้นพื้นฐานที่ประชาชนจะได้รับ ยังถูกแทรกแซง...
ตุลาการภิวัตน์ เดินมาถึงทางตัน...
เพราะความยุติธรรมพวกคุณยังให้ประชาชนไม่ไ้ด้..."จนต้องมาขอทานความยุติธรรม"....

.......ศักดิ์ศรีพวกคุณจะไม่เหลือแล้วตุลาการทั้งหลายถ้ายังไม่รีบกลับตัว...

จีนป่วน "ปฏิวัติดอกมะลิ" เริ่มก่อตัว รัฐบาลคุมสื่อเข้มhttp://www.internetfreedom.us/forum-2-page-2.html?sortby=started
ทาง การจีนสั่งการให้ตำรวจเข้าสลายการชุมนุมในเมืองใหญ่หลายเมือง หลังมีการเรียกร้องทางอินเตอร์เน็ตให้มีการปฏิวัติดอกมะลิ (Jasmine Revolution)

มีการจับกุมกลุ่มนักรณรงค์ด้านสิทธิหลายราย และประชาชน 3 ราย ถูกควบคุมตัวในเมืองเซี่ยงไฮ้ โดยพบว่าผลการเรียกร้องครั้งนี้ไม่ได้การตอบรับที่ดีนัก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันอาทิตย์ (20 ก.พ.) ว่ารัฐบาลจีนได้บล็อกการค้นหาคำว่า "Jasmine" หรือ "ดอกมะลิ" ที่มาจากคำว่า "Jasmine revolution" ในเว็บบล็อก และเว็บไซต์เว่ยโปที่มีการส่งข้อความสั้นคล้ายทวิตเตอร์ หลังจากที่มีกลุ่มเคลื่อนไหวส่งสารเรียกร้องไปยังประชาชนในเมืองใหญ่ให้ออก มาประท้วงรัฐบาลโดยตะโกนคำว่า "เราต้องการอาหารสำหรับรับประทาน เราต้องการที่พักอาศัย เสรีภาพจงเจริญ และประชาธิปไตยจงเจริญ" ไปตามท้องถนนในกรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว และเมืองใหญ่อีก 10 แห่งของประเทศ

สถานการณ์ดังกล่าวถูกเรียกว่า การปฏิวัติดอกมะลิของชาวจีน (Chinese Jasmine Revolution) อันเนื่องมาจากการว่างงาน ความต้องการอาหารและที่อยู่อาศัย รวมทั้งความต้องการให้ปฏิรูปการเมืองและการยุติการเซ็นเซอร์สื่อมวลชนหลาย ต่อหลายครั้งในการใช้อินเตอร์เน็ตของชาวจีนถูกบุคคลนิรนามโจรกรรมข้อมูล

คำว่า “ปฏิวัติดอกมะลิ” (jasmine revolution) ถูกหยิบยืมมาจากการปฏิวัติสำเร็จในตูนิเซีย ได้ถูกทางการบล็อคทั้งในทวิตเตอร์ และเสิร์ช เอ็นจิ้นต่างๆ นอกจากนี้ ผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือยังไม่สามารถส่งข้อความไปยังผู้อื่นได้ จากนั้นตำรวจนับร้อยรายได้ตรึงกำลังไว้ในบริเวณย่านการค้า แม้ยังไม่ชัดเจนว่าแกนนำที่แท้จริงเป็นใคร
รัฐบาลจีนยังได้เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการนำเสนอข่าวของสื่อใน ประเด็นการประท้วงของชาวตูนิเซีย ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติดอกมะลิ ซึ่งเผยแพร่ไปยังอียิปต์ และหลายประเทศในตะวันออกกลางในเวลานี้

นายหู จิ่นเทา ประธานาธิบดีจีนได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ (19 ก.พ.) แสดงให้ประชาชนทราบว่าได้รับทราบถึงภาวะความไม่พอใจต่อรัฐบาลที่ก่อตัวขึ้น ในสังคมจีน และได้เตือนผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ให้เพิ่มความพยายามในการรักษาเสถียรภาพทาง การเมือง ขณะเดียวกัน ยังได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการ ติดต่อในสังคมเสมือนจริงบนโลกอินเทอร์เน็ต

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานโดยอ้างคำพูดของนายหู ว่า "เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องยกระดับความเข้มแข็ง และพัฒนากลไกในการปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของประชาชน โดยการแก้ไขปัญหาที่อาจส่งผลให้เอกภาพ และเสถียรภาพของสังคมเสียไป และทำการรักษาสิทธิสภาพและผลประโยชน์ของประชาชน รวมทั้งส่งเสริมความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม และรักษาความเป็นระเบียบของสังคม"

ที่มามติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news_detail.ph...&subcatid=
ขอบคุณผู้การแต้มและ ผบ.เรือนจำพิเศษ
[Image: 0untitled.jpg]


-----------------
"วีระ" เชื่อศาลให้ประกันตัวจะช่วยให้บ้านเมืองสงบ


21 กพ. 2554 11:41 น.



ที่ศาลอาญา วีระ มุสิกพงศ์ อดีตปธ.นปช. ขึ้นเบิกความเป็นปากที่สาม เล่าจุดเรื่มต้น-เป้าหมายการชุมนุมเรียกร้องรัฐบาลยุบสภา ไม่ชอบธรรมบริหารบ้านเมืองวีระ อดีตปธ.นปช.เบิกความต่อศาลเชื่อว่าหากให้ประกันแกนนำนปช.จะสร้างความปรอดองบ้านเมืองสงบสุข และเชื่อ 7 แกนนำนปช.จะทำตามสิ่งที่คำให้มั่นต่อศาล

พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พยานปากแรกไต่สวน 7 แกนนำนปช.ยื่นประกัน ระบุช่วงชุมนุมได้รับความร่วมมืออย่างดี ขณะที่เข้าตรวจสอบก็ไม่พบการพกอาวุธ

นายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เบิกความปากสอง ระบุแกนนำ นปช.ประพฤติดีให้ความร่วมมือ ขณะที่บางคนป่วยหนักต้องส่งสถานพยาบาล


ส่วนเสื้อแดงได้เดินทางมาให้กำลังใจอย่างคับคั่งในร่วมฟังการไต่สวนประกัน 7 แกนนำนปช. จนต้องนั่งเก้าอี้บางส่วนนั่งพื้นในห้องพิจารณาคดี 704 ที่รองรับคนได้ 300 ที่นั่ง สำหรับการดูแลรักษาความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกำลังรักษาการณ์ดูแลเรียบร้อยอ​ย่างแน่นหนา พร้อมตรวจสอบคนที่ผ่านเข้าออกห้องพิจารณาคดี

จาก http://breakingnews.nationchannel.com/re...ang=T&cat=
รัฐสภาอังกฤษจ่อสอบสลายคนเสื้อแดง กดดันหาตัวคนผิด

http://www.internetfreedom.us/thread-14264.html
จันทร์ ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2011

ส.ส.อังกฤษส่งสัญญาณผลักดันให้รัฐสภาสอบเรื่อง การสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงในประเทศไทย ระบุจะช่วยกดดันให้นำตัวผู้ทำความผิดมารับโทษหลังรู้ข้อมูลแล้วรับไม่ได้กับการทำให้​ประชาชนบาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมาก


[Image: dsc_0482ss4.jpg]

น.ส.ขวัญระวี วังอุดม ผู้ประสานงานศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายชุมนุมกรณี เมษายน-พฤษภาคม 2553 (ศปช.)

กล่าวถึงผลสรุปการเดินทางไปร่วมสัมมนาและแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับความ รุนแรงทางการเมืองในไทยต่อหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนสากล ตามคำเชิญของรัฐสภาอังกฤษ ที่ประเทศอังกฤษเมื่อเร็วๆนี้ว่า

ได้รายงานเรื่องสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยโดยเฉพาะกรณีการสลายการ ชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน หรือกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค. ปีที่แล้ว ทั้งนี้ ยืนยันว่า ศปช. ไม่ใช่ผู้กุมความจริงทั้งหมด และตระหนักในข้อจำกัดบางประการ เช่น ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของฝ่ายรัฐบาลหรือทหารได้


ศปช. หวังข้อมูลที่ให้เป็นประโยชน์


“สิ่งที่นำเสนอของ ศปช. เป็นเพียงข้อเท็จจริงบางส่วน และหวังว่าจะเป็นเหมือนจิ๊กซอว์หวังให้สังคมช่วยกันปะติดปะต่อ ดิฉันยังพูดถึงการใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การปิดสื่อ การใช้กำลังเกินกว่าเหตุในการสลายชุมนุม รวมทั้งกระบวนการยุติธรรมกรณีจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมและควบคุมตัว การสูญหายของผู้ชุมนุม แม้ยังยืนยันไม่ได้ว่ามีผู้ชุมนุมหายจริงหรือไม่ และด้วยสาเหตุจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ ตลอดจนการคุกคามจากเจ้าหน้าที่รัฐทุกรูปแบบ”


เห็นตรงกันไทยมีปัญหาโครงสร้าง


น.ส.ขวัญระวีกล่าวอีกว่า ในเวทีสัมมนาได้ให้เวลาผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วยพรรคการเมืองต่างๆของ อังกฤษ เช่น Conservative นักข่าวจากสำนักข่าวรอยเตอร์, Guadian, Sunday times องค์กรพัฒนาเอกชนหรือเอ็นจีโอ เช่น Big Brother Watch, Human Rights Watch ตัวแทนสถานทูตสหรัฐ ตัวแทนจากสถานทูตไทย นายเชิดเกียรติ อัตถากร ตลอดจนนักศึกษาไทยและต่างชาติในอังกฤษ รวมถึงบุคคลทั่วไปร่วมแสดงความคิดเห็น โดยส่วนใหญ่ระบุว่า 

ปัญหาที่เกิดขึ้นในเมืองไทยเป็นปัญหาในเชิงโครงสร้างและสถาบันต่างๆ


แฉตัวแทนฝั่งสหรัฐตามอุ้มรัฐบาล


“ที่เป็นประเด็นมากที่สุดคือ การแสดงความคิดเห็นของ มร.แบรด อดัมส์ (Mr.Brad Adams) ผู้อำนวยการแผนกเอเชียจากองค์กรสิทธิมนุษยชนสากล (Human Rights Watch) ของสหรัฐ ซึ่งเปิดประเด็นโดยบอกในลักษณะที่ว่าการละเมิดสิทธิและการลอยนวลมีเรื่องการเมืองและผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ปัญหาที่เกิดขึ้นของสังคมไทยเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมานาน นอกจากนั้นกรณีเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อ เม.ย.-พ.ค. 2553 กลุ่มคนเสื้อแดงมีแผนเผาบ้านเผาเมืองจริง”

[Image: 30026.jpg]

น้องช่างภาพอิตาลีโวยคดีไม่คืบหน้า


น.ส.ขวัญระวีกล่าวอีกว่า สำหรับน้องสาวนายฟาบิโอ โนเลนกี้ ช่างภาพชาวอิตาลี ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ได้รับเชิญให้ร่วมสัมมนาครั้งนี้ ได้พูดถึงการเสียชีวิตของพี่ชายว่า


จากการตรวจสอบคดีความต่างๆล่าสุดพบว่าไม่มีความคืบหน้าใดๆ โดยเฉพาะไม่ทราบเกี่ยวกับรายงานใดๆของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ และยืนยันนายฟาบิโอไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองใด และไม่คิดที่จะเข้าไปข้องเกี่ยว เพราะลำพังแค่การเมืองของอิตาลีเขาก็ยังไม่เข้าใจ


ส.ส.อังกฤษดันสภาสอบสลายเสื้อแดง


“เท่าที่ได้ฟังเสียงปฏิกิริยาจากหลายฝ่ายพบว่าการสัมมนาครั้งนี้ได้รับ เสียงตอบรับดีมาก โดยมี ส.ส. ของอังกฤษคนหนึ่งส่งจดหมายมาว่า รู้สึกเห็นใจและจะช่วยผลักดันเรื่องเข้าสู่รัฐสภาอังกฤษ เพื่อกดดันให้นำตัวผู้กระทำผิดในเหตุการณ์สลายการชุมนุมจนมีผู้เสียชีวิตและ บาดเจ็บจำนวนมากมารับผิดชอบให้ได้” น.ส.ขวัญระวีกล่าว



เครดิต
http://www.dailyworldtoday.com/newsblank...ws_id=9729

พ่อใหญ่จิ๋วชี้เหตุเกิดตะวันออกกลางอาจเกิดในไทยเร็วๆนี้
http://www.internetfreedom.us/thread-14267.html

(21 ก.พ. 54)--พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย กล่าวในงานสัมมนาเตรียมการเลือกตั้งว่า เมื่อดูสถานการณ์ตะวันออกกลาง คือ เหตุการณ์อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ของประเทศไทย เหตุแห่งการก่อความไม่สงบ ส่วนใหญ่มาจากสาเหตุหลักคือ การเมืองต้องมีการปรับตัวเองให้สอดคล้องกับระบบเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลง ในอดีตประเทศไทยเป็นระบบการเกษตร และก็มีคนสองชนชั้น คือ ชนชั้นปกครองบังคับให้ชนชั้นล่าง หรือพวกผู้ใช้แรงงาน ได้ทุ่มเทในการทำงาน ดังนั้นต้องใช้คนที่มีอำนาจจึงทำให้เศรษฐกิจดำเนินการไปได้ ดังนั้นระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมจึงต้องการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่ต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม
เราจึงมีกลุ่มคนที่ลุกขึ้นมาต้องการระบอบประชาธิปไตย เรียกร้องอำนาจอธิปไตย เรียกร้องความเป็นนิติรัฐ เรียกร้องความเสมอภาค และให้มีการเลือกตั้ง นั่นคือรูปแบบที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับตะวันออกกลาง ซึ่งผู้นำใช้การปกครองในระบอบเผด็จการ ประชาชนจึงเรียกสิทธิที่ตัวเองพึงจะมี จึงได้ส่งผลกระทบเป็นแบบโดมิโน
"วันนี้สังคมโลกมีการพัฒนา จากเกษตรล้าหลัง เป็นทุนนิยม และวันนี้ได้มีการพัฒนาไปอีกขั้นแล้ว การพัฒนาแต่ละขั้นตอนทำให้ประเทศเปลี่ยนแปลง แต่ประเทศไทยยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ยังมีการเรียกร้องสิทธิ เสรีภาพความเสมอภาค และมาตรฐานเดียวกัน ดังนั้นบ้านเมืองเราต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างที่สุด" พล.อ.ชวลิต ระบุ
สำหรับการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแน่ แต่ต้องให้เป็นแบบสันติวิธี เป็นจุดมุ่งหมายการทำงานการเมืองของพรรคเพื่อไทย สถาบันหลักของชาติต้องคงอยู่ เพราะเป็นสถาบันที่คู่บ้านคู่เมืองได้ทำสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม ซึ่งการจะไปสู่จุดนั้นได้คือ พรรคเพื่อไทยต้องได้อำนาจรัฐ จากการเป็นรัฐบาล แต่การจะไปได้ถึงจุดนั้นยังมีสิ่งกีดขวางอยู่ โดยเรามีภาระหน้าที่ 5 ประการ คือ 1.ต้องสนับสนุนความคิดผู้นำทหารที่ป้องกันไม่ให้เกิดรัฐประหาร 2.เมื่อไม่มีรัฐประหารแล้ว ภาระหน้าที่ของเราคือต้องลงเลือกตั้งและให้ได้ชัยชนะ 3.ต้องตั้งรัฐบาลให้ได้แต่เป็นรัฐบาลเฉพาะกาลที่ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้ 4.ต้องทำให้ประเทศไทยยิ่งใหญ่ กลับคืนสู่เหมือนอดีต วันนี้เราล้าหลังเหลือเกิน ทะเลาะแม้แต่ประเทศที่เมื่อ 20 ปีก่อนเราไปช่วยจัดระบบประเทศให้ เช่น มาเลเซียและกัมพูชา ประเทศไทยเคยยิ่งใหญ่ ได้รับเกียรติ แต่วันนี้ถอยหลังลงมา 5.นำคนไทยผลัดถิ่น กลับคืนสู่บ้านเกิดเมืองนอนให้ได้ คนไทยต้องยิ่งใหญ่
“เป็น 5 ข้อที่ต้องทำให้ได้ การจะทำให้ได้ต้องมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน อันหนึ่งคือการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม มีนโยบายของพรรคที่จริงใจเพื่อให้ประชาชนสนับสนุน รวมถึงปฏิเสธการทุจริตเลือกตั้ง” พล.อ.ชวลิตกล่าว
ในวันนี้พรรคเพื่อไทย ได้จัดสัมมนาเตรียมการเลือกตั้ง โดยมีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยส.ส.และว่าที่ผู้สมัครส.ส.เข้าร่วมการสัมมนา พร้อมทั้งเชิญตัวแทนคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตัวแทนกระทรวงมหาดไทย และตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้ที่มีส่วนในการอำนวยการเลือกตั้ง เข้าร่วมสัมมนาด้วย
รบ.อังกฤษแถลงแล้วว่า อภิสิทธิ์ มีสัญชาติอังกฤษ (โดยการเกิด)
http://www.internetfreedom.us/thread-14194.html

ตามคำพูดของคนบนเวทีเสื้อแดง เพิ่งจะนาทีที่ผ่านมานี่แหละ อ้างถึงแหล่งข่าวต่างประเทศ

ดูรายละเอียดของผู้รู้ด้านกฏหมาย ได้ที่นี่


shows.:-)/.../3881-เปิดรายงาน-ldquoโรเบิร์ต-อัมสเตอร์ดัมrdquo.html

อาจารย์ปิยบุตร แสงกนกกุล นักวิชาการจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อธิบายระบบศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC ว่า เป็นศาลที่ผู้รับผิดทางอาญาเป็นบุคคลธรรมดา เป็นศาลเสริม เข้าไปไต่สวนในกรณีที่กระบวนการยุติธรรมในประเทศภาคีสมาชิกไม่สามารถดำเนินการได้


ขณะนี้มีประเทศภาคีสมาชิกที่ให้สัตยาบรรณแล้ว 114 ประเทศ มี 54 ประเทศที่ลงนามในสนธิสัญญากรุงโรม แต่ยังไม่ได้ให้สัตยาบรรณ รวมทั้งประเทศไทย



ขอบเขตอำนาจของศาลอาญาระหว่างประเทศ แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ เขตอำนาจทางเวลา
เขตอำนาจทางเนื้อหา และเขตอำนาจทางพื้นที่หรือบุคคล



ศาลอาญาระหว่างประเทศ ดำเนินคดี 4 ฐานความผิด คือ 

การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ อาชญากรรมสงคราม
และการรุกราน



การยื่นฟ้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศกระทำได้ผ่าน 2 องค์กร

คือ
 รัฐภาคี และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แต่นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ยื่นคำร้องผ่านอัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ ให้เปิดการไต่สวนด้วยตนเอง โดยยกประเด็นขอบเขตอำนาจทางพื้นที่


เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีสัญชาติอังกฤษโดยกำเนิด เนื่องจากอังกฤษเป็นรัฐภาคีของศาลอาญาระหว่างประเทศ


อาจารย์ ปิยบุตร สำรวจสถิติคำร้องที่องค์กรต่าง ๆ ยื่นต่อ อัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ ในรอบ 8 ปี นับแต่การก่อตั้งศาลอาญาระหว่างประเทศเมื่อปี 2002 พบว่า มีการยื่นคำร้องถึง 3,000 กว่าคำร้อง แต่ที่มีการเปิดการไต่สวนมีเพียง 20 % เท่านั้น


อาจารย์ ปิยบุตร แบ่งเนื้อหารายงาน 250 หน้า ของโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ยื่นต่ออัยการศาลอาญาระหว่างประเทศเป็น 3 ส่วน คือ ความเป็นมาของคนเสื้อแดง การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการสังหารหมู่ และขอบเขตอำนาจของศาลอาญาระหว่างประเทศ


สื่ออังกฤษ ก็บอกว่า อภิสิทธิ์เกิดที่อังกฤษ

http://www.timesonline.co.uk/tol/news/wo...343643.ece


From Times Online
December 15, 2008
British-born Abhisit Vejjajiva is Thailand's new Prime Minister
Sian Powell in Bangkok

Profile: a decent man elected by disreputable means |

British-born Old Etonian Abhisit Vejjajiva was this morning elected the new prime Minister of Thailand, triggering new protests outside Parliament House in Bangkok.

The 44-year-old former Opposition leader scraped into power, winning as many as 235 parliamentary votes to 198 after many days of intense politicking and a number of defections from the government parties.

He will lead a coalition government after winning the vote nearly two weeks after a court dissolved the ruling party linked to ousted premier Thaksin Shinawatra.

Dozens of angry Thaksin supporters clad in red shirts clashed with police and threw traffic barriers outside the gates of parliament to try to prevent lawmakers from leaving after the parliament.

"Abhisit gained more than half of the vote, therefore I declare that Abhisit has been voted as the new prime minister," House Speaker Chai Chidchob announced.

Mr Abhisit becomes the troubled Asian nation's third prime minister in four months. Sitting in the chamber of Parliament House, Mr Abhisit looked calm as each politician stood and declared their allegiance, many taking the opportunity to say a few words. The result was unsure to the very end, with Puea Thai – the reincarnation of the ruling People Power Party – late last week still insisting it could still retain office, even though a key defector had taken as many as 35 MPs with him to support Mr Abhisit and the Democrat party.

Before the vote began, politicians grouped in huddles, looking anxious and harried.

Thai newspapers reported that Mr Abhisit's party had sequestered a number of the defecting politicians in hotels on Sunday night to ensure they were not wooed backed to the former government coalition, aligned with Thaksin, the deposed and exiled telecoms billionaire.

Once the vote was tallied and Mr Abhisit's victory assured he was surrounded by a phalanx of politicians conveying their good wishes.

Wearing a broad smile he clasped hands and nodded his head at supporters. It is believed he has promised a number of cabinet posts to the coalition parties that supported him.

Mr Abhisit, who was born in Newcastle to Thai parents and educated at Eton and Oxford, has given no immediate indication of the direction his government would take but has previously said his priorities were restoring the economy and forging political unity after months of turmoil.

Outside the parliament a hundred or so pro-government activists in red shirts gathered, with an activist leader shouting the vote was morally wrong, illegal, and a "judicial coup".

The People Power Party, until earlier this month the ruling party in the government coalition, was dissolved by the Constitutional Court following a finding of electoral fraud. At the same time, former prime minister Somchai Wongsawat was deposed and banned from holding political office for five years. At first the government's red-shirt supporters were confident another government could be formed from the majority of MPs who still held office, but a series of defections to the Opposition led, finally, to Mr Abhisit's victory this morning.

When they heard of the vote, the red-shirt activists threw police barricades against the locked gates of parliament, trying to prevent politicians from leaving, but their numbers were few and they were easily overwhelmed by platoons of riot police.

Their opponents, the yellow-shirted People's Alliance for Democracy activists who brought Thailand to a standstill with their siege of Bangkok's airports, count Mr Abhisit's win as their own. Expressing intense hatred for former prime minister Thaksin Shinawatra, and all his allies, they have fought to have Thaksin-aligned parties permanently removed from office.

A pre-recorded video of former Prime Minister Thaksin, whose Thai Rak Thai party was succeeded by the People Power Party, was played to a pro-government rally on Saturday night, where as many as 50,000 red-clad activists roared their approval.

They had originally expected a live phone-in, which was called off, a hitch considered by many to be a sign of Mr Thaksin's waning influence. In the video, Mr Thaksin warned political defectors that their names would be remembered by a loyal populace, and would lose office at the next election. His supporters come mainly from the poor and rural north-east, and it appears they were not told to rally at Parliament House this morning.
Click here to find out more!



เครดิต
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/to...58479.html